YLG x Krungthai ฉลองความสำเร็จบริการซื้อขายทองคำผ่าน Gold wallet บนแอปฯเป๋าตังยอดใช้งานพุ่ง จัดแคมเปญแจกทองผู้ใช้งานกว่า 6 รางวัล พร้อมตั้งเป้าปีนี้ยอดใช้งานโตกว่า 1 เท่า รับเทรนด์ทองคำขาขึ้น คาดปีนี้ราคาทองมีโอกาสทำนิวไฮที่ 2,300 ดอลลาร์จากปัจจัยหนุนดอกเบี้ยขาลง - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567

YLG x Krungthai ฉลองความสำเร็จบริการซื้อขายทองคำผ่าน Gold wallet บนแอปฯเป๋าตังยอดใช้งานพุ่ง จัดแคมเปญแจกทองผู้ใช้งานกว่า 6 รางวัล พร้อมตั้งเป้าปีนี้ยอดใช้งานโตกว่า 1 เท่า รับเทรนด์ทองคำขาขึ้น คาดปีนี้ราคาทองมีโอกาสทำนิวไฮที่ 2,300 ดอลลาร์จากปัจจัยหนุนดอกเบี้ยขาลง

 


YLG จับมือ Krungthai ประกาศความสำเร็จการให้บริการซื้อขายทองคำผ่าน Gold wallet บนแอปฯเป๋าตัง หนุนจำนวนนักลงทุนของ YLG ที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดสัดส่วนนักลงทุนทองคำออนไลน์ทุกช่องทางเพิ่มเป็น 60% จากปีก่อนที่มี 40% คาดปีนี้เติบโตต่อเนื่อง เหตุเทรนด์การเคลื่อนไหวของทองคำยังเป็นขาขึ้น คาดปีนี้มีโอกาสทำนิวไฮที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลงนักลงทุนโยกเงินเข้าตลาดทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย Krungthai เผยความสำเร็จของยอดการใช้งาน Gold wallet บนแอปฯเป๋าตัง สะท้อนการเป็นซูเปอร์แอป ของ เป๋าตัง ที่ยกระดับชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น สามารถเข้าถึงการลงทุนทอง ได้ทุกรูปแบบ ล่าสุดมอบโชคผู้ใช้งาน Gold wallet เป็นทองคำกว่า รางวัล ติดตามรายชื่อผู้โชคดีผ่าน Fan page Facebook YLG Bullion : 
https://www.facebook.com/YLGGroup


                                                                            


นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (YLGเปิดเผยว่าตลาดทองคำไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ในแง่ของการบริโภคทองคำโดยรวม(Consumer Demand) ซึ่งเป็นการรวมกันของการบริโภคทองคำในภาคทองคำแท่งและในภาคการบริโภคเครื่องประดับ หากพิจารณาเฉพาะด้านการลงทุนในทองคำแท่ง  พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา(2558-2565) ประเทศไทยบริโภคทองคำโดยรวมติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเชีย เป็นรองแค่เพียงจีนและอินเดียเท่านั้น  และติดอันดับ 7 ของโลก  ทำให้ปริมาณความต้องการบริโภคทองคำของไทยโดยเฉลี่ยในปี 2558-2565 อยู่ที่ 63 ตัน” แม้ในปี 2563 ที่มีการระบาดของ COVID-19 กระตุ้นให้คนไทยเทขายทองคำ  ทำให้การบริโภคทองคำโดยรวมของไทยติดลบมากถึง 81.5 ตัน  ซึ่งลดลงจากระดับ 46.5  ตัน ในปี 2562 หรือลดลงมากถึง 275% อย่างไรก็ดี  ในปี 2564 2565 ปริมาณการบริโภคทองคำโดยรวมของไทยฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 37 และ 38 ตันตามลำดับ 

ทั้งนี้นับจากเหตุวิกฤต COVID-19 จนถึงปัจจุบันราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนเข้าถือครองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  YLG ในฐานะผู้ให้บริการด้านการซื้อขายทองคำครบวงจร จึงมีความต้องการขยายช่องทองการเข้าถึงทองคำให้ผู้บริโภคได้สะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลมากขึ้น ซึ่ง YLG ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ Krungthai ในการเพิ่มช่องทางซื้อขายทองคำที่สะดวกผ่าน Gold wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนในการซื้อ-ขายทองคำความบริสุทธ์ 99.99 ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ด้วยราคาเรียลไทม์ ซื้อ-ขายทองต่อครั้งด้วย ขั้นต่ำ 0.ออนซ์ สูงสุดแบบเต็มเพดาน ได้สูงสุดถึง 700 ออนซ์ หรือ 20 กิโลกรัม ซึ่งวัตถุประสงค์ของ YLG เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการลงทุนทองคำ  ที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์การลงทุนทองคำที่หลากหลายด้วยบริการที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า  จึงจัดเเคมเปญ ลุ้นโชคทองกับ YLG x Krungthai บนแอปพลิเคชันเป๋าตังเพื่อแสดงความขอบคุณแก่ลูกค้าที่ให้ความสนใจและไว้วางใจซื้อทองคำกับ YLG บนแอปพลิเคชันเป๋าตังตลอดช่วง 1 ปีที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ง่ายกับ YLG อีกด้วย โดยเเคมเปญนี้เปิดโอกาสให้ลูกค้าทุนท่านที่เปิดบัญชีซื้อทองคำบนแอปพลิเคชันเป๋าตังกับ YLG ในปี 2023 มีสิทธิเข้าร่วมลุ้นรับรางวัลในครั้งนี้ เพียงเเค่ทำตามกติกาที่กำหนดในเเคมเปญ ก็สามารถเข้าร่วมรับสิทธิลุ้นโชคทองได้ทุกคน



หลังจาก YLG ได้ร่วมมือกับ Krungthai ในการเปิดให้บริการ Gold wallet บนแอปฯเป๋าตัง พบว่าสามารถช่วยเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนเจนเนอเรชันใหม่ให้เข้าถึงการลงทุนในทองคำได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ที่ในปี 2565 มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 40% แต่ล่าสุด สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็นเกือบ 60% ซึ่งถือว่าบริการ Gold wallet มีส่วนทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่เข้าถึงการลงทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดีสัดส่วนนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นมานี้ครอบคลุมนักลงทุนในลงทุนออนไลน์ของ YLG ผ่านแอปฯ Get Gold แอปฯสำหรับมือใหม่ที่สามารถเริ่มต้นซื้อขายทองคำได้เพียง 100 บาท และแอปพลิเคชันตัวใหม่ YLG Gold Investment ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแรกของไทยที่จะยกระดับการลงทุนในทองคำที่สามารถซื้อขายทองคำได้ถึง สกุลเงิน ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท

อย่างไรก็ดี YLG มองว่าทิศทางการเคลื่อนไหวของทองคำในปี 2567 ภาพใหญ่ยังเป็นขาขึ้น แม้ระยะสั้นจะอาจมีการปรับฐานหลังจากที่ช่วงต้นปีราคาปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมาก แต่ภาพระยะกลางก็ยังเป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้น จึงมองว่าปีนี้ทั้งปีจะมีโอกาสทำราคาสูงสุดใหม่ที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เนื่องจกาได้ปัจจัยหนุนจากนโยบายดอกเบี้ขาลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจากทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นนี้จึงคาดว่าในปี 2567 จะมียอดผู้ใช้งานผ่าน Gold wallet บนแอปฯเป๋าตัง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากกว่า เท่า

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าธนาคารกรุงไทย มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อให้ครอบคลุมสินทรัพย์ทุกประเภทโดยไม่จำกัดเฉพาะแค่การฝากเงินเท่านั้น ได้แก่ การลงทุนในตราสารหนี้ และหุ้นกู้ภาคเอกชนทั้งตลาดแรกและตลาดรองการลงทุนในกองทุนรวม, การลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์ และหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงการลงทุนในหุ้น และตราสารสิทธิในหลักทรพย์ต่างประเทศ (DR) รวมไปถึงการลงทุนทองคำออนไลน์ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ธนาคารให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะให้บริการนักลงทุนทองคำไทยในทุกรูปแบบเพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีความคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี

 

ดังนั้นการจับมือเป็นพันธมิตรกับ YLG ถือเป็นความสำเร็จที่ธนาคารได้นำร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นร้านทองชั้นนำของประเทศไทยมาเปิดบริการบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet ในแอปฯเป๋าตังให้กับนักลงทุนทองคำไทยสำหรับการทำธุรกรรมส่งคำสั่งซื้อ-ขาย-ถอน ทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% ที่อ้างอิงราคาตลาดโลกแบบเรียลไทม์ แสดงถึงความเป็นผู้นำทางด้านการลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัล และตอกย้ำว่า เป๋าตัง ป็นซูเปอร์แอป ที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และโปร่งใส ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้วายแอลจีได้จัดแคมเปญใหม่ หรับผู้ที่สนใจลงทุนในทองคำภายใต้ชื่อ “YLG x เป๋าตัง” โดยมอบสิทธิให้ลุ้นรับทองคำฟรี สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนและทำรายการเปิดบัญชีกับบริษัทฯ YLG บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”  โดยสามารถสมัครได้ง่ายๆ ผ่านแบบฟอร์มอัตโนมัติในระบบของแอปพลิเคชันเป๋าตัง

ทั้งนี้  เมื่อลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าจะสามารถทำรายการซื้อทองคำในแอปพลิเคชันเป๋าตังได้  โดยลูกค้ามียอดซื้อทองคำ เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท ขึ้นไป ตั้งแต่ วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2566 - วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 จะเป็นผู้มีสิทธิได้ลุ้นรับทองคำ 96.% ทั้งหมด จำนวน รางวัล และยอดการซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นสามารถรับสิทธิได้มากขึ้น เช่น เมื่อลูกค้าซื้อทองคำ 18,000 บาท จะได้สิทธิลุ้นรับโชค จำนวน สิทธิ์ เป็นต้น  โดยบริษัทฯ ไม่จำกัดจำนวนสิทธิของลูกค้าในการลุ้นโชค ระบบจะทำการเก็บข้อมูลของลูกค้า เช่น ชื่อ-นามสกุล ไว้โดยอัตโนมัติ เมื่อครบระยะเวลา ที่กำหนดแล้วทางวายแอลจีจะทำการรวบรวมข้อมูลของลูกค้าจากแอปพลิเคชันเป๋าตังที่มีสิทธิลุ้นโชคทั้งหมด

                                                                      


ขณะที่การจับรางวัลนั้นทาง YLG จะมีการนำชื่อ-สกุล มาพิมพ์ลงบนกระดาษนำมากองรวมกันไว้แล้วใช้วิธีคลุกเคล้ารายชื่อทั้งหมดให้ทั่วกัน แล้วโยนขึ้นบนอากาศ จับชิ้นส่วนต่อหน้าคณะกรรมการและสักขีพยาน และจับรางวัล  หาผู้โชคดีตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนดต่อไป

สำหรับรายละเอียดของรางวัลภายใต้แคมเปญ “แจกทอง YLG x เป๋าตัง” ครั้งนี้มูลค่าของรางวัลทั้งหมด จำนวน รางวัล  คิดเป็นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 70,580 บาท (เจ็ดหมื่นห้าร้อยแปดสิบบาทถ้วน) แบ่งเป็น รางวัลที่ ทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก บาท จำนวน รางวัล  รวมมูลค่า 32,670 บาทรางวัลที่ ทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 0.บาท จำนวน รางวัล รวมมูลค่า 16,420 บาทรางวัลที่ ทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 0.25 บาท จำนวน รางวัล รางวัลละ 8,320 บาท รวมมูลค่า 16,640 บาทรางวัลที่ 4  ทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก กรัม จำนวน รางวัล (หมายเหตุ : ราคาทองคำ ณ วันที่ กันยายน พ.ศ. 2566 อาจมีการเปลี่ยนแปลง)

ในส่วนของสถานที่จับรางวัล จัดขึ้น ณ Innovation Lab  ชั้น อาคารนานาเหนือ ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ 35 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110 ในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567  พร้อมทำการไลฟ์ผ่าน Fan page Facebook YLG Bullion ซึ่งจะมีการประกาศรายชื่อผู้โชคดี Fan page Facebook YLG Bullion ในวันที่ 30 มกราคม 2567

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad