ผู้ถือหุ้น TFG โหวตจ่ายปันผลจากงวดผลการดำเนิ นงานปี 61 เป็นเงินสดในอัตรา 0.013 บาท/หุ้น เตรียมรับเงินวันที่ 10 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหาร“วินัย เตียวสมบูรณ์กิจ”มั่นใจปี 62 เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ หลังทุ่มลงทุนเพิ่มประสิทธิ ภาพการผลิต-ควบคุมต้นทุนสินค้า ในช่วงที่ผ่านมา หนุนกำไรขั้นต้นพุ่ง คาดยอดขายกระฉูด แถมยังได้อานิสงส์ราคาเนื้อไก่- สุกรขาขึ้น หนุนรายได้มีโอกาสทำสถิติสูงสุ ดใหม่
นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้ นประจำปี 2562 ในวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายปั นผลจากงวดผลการดำเนินงานในปี 2561 (1 มกราคม-31 ธันวาคม 2561) เป็นเงินสดในอัตรา 0.013 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ซึ่งในช่วงก่อนหน้าบริษัทฯได้มี การจ่ายเงินปันผลระหว่ างกาลในงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 ไปแล้วในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับครั้งนี้ ส่งผลให้ในปี 2561 มีการจ่ายเงินปันผลรวมเป็นเงิน0.083 บาท/หุ้น
"ในปีที่ผ่านเราได้เตรียมพร้ อมสำหรับการสร้างมูลค่า (Value) ให้กับไทยฟู้ดส์ ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวสิ่ งที่เกิดขึ้นจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นโรงอาหารสัตว์ใหม่ ที่จะเริ่มเตรียมผลิตได้ในเดื อนมิถุนายน 2562 นี้"
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2562 คาดว่ายอดขายและรายได้มี โอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปริมาณขายทั้งในและต่ างประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่บริษั ทฯพยายามเจาะตลาดใหม่ๆ และส่งสินค้าใหม่ที่มีอั ตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูง เข้าไปบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีดีมานด์เป็นจำนวนมาก โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มี การขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิ ทธิภาพการผลิต และขีดความสามารถการแข่งขัน รองรับการเติบโตที่แข็งแกร่ งและยั่งยืนในอนาคต
นอกจากยอดขายที่เพิ่มขึ้ นจากการเพิ่มกำลังการผลิต และการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆในต่ างประเทศ ที่ให้มาร์จิ้นในสัดส่วนสูง ปีนี้เรายังได้รับปัจจัยหนุ นจากราคาเนื้อไก่และสุกร ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ผลประกอบการน่าจะเติบโตอย่ างมีนัยสำคัญ โดยในส่วนของโรงงานไก่ปรุงสุก ในปีนี้ จะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทฯ โดยในปัจจุบันเริ่มมีออเดอร์ ของลูกค้าจากต่างประเทศเข้ ามาแล้ว
ขณะเดียวกันธุรกิจอาหารสัตว์ ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น หลังจากที่บริษัทฯได้มีการเพิ่ มกำลังการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อขายให้กลุ่มลูกค้านอกเครื อมากขึ้น โดยปัจจุบันมีปริมาณขายนอกเครื อเพียง 20% และตั้งเป้าในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้าสัดส่วนขายนอกเครื อจะเพิ่มขึ้นเป็น 50%
นอกจากนี้ ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ลดต้ นทุนจากการบริหารจัดการให้ดีขึ้ น เช่น การบริหารจัดการการเก็บสินค้ าคงเหลือ การบริหารจัดการระบบการขนส่ง การจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบและอุ ปกรณ์ เป็นต้น อีกทั้งบริษัทฯยังลดต้นทุ นจากการเพิ่มประสิทธิภาพของไลน์ ผลิตจากการลงทุนในเครื่องจักร Automation ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมี Cost Saving เกิดขึ้นจากการดำเนินการและเริ่ มเห็นผลตั้งแต่ต้นปี 2562
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น