ไขรหัส “Hologram Brain”: ศาสตร์แห่งจิตใต้สำนึก เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ล้ำสมัย - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ไขรหัส “Hologram Brain”: ศาสตร์แห่งจิตใต้สำนึก เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ล้ำสมัย

 


แนวคิดของ “Hologram Brain” หรือ “สมองเงา” ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นความจริงที่มีอยู่แล้วมาเนิ่นนาน เพียงแต่ในปัจจุบัน โลกเริ่มมีเครื่องมือและมุมมองที่เปิดกว้างมากพอจะมองเห็นสิ่งนี้ได้ชัดเจนขึ้น แนวคิดนี้เคยถูกเสนอไว้โดยนักวิทยาศาสตร์อย่าง Karl Pribram และ David Bohm ในนามทฤษฎี “Holographic Brain Theory” ซึ่งในยุคปัจจุบันก็มีงานวิจัยด้าน Neuroscience, Brainwave Entrainment และ Affective Computing ที่ช่วยตอกย้ำความเป็นไปได้ของสมองในมิติเชิงโฮโลแกรมมากขึ้น เช่นเดียวกับที่ “ครูเอวา – สุรัญญา ธรรมสุนทร” ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดล็อกศักยภาพมนุษย์และศาสตร์จิตใต้สำนึก ได้นำเสนอแนวคิด “Hologram Brain” ในฐานะมิติใหม่ของการเข้าใจกลไกภายในที่ขับเคลื่อนชีวิตมนุษย์ ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและการไขว่คว้าความสำเร็จที่จับต้องได้

ต้นกำเนิดแนวคิด “Hologram Brain”: การสังเกตสู่ความเข้าใจรหัสชีวิต

“จุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ ไม่ได้มาจากห้องทดลอง แต่มาจากการสังเกตชีวิตจริงของผู้คน—โดยเฉพาะคนที่ดูเหมือนจะมีทุกอย่างในสายตาของสังคม ทั้งชื่อเสียง ความสำเร็จ และเงินทอง แต่กลับต้องเผชิญกับชีวิตครอบครัวที่พังทลาย หรือความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ครูเคยตั้งคำถามว่า ‘ทำไมคนที่มีครบทุกอย่าง ถึงรักษาสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตไว้ไม่ได้?’ ลองดูตัวอย่างของคู่รักชื่อดังอย่าง ซงจุงกิ และ ซงเฮเคียว หรือกรณีของ Will Smith, Angelina Jolie ปัญหาเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากการไม่มีเวลา หรือไม่พยายาม แต่มันมาจาก ‘รหัสในจิตใต้สำนึก’ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง—รหัสที่เรามักไม่รู้ตัวว่ามันกำลังกำหนดวิธีรัก วิธีตอบสนอง และแม้แต่วิธีพังของแต่ละคนอยู่เงียบ ๆ สิ่งนี้เองที่พาครูไปสู่โลกของ ‘จิตใต้สำนึก’ และต่อยอดจนกลายเป็นแนวคิด Hologram Brain—สมองเงาที่สะท้อนความเชื่อ ความทรงจำและคลื่นพลังงานลึกของเรา ซึ่งกำลังควบคุมทุกผลลัพธ์ในชีวิตของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว”

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: การยืนยัน “Hologram Brain” ในโลกปัจจุบัน

 “ความจริงแล้ว แนวคิดของ ‘Hologram Brain’ หรือ ‘สมองเงา’ ไม่ได้เพิ่งเริ่มเป็นจริง แต่เป็น ความจริงที่มีอยู่แล้วมานาน เพียงแต่โลกเพิ่งเริ่มมีเครื่องมือ และ ‘สายตาใหม่’ ที่เปิดกว้างพอจะมองเห็นมัน ในอดีต นักวิทยาศาสตร์อย่าง Karl Pribram และ David Bohm เคยเสนอแนวคิด ‘Holographic Brain Theory’ ในยุคปัจจุบันงานวิจัยด้าน Neuroscience, Brainwave Entrainment,และAffective Computing เริ่มตอกย้ำสิ่งนี้มากขึ้น เช่น การศึกษาโดยสถาบัน HeartMath Institute การค้นพบคลื่นสมอง Theta และ Delta นอกจากนี้ เรายังเห็นแนวโน้มของการพัฒนา Digital Twin Technology ทั้งหมดนี้กำลังยืนยันสิ่งที่แนวคิด Hologram Brain พูดมาตลอดว่า ‘สมองของเรา ไม่ได้อยู่แค่ในกะโหลก แต่กระจายอยู่ในพลังงาน ความทรงจำ และความรู้สึกที่เราส่งออกไปทุกวัน’

สำหรับหลักการเชื่อมโยงของ Hologram Brain กับสมองจริง ครูเอวากล่าวเสริมว่า “มันเชื่อมผ่านคลื่นสมองระดับลึก เช่น Theta และ Delta ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองเข้าสู่ภาวะไร้ตัวตนและจิตใต้สำนึกเปิดกว้างที่สุด ในช่วงนี้ สมองจะเริ่ม ‘บันทึกใหม่’ และ ‘ปล่อยข้อมูลเดิม’ ที่ไม่จำเป็นออกไป ครูเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น ‘ช่วงเวลาที่สมองสามารถเขียนโค้ดใหม่ได้’ และนั่นคือช่วงเวลาที่ Hologram Brain ทำงานจริง”

การประยุกต์ใช้ “Hologram Brain”: จากทฤษฎีสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต

ครูเอวาได้นำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้จริงในการเรียนการสอน ด้วยการออกแบบโปรแกรมที่ชื่อว่า ‘Recode You’ โดยใช้ Hologram Brain เป็นกลไกหลัก ผู้เรียนจะถูกนำเข้าสู่คลื่นสมองระดับ Theta และ Delta ผ่านการนอนหลับลึก (deep sleep) พร้อมเทคนิคการโปรแกรมจิตใต้สำนึก เมื่อทำซ้ำต่อเนื่อง สมองใหม่จะเริ่มจดจำวิธีคิดใหม่ พฤติกรรมใหม่ และปล่อยของเก่าออกไปโดยไม่ต้องฝืน สิ่งนี้ช่วยให้คนจำนวนมากเปลี่ยนชีวิตได้จากภายใน

“สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจสร้าง Hologram Brain ให้ตนเอง ครูเอวาให้คำแนะนำว่า ต้องเริ่มจากการสังเกตคลื่นความคิดของตัวเอง และฝึกเขียนโค้ดใหม่ให้จิตใต้สำนึก เช่น การใช้คำพูดซ้ำ ๆ (affirmation), การนอนให้ลึกขึ้น, และการบันทึกความรู้สึกในช่วงก่อนหลับ เพราะช่วงเวลานั้นคือประตูเข้าสู่ Hologram Brain ถ้าทำเป็นประจำ คุณจะสร้างพลังงานใหม่ให้ตัวเองได้โดยไม่ต้องพยายาม”

 “ต้องเข้าใจก่อนว่า ‘Hologram Brain’ ไม่ใช่อะไรที่เราต้องไปสร้างขึ้นมาใหม่—มันทำงานอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว... การทำงานกับ Hologram Brain จึงไม่ใช่แค่การเข้าใจมัน แต่คือการ ‘เขียนรหัสใหม่’ ให้มันบันทึกข้อมูลใหม่อย่างเป็นระบบ เมื่อรหัสใหม่ถูกฝังลงไป ระบบของ Hologram Brain จะเริ่ม

‘รันโปรแกรมใหม่’ แบบอัตโนมัติ นี่ไม่ใช่แค่การเยียวยาใจชั่วคราว แต่มันคือการปลดล็อกตัวตนใหม่ที่มีอยู่แล้วในคุณ และเมื่อ Hologram Brain ได้รับสัญญาณใหม่ มันจะทำงานเพื่อพาคุณไปสู่ชีวิตใหม่โดยธรรมชาติ”

“Hologram Brain” กับอนาคตของสังคมและศักยภาพมนุษย์

 “ความจริงแล้ว ประเทศไทยของเรามีการ ‘โปรแกรมจิตใต้สำนึกของผู้คนในชาติ’ มาตลอดอยู่แล้ว... แต่หากเราศึกษาเรื่อง Hologram Brain และ การโปรแกรมจิตใต้สำนึก อย่างลึกซึ้งมากขึ้น เราจะเห็นโอกาสมหาศาลที่รอการปลดล็อกอยู่—นั่นคือการ ‘อัปเกรดรหัสของคนในชาติ’ ให้กล้าคิดใหญ่ขึ้น... เพราะทุกวันนี้ เราไม่ได้ขาดความสามารถ แต่เราขาด ‘โปรแกรมในใจ’ ที่บอกว่า ‘ฉันไปได้ไกลกว่านี้’ประเทศไทยจะไม่ใช่แค่ชาติที่สงบสุข แต่จะเป็นชาติที่สงบ และยิ่งใหญ่ในเวลาเดียวกัน”

หากต้องออกแบบ Hologram Brain ของตนเอง ครูเอวากล่าวว่า “ใน Hologram Brain ของครู…

ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง ความกล้าหาญที่จะเป็นตัวเอง และศรัทธาเต็มเปี่ยมในมนุษย์และจักรวาล ล้วนเป็นพลังที่ ‘อยู่ใน Hologram brain ของครู’ อยู่แล้ว... แต่ถ้าให้ใส่ ‘พลังเสริม’ เข้าไปในโปรแกรมของตัวเอง ครูอยากใส่พลังของจินตนาการที่ไร้ขอบเขต... เพื่อให้ทุกการสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่ลึก… แต่มีประโยชน์อย่างแท้จริงต่อมนุษย์และโลกใบนี้”

 “อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า ‘คุณไม่ได้เป็นเหยื่อของความคิดตัวเอง’ จิตใต้สำนึกไม่ใช่สิ่งที่ต้องยอมรับตามที่มันเป็น แต่คือ สนามพลังที่เราสามารถออกแบบใหม่ได้ แต่จุดสำคัญที่อยากให้เข้าใจลึกกว่านั้นคือ—การโปรแกรมจิตใต้สำนึกใหม่ ไม่ใช่แค่การรักตัวเองหรือเยียวยาใจเท่านั้น แต่มันคือการกล้าที่จะฝันใหญ่ และถ้าคนในชาติเราค่อย ๆ เข้าใจเรื่องนี้ เราจะได้เห็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่ดี แต่ทรงพลังพอที่จะสร้างสิ่งใหม่ให้โลกใบนี้ได้จริง” ครูเอวากล่าวสรุป

การนำเสนอแนวคิด "Hologram Brain" ผ่านมุมมองและคำอธิบายโดยตรงจากครูเอวา ตอกย้ำถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเชื่อมโยงศาสตร์ลึกล้ำเข้ากับความเข้าใจในชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจน สร้างแรงบันดาลใจและมอบเครื่องมือทางความคิดให้ผู้คนสามารถนำไปพัฒนาตนเองและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน หากใครที่สนใจอยากจะพัฒนาตัวเองไปอีกขั้น ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fan-Pages: I am ava ไอ แอม เอวา หรือ Line @kru_ava 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad