บอร์ด บมจ.มาลี กรุ๊ป (MALEE) มีมติแต่งตั้ง “เอกรินทร์ พินิจ” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป พร้อมกางแผนวางกลยุทธ์บุกตลาดเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขับเคลื่อนองค์กรขึ้นสู่ Top Healthy Brand of Choice ในไทย พร้อมผลักดันขึ้นเป็นผู้ผลิตอาหาร-เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก ขณะที่โชว์ผลงานไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 1,826 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท
บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ผู้นำการผลิตและจัดจำหน่ายธุรกิจน้ำผลไม้ ผลไม้กระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “Malee” รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า คณะกรรมการได้มีมติแต่งตั้งให้ นายเอกรินทร์ พินิจ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer : CEO) คนใหม่ เพื่อนำทัพขึ้นสู่การเป็น Top Healthy Brand of Choice ในประเทศไทย รวมทั้งเป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายเอกรินทร์ พินิจ เคยดำรงตำแหน่ง รองประธานอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นผู้มีประสบการณ์ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้
านวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์
โดยทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริษั
ทและผู้บริหารระดับสูง ตั้งแต่การวางนโยบาย ไปจนถึงการขับเคลื่อนการเติ
บโตของยอดขายและผลกำไรของบริษัท ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้วยความเข้าใจเชิงลึกในตลาด นายเอกรินทร์ พินิจ จึงได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการสร้างความร่วมมือระยะยาวกับพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมชูนโยบายสำคัญคือการเสริมสร้างทักษะและติดอาวุธให้องค์กร โดยใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ พร้อมกับสร้างความเป็น One Malee, One Goal เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้มีเป้าหมายการเติบโตเดียวกันอย่างยั่งยืน
นายเอกรินทร์ พินิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯ วางกลยุทธ์บุกตลาดต่างประเทศเชิงรุกมากขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศที่มีประชากรและการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เช่น จีน ตะวันออกกลาง เป็นต้น ขณะที่ตลาดในประเทศมีแผนที่จะสร้างความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้พร้อมดื่มแบบพรีเมียม และน้ำมะพร้าว ผ่านการตลาด การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การขายในทุกช่องทาง และเสริมความแข็งแรงในช่องทาง Online และ Food Service
ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวนวัตกรรมนอกกลุ่มน้ำผักผลไม้จำนวน 1-2 รายการภายในปีนี้และปีหน้า นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง S-Curve ใหม่ให้องค์กร
“มาลีตั้งเป้าผลักดันยอดขายและกำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนจะเน้นรุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ที่บริษัทฯจะลงทุนทั้งด้านการตลาด การออกสินค้าใหม่ รวมถึงขยายช่องทางขายครอบคลุมร้านค้า ขณะเดียวกันตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดในประเทศ ผ่านสินค้านวัตกรรมสุขภาพใหม่ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การดูแลสุขภาพของผู้บริโภค พร้อมทั้งสร้างการเป็นฐานการผลิตให้กับแบรนด์ชั้นนำให้มากขึ้น การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งและสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายเอกรินทร์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,826 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท และครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมพร้อมดื่มในไทย
ในส่วนการบริหารงาน บริษัทฯ ดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม และโปร่งใส ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption: CAC) ขณะเดียวกันยังได้รับคะแนนการประเมินบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการ (CGR) ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตอกย้ำถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรมและสามารถตรวจสอบได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น