GGC ร่วมมือกับ บีไอจี เดินหน้ายกระดับการดำเนินธุรกิจด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas หรือ GHG) ให้ได้ร้อยละ 20 ในปี 2030 ตามกลยุทธ์ “The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business” และเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ภายใต้การดำเนินธุรกิจด้วยหลักความยั่งยืน สร้างสมดุลระหว่าง สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดี หรือ Environment, Social, Governance (ESG)· โครงการ “การพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอน” ระหว่าง GGC และ บีไอจี เป็นการร่วมมือครั้งสำคัญของบริษัทฯ ซึ่งเป็นประโยชน์ตั้งแต่การกำหนดและทบทวนกลยุทธ์องค์กร การปรับปรุง Portfolio ของผลิตภัณฑ์ รวมถึงทิศทางการดำเนินการธุรกิจใหม่ในอนาคตของ GGC และ บีไอจี ไปพร้อมกัน
กรุงเทพฯ – 9 เมษายน 2567 บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ “GGC” ร่วมกับ บีไอจี ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจและร่วมมือ โครงการ “การพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอน” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจ ร่วมพัฒนาและนำแพลตฟอร์มไปใช้ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกขององค์กร จากการดำเนินการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ภายใต้ความร่วมมือนี้ สามารถเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพของบุคลากรของบริษัทฯ ในการจัดทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อม การกำหนดและทบทวนกลยุทธ์องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ รวมถึงทิศทางการดำเนินการธุรกิจใหม่ในอนาคตได้อย่างเป็นระบบและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า การร่วมมือระหว่าง GGC และ บีไอจี ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนองค์กรสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ความยั่งยืนถือเป็นบริบทใหม่ของประเทศไทยและเป็นบริบทของโลกที่มีความสำคัญ ซึ่งบทบาทหน้าที่อาจจะไม่ใช่ของบริษัทเอกชนใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องบูรณาการร่วมกัน อาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน เติบโตขึ้นไปพร้อมๆ กัน ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ร่วมกันเพิ่มศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศอย่างทั่วถึงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทาง GGC ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วหลักความยั่งยืนพร้อมสร้างสมดุลระหว่าง สิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี หรือ Environment Social Governance (ESG) มีการบริหารจัดการความยั่งยืนที่เข้มแข็ง โดยได้รับการรับรองการดำเนินงานอย่างยั่งยืนและตามมาตรฐานสากล เช่น CDP Climate ที่ได้ระดับ A- และในปีนี้ GGC ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับโลกจาก - S&P Global Corporate Sustainability Assessment หรือ S&P Global CSA เป็นครั้งแรก โดยได้คะแนนอยู่ในลำดับที่ 5 ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ จากทั้งหมด 355 บริษัทที่เข้ารับการประเมิน ตอกย้ำการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในระดับสากล ตามวิสัยทัศน์ “TO BE A LEADING GREEN CHEMICAL COMPANY BY CREATING SUSTAINABLE VALUE” หรือ “เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน”
นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี เปิดเผยว่า “บีไอจี ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้าน Climate Technology และเป็นผู้ริเริ่มในการสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ในภาคอุตสาหกรรมไทย โดยบีไอจีเป็นบริษัทในเครือแอร์โปรดักส์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนระดับโลก ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นเรื่องที่สำคัญและทุกคนต้องลงมือแก้ปัญหานี้ด้วยกันโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม บีไอจีมีกลยุทธ์ GENERATING A CLEANER FUTURE ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จึงมีการพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอน หรือ Carbon Accounting Platform เพื่อมอนิเตอร์การใช้และลดการปล่อยคาร์บอนฯ ในกระบวนการผลิต ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยความร่วมมือในการพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอนดังกล่าวนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกทั้งสามารถนำไปวางแผนการลดการปล่อยคาร์บอนฯ จากกระบวนการผลิต และร่วมกันบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น