กรุงเทพฯ ประเทศไทย : เมื่อวันที่
18 ธันวาคม 2561 - Rapidzpay (แรบพิดซ์เพย์)
บริษัทสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดงานเปิดตัวและอัพเดทการให้บริการของ Rapidzpay ออกเหรียญดิจิทัลชุดใหม่
พร้อมทั้งเปิดตัวสำนักงานใหญ่ที่เมเจอร์รัชโยธินในช่วงปลายกุมภาพันธ์ของปีหน้า โดยหลังจาก Rapidzpay เปิดตัวการให้บริการไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจลองใช้บริการของ
Rapidzpay ที่มีความทันสมัย ตอบรับกับทิศทางของประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคม
4.0 การเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้ ลูกค้าที่ไปโรงภาพยนต์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์สามารถใช้ RapidzPay เพื่อซื้อตั๋วกับของว่างและเครื่องดื่มผ่าน
M-Cash ของ Major Cineplex โดยที่ไม่ต้องใช้เงินสดได้อีกด้วย
ปัจจุบัน RapidzPay มีให้บริการเฉพาะในประเทศไทยกับร้านค้าที่ร่วมรายการ
เมื่อได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากทางการไทย ความต้องการของตลาดสำหรับ RapidzPay จากทั้งร้านค้าและผู้บริโภคคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้
Rapidz จะเปิดคาเฟ่ที่มีธีม crypto โดยร่วมมือกับ Major Cineplex Group ซึ่งลูกค้าสามารถใช้สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับมาซื้อสินค้าและบริการทั้งหมดที่มีในคาเฟ่
RapidzPay ไม่เพียง
แต่เป็นวิธีที่สะดวกในการซื้อและทำธุรกรรม
แต่เป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมในการกระจายข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะผ่านแอพ
RapidzPay เท่านั้น และนับจากนี้ไปจะดึงดูดผู้ใช้ได้มากขึ้น
จุดแข็งของการให้บริการของ
Rapidzpay คือการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาผนวกใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยและรวดเร็ว และเป็นระบบการชำระเงินแบบครบวงจรข้ามพรมแดน ให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจใช้เทคโนโลยีในการจ่ายเงินด้วยวิธีการใหม่ๆ
อีกทั้งผู้ใช้งาน ยังสามารถใช้แอปพลิเคชั่น Rapidzpay ซื้อของตามร้านค้าคาเฟ่ต่างๆที่มีเครื่อง
POS ซึ่งมีหน้าตาคล้ายเครื่องรูดบัตรเครดิต สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อซื้อสินค้าและบริการได้ทุกที่
แต่มีค่าทำเนียมที่ถูกกว่า
ด้านนายวิศรา โชคดีทวีอนันต์
กรรมการผู้จัดการบริษัทแรบพิดซ์ เทคโนโลยีส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่าในขณะนี้ ประเทศไทยและคนไทย
ได้ให้ความสนใจกับประเด็นคริปโตเคอร์เรนซี่มากขึ้น อีกทั้งรัฐบาล และกลต.ก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
ซึ่งนี่เองที่ทำให้ Rapidzpay มั่นใจว่าธุรกิจของ Rapidzpay จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และจะมีคนหันมาใช้วิธีการใช้จ่ายเงินที่ทันสมัยมากขึ้น
โดยหลังจากนี้ Rapidzpay มีแพลนที่จะทำไอซีโอ หรือการออกเหรียญดิจิทัลอีก
1 ชุด จะมีการซื้อขายที่ประเทศเกาหลีในช่วงเดือนมกราคมของปีหน้า โดยการออกเงินดิจิทัลสกุลใหม่นี้
เพื่อเป็นการระดมทุน นำไปต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยี E-payment หรือ E-wallet เพื่อกระตุ้นให้คนหันมาใช้วิธีการจ่ายเงินผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนกันมากขึ้น
และเพื่อเป็นการยกระดับสังคมไร้เงินสดให้กับธุรกิจ สินค้า และบริการในประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น