ผ่านต้นปีไปแล้ว แต่การเฉลิมฉลองยังไม่สิ้นสุด การเสาะหาของอร่อยๆ รับประทาน คือสวรรค์บนดิน ของผู้รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ หากอยากรับประทานบาร์บีคิว ปิ้งย่างเลิศรส ก็ต้องนึกถึงเนื้อวากิวจากญี่ปุ่ น หากเป็นปาร์ตี้ไก่ทอด ก็ต้องยกให้ผู้เชี่ยวชาญด้ านความอร่อยอย่างเกาหลี แต่ถ้าเป้าหมายในปี 2019 ของคุณคือการมีสุขภาพดี และแซลมอนเป็นสิ่งที่คุณชื่ นชอบเป็นชีวิตจิตใจ นอร์เวย์คือแหล่งแซลมอนชั้นเยี่ ยมสำหรับคุณ
ผู้ชื่นชอบการรั บประทานแซลมอนอาจไม่เคยรู้มาก่ อนว่านอร์เวย์แหล่งกำเนิ ดแซลมอนชั้นดี นอร์เวย์คือผู้ริเริ่ มการเพาะเลี้ยงแซลมอนสมัยใหม่ โดยมีประสบการณ์และความเชี่ ยวชาญเฉพาะด้านมายาวนานกว่า 10 ปี ด้วยการเป็นผู้ผลิตแซลมอนอันดั บหนึ่งของโลก นอร์เวย์เพาะเลี้ยงแซลมอนโดยยึ ดหลักความยั่งยืนและปลาที่มีสุ ขภาพดี นอร์เวย์ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมั ยและระบบการจัดการที่มีประสิทธิ ภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจด้ านอาหารปลอดภัยและการเพาะเลี้ ยงอย่างยั่งยืน หากจะรับประทานบุฟเฟต์แซลมอนครั้ งต่อไป ต้องมั่นใจว่าแซลมอนมาจากนอร์ เวย์เท่านั้น!
หลายคนไม่กล้ารับประทานแซลมอนดิ บเพราะเชื่อว่าอาจเสี่ยงอั นตรายจากพยาธิในลำไส้ แต่มั่นใจได้เลยว่ าแซลมอนจากนอร์เวย์ไม่มีความเสี่ ยงเหล่านั้น ที่สำคัญแซลมอนถึง 90% ที่นำเข้ามายังประเทศไทยคื อแซลมอนจากนอร์เวย์ หากชาวประมงนอร์เวย์ที่ใช้ เวลากว่า 30 เดือน ในการเพาะเลี้ยงแซลมอนมาตั้งแต่ ยังเป็นไข่ ได้ยินสิ่งที่ไม่จริงเหล่านี้ พวกเขาคงจะเสียใจมาก และนี่คือ 8 สิ่งที่ไม่จริงเกี่ยวกับแซลมอน ที่คุณควรทราบ
- แซลมอนถูกเพาะเลี้ยงอยู่
ในสภาพแวดล้อมที่แออัด
ความจริงก็คือแซลมอนนอร์เวย์ถูกเพาะเลี้ยงอย่างดีในสภาพแวดล้ อมที่เหมาะสม แซลมอนอาศัยอยู่ในกระชั งขนาดใหญ่กลางมหาสมุทรแอตแลนติ กที่มีความลึกถึง 40 เมตร โดยกระชังมีเส้นรอบวงถึง 200 เมตร เทียบได้กับเพ้นท์เฮ้าส์ ขนาดใหญ่ที่มีระบบรั กษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา แต่ละกระชังมีแซลมอนอาศัยอยู่ เพียง 2.5% ในขณะที่ส่วนที่เหลือคือน้ำทะเล ภายในน้ำยังมีกล้องที่คอยตรวจดู ความปลอดภัยและการดำรงชีวิ ตของแซลมอน ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
- ปลาแซลมอนมักไม่ได้รั
บสารอาหารที่เพียงพอ
ด้วยระบบการเลี้ยงดูที่ดี มีประสิทธิภาพ อาหารที่ใช้เลี้ยงแซลมอนจึงต้องผ่านการรั บรองตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป (EU) ถือว่าเป็นมาตรฐานที่สูงกว่ าอาหารที่เรารับประทานกันเสียอี ก ส่ วนประกอบมาจากอาหารปลาธรรมชาติ ที่มีส่วนผสมของน้ำมันปลาและพืช ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ทำให้ แซลมอนมีสุขภาพดี
- แซลมอนมักถูกใช้สารเร่งสีเพื่
อให้สวยงาม
เป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์จะฉีดสารเร่งสีให้แซลมอนที่ว่ายอยู่ นับล้านตัว ในมหาสมุทร? ความจริงแล้วเม็ดสี แดงตามธรรมชาติที่ ปรากฎในแซลมอนของนอร์เวย์ มาจากสาร “แอสตาแซนธิน” ซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมู ลอิสระ พบได้ในสัตว์ทะเลเปลือกแข็งซึ่ งเป็นอาหารของแซลมอนที่อยู่ ตามธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ “แอสตาแซนธิน” จึงถูกสกัดและนำไปผลิ ตอาหารสำหรับแซลมอน นอกจากเป็นสารอาหารสำคัญสำหรั บแซลมอนแล้ว ยังทำให้แซลมอนมีสีสันสวยงาม เนื้อปลามีสีส้มน่ารับประทานเป็ นอย่างยิ่ง
- แซลมอนเลี้ยงมักเสี่ยงอั
นตรายจากพยาธิในลำไส้และมั กพบยาปฏิชีวนะในปริมาณมาก
แซลมอนเลี้ยงของนอร์เวย์ไม่มีความเสี่ยงในการพบพยาธิในลำไส้ แต่อย่างใด เนื่องจากปลากินอาหารที่ได้รั บการรับรองตามมาตรฐานของสหภาพยุ โรป (EU) ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง จึงไม่มีพยาธิในลำไส้อย่างแน่ นอน ผู้เชี่ยวชาญในประเทศนอร์เวย์ ได้พัฒนาวัคซีนยาที่ใช้ป้องกั นและรักษาโรคให้กับแซลมอน ส่วนการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นไปอย่ างจำกัด เพื่อให้การเพาะเลี้ยงแซลมอนเป็ นไปอย่างยั่งยืน จำนวนของแซลมอนนอร์เวย์ที่ได้รั บยาปฏิชีวนะจึงมีน้อยกว่า 1% และหลังได้รับยาปฏิชีวนะก็ต้ องผ่านกระบวนการตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารตกค้ างในตัวปลา ก่อนผ่านกระบวนการต่างๆ มาสู่จานอาหารของท่าน
- แซลมอนเลี้ยงเต็มไปด้วยสารปนเปื้
อน
ความปลอดภัยของอาหารเป็นหัวใจสำคัญของการเพาะเลี้ยงแซลมอน และชาวนอร์เวย์เองก็ให้ความสำคั ญกับความปลอดภัยของอาหารเป็นอย่ างมาก นอร์เวย์เพาะเลี้ยงแซลมอนปฎิบั ติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรปอย่ างเคร่งครัด และมีมาตรการตรวจสอบสารปนเปื้ อนที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้ อมรวมถึงสิ่งไม่พึงประสงค์อื่ นที่อาจส่งผลกระทบต่อแซลมอนเลี้ ยง โดยมีการสุ่ มตรวจแซลมอนจากจำนวนที่ผลิตทั้ งหมดในหนึ่งปี เพื่อนำมาตรวจสอบปริมาณสารปนเปื้ อน ด้วยเหตุนี้ แซลมอนจากนอร์เวย์จึงเป็นหนึ่ งในอาหารที่ปลอดภัยต่อการบริ โภคมากที่สุด เพราะโอกาสที่จะพบสารโลหะหนั กหรือสารปรอท และระดับสารกำจัดศัตรูพืชถือว่ าต่ำกว่าปริมาณที่กำหนด ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร และมีปริมาณน้อยกว่าเมื่อเที ยบกับแซลมอนที่เติ บโตตามธรรมชาติปัจจัยสำคั ญมาจากอาหารที่ใช้เลี้ ยงแซลมอนนั่นเอง
- แซลมอนส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่น
ย้อนไปในปีช่วงต้นปีค.ศ.1980 นอร์เวย์ผลิตแซลมอนสำหรับบริโภคภายในประเทศเท่านั้น แต่เนื่องจากปริมาณผลผลิตมี มากเกินความต้องการ พวกเขาจึงตัดสินใจส่ งออกแซลมอนที่สดและอร่อยไปยั งประเทศญี่ปุ่น ที่ประชากรในประเทศชื่ นชอบการบริโภคปลาดิบ หลังจากใช้เวลากว่า 2-3 ปีในการโน้มน้าวให้คนญี่ปุ่นหั นมาบริโภคแซลมอนจากนอร์เวย์ ในที่สุดชาวญี่ปุ่นก็ยอมรั บแซลมอนที่แหวกว่ายในน้ำทะเลที่ เย็นเฉียบและใสสะอาดของนอร์เวย์ การผสมผสานวั ฒนธรรมอาหารของชาวญี่ปุ่นโดยใช้ แซลมอนสดจากนอร์เวย์จึงเริ่มขึ้ น เกิดเป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อของญี่ ปุ่น ได้แก่ ซาชิมิแซลมอนและซูชิ ทำให้แซลมอนกลายเป็นปลาที่คนนิ ยมบริโภคในรูปแบบซูชิและซาชิมิ มากที่สุดในโลก
- แซลมอนที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ
มีกรดไขมันโอเมกา-3 มากกว่าแซลมอนเลี้ยง
ความจริงแล้วแซลมอนเลี้ ยงของนอร์เวย์มีปริมาณไขมันดี มากกว่าแซลมอนที่อาศั ยตามธรรมชาติ จึงทำให้มีกรดไขมันโอเมกา-3 มากกว่า และเนื่องจากอาหารที่ใช้เลี้ ยงแซลมอนมีสารอาหารที่ดีต่อสุ ขภาพ ทำจากวัตถุดิบที่ดี จึงทำให้แซลมอนเลี้ยงมีรสชาติ อร่อยกว่า ที่สำคัญแซลมอนเลี้ยงมีไขมั นแบบไม่อิ่มตัวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเรารับประทานเข้าไปแล้วไม่ อ้วนแน่นอน
- แซลมอนตัวผู้รสชาติดีกว่
าแซลมอนตัวเมีย
ไม่จริงเอาเสียเลย ในนอร์เวย์ แซลมอนเลี้ยงได้รับการส่งออกสู่ตลาดก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และไม่ว่าจะเป็นแซลมอนตัวผู้หรื อตัวเมีย พวกมันจะถูกเลี้ยงด้วยอาหารที่ เหมือนกัน โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแซลมอนเพศใด รสชาติก็อร่อยเหมือนกันทั้งนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น