กรุงเทพฯ – 22 พฤษภาคม 2568 - ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (True IDC) ผู้นำด้านดาต้าเซ็นเตอร์และบริการคลาวด์ ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) เปิดตัว “AI Hyperscale Data Center” แห่งแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศให้พร้อมรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า การเปิดตัว AI Hyperscale Data Center ครั้งนี้ เป็นก้าวย่างสำคัญของประเทศไทยในการเข้าสู่ยุค Giga Data Center อย่างแท้จริง โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไม่เพียงรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี แต่ยังเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ
ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก พร้อมสำหรับอนาคตของ AI ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค นอกจากนี้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Data Center ยังก่อให้เกิดประโยชน์ด้านองค์ความรู้ต่อคนไทย
“การที่เราจะทำให้ทุกคน ทุกบริษัท ทุกอุตสาหกรรม เข้าถึง AI และ Cloud Technology ก็ต้องอาศัยโครงการพื้นฐานคือ Data Center นับเป็นเรื่องที่ดีกับประเทศไทย เพราะนอกจากจะนำมาซึ่งประโยชน์แก่คนไทย และอุตสาหกรรมไทยแล้ว ยังเกิดประโยชน์สู่ภูมิภาค ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคได้ และทำให้คนไทยได้รับองค์ความรู้จากการค้นคว้าวิจัยด้านดิจิทัลอีกด้วย” คุณศุภชัยกล่าว
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับ
True IDC ในโอกาสการเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ที่บริษัทไทยสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในระดับ Hyperscale ได้สำเร็จ ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค เป็นประเทศที่มี ecosystem ด้านดิจิทัลที่แข็งแรงและพร้อมต่อการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีต่อไปในอนาคต”
นายฐนสรณ์ ใจดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร True IDC เปิดเผยว่า AI Hyperscale Data Center แห่งใหม่นี้ คือโครงสร้างพื้นฐานที่มาช่วยยกระดับมาตรฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย ทั้งด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม ความยั่งยืน มีความสามารถรองรับเวิร์กโหลดและลูกค้าระดับ Hyperscale ผ่านการออกแบบทุกมิติให้พร้อมรองรับอุตสาหกรรมยุคดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มที่ขับเคลื่อนด้วย Data Cloud และ AI เสริมศักยภาพประเทศไทยในการสร้างเทคโนโลยีด้วยตนเองอย่างมั่นคงและปลอดภัย”
ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ถือเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับเอไอไฮเปอร์สเกล (AI Hyperscale) ที่ออกแบบมาสำหรับการประมวลผล AI และเวิร์กโหลดขนาดใหญ่ ให้บริการด้วยกำลังไฟฟ้ากว่า 20 เมกะวัตต์ สนับสนุนการประมวลผลที่ต้องการเสถียรภาพและความเร็วสูง ตลอดจนการประมวลผลของ GPU (Graphic Processing Unit) ตัวอาคารติดตั้งระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงด้วย Smart Fan Wall Unit และออกแบบให้รองรับการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Cooling) พร้อมระบบสำรองสนับสนุนการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์แบบ High Redundancy เพื่อรับรองการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ที่กำลังประมวลผลภายในดาต้าเซ็นเตอร์แบบไม่หยุดชะงัก ตลอดจนความต่อเนื่องของธุรกิจที่นำระบบคอมพิวเตอร์มาวางภายในดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ พร้อมออกแบบให้มีการควบคุมประสิทธิภาพด้านพลังงานด้วยการกำหนดค่า PUE (Power Usage Effectiveness) ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และมีการจัดตั้งศูนย์วิจัยการนวัตกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center Innovation Lab) ภายในอาคารเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทดสอบและพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ สำหรับในทุกอุตสาหกรรม
AI Hyperscale Data Center แห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต (New S-Curve Industries) ของประเทศ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), การแพทย์และสุขภาพดิจิทัล เกษตรอัจฉริยะ การเงินดิจิทัล (Fintech), คอนเทนต์ดิจิทัล และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ซึ่งล้วนต้องพึ่งพาข้อมูลจำนวนมหาศาลและระบบประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง การมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัยในประเทศจะช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถแข่งขันได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศเท่าที่เคย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น