บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้ามีส่วนร่วมอนุรักษ์
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสั งคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ตระหนักดีถึงการดำเนินธุรกิจด้ วยความรับผิดชอบต่อสังคม บรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างสมดุลธรรมชาติอย่างยั่ งยืน โดยกำหนดกลยุทธ์ 3 เสาหลัก ประกอบด้วย อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนธุ รกิจตามวิสัยทัศน์ครัวของโลก ที่มีเป้าหมายสร้างความมั่ นคงทางอาหาร ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม
บริษัทมุ่งมั่นมีส่วนร่วมเพิ่ มพื้นที่ป่าตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจากแหล่ งที่ยั่งยืน ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และมีเอกสารสิทธิ์ที่ดินรับรอง ส่งเสริมให้คู่ค้าใส่ใจสิ่ งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุดิบที่ ใช้ในกระบวนการผลิ ตสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่ งที่มาได้ ตลอดจนส่งเสริมและให้ความรู้แก่ เกษตรกรในการทำการเกษตรที่เป็ นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชี วภาพจากกระบวนการในห่วงโซ่อุ ปทานของซีพีเอฟตั้งแต่ต้นทาง ณ พื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร มีส่วนช่ วยบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกตามเป้าหมาย SDGs
บริษัทมุ่งมั่นมีส่วนร่วมเพิ่
เนื่องใน“วันป่าไม้โลก” ซึ่งตรงกับวันที่ 21 มีนาคมของทุกปี ซีพีเอฟ มุ่งมั่นมีส่วนร่วมและปลูกฝั
นอกจากนี้ ปลายปี 2563 บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกั บกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรื อนกระจก (องค์การมหาชน) ในโครงการปกป้องการเปลี่ ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ป่าบกและป่าชายเลน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 26,000 ไร่ มุ่งสู่การมีส่วนร่วมปกป้ องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและสร้ างสมดุลธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ซีพีเอฟ ยังได้สนับสนุนแนวทางฟาร์มสีเขี ยว (Green Farm) พัฒนาฟาร์มที่เป็นมิตรกับสิ่ งแวดล้อมและอยู่ร่วมกับชุมชนอย่ างยั่งยืน สร้างธุรกิจฟาร์มสุกรรูปแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสั งคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยจัดทำเป็นสวนป่านิเวศในฟาร์ มสุกร เช่น โครงการสวนป่าชุมชนหมู่บ้ านเกษตรกรรมกำแพงเพชร โดยนำของเสียที่เกิ ดจากกระบวนการเลี้ยงสุกรและมู ลสุกรไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่ างคุ้มค่า เช่น น้ำปุ๋ยจากมูลสุกรที่ผ่ านการบำบัดในกระบวนการผลิต นำไปรดต้นไม้ ใส่ปุ๋ยมูลสุกรให้ต้นไม้ เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาโครงการฯ ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ป่านิ เวศชุมชน และโครงการหนองหว้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีพื้นที่ว่างของชุมชนที่ต้ องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ สูงสุดด้วยการปลูกป่าชุมชนมาตั้ งแต่ปี 2559 และสามารถพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ ป่านิเวศในชุมชน
“การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิ ดชอบของซีพีเอฟ ไม่เพียงมีส่วนร่วมเพิ่มพื้นที่ ป่า ส่งเสริมชุมชนให้ร่วมดูแล ฟื้นฟู และอนุรักษ์ป่า แต่ให้ความสำคัญกับการปกป้ องความหลากหลายทางชี วภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสั งคม ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จอย่ างแท้จริง ในการสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมอย่ างยั่งยืน” นายวุฒิชัย กล่าว
ภายใต้กลยุทธ์สู่ความยั่งยืนด้ านดินน้ำป่าคงอยู่ ซีพีเอฟ ได้บูรณาการเป้าหมาย SDGs มาใช้กับการดำเนินงาน ซึ่งสอดรับกับ SDGs ข้อ 2 คือ ยุติความหิวโหย ข้อ 6 การจัดให้มีน้ำสะอาดและสุขอนามั ยส่วนบุคคล ข้อ 7 การเข้าถึงพลังงานสะอาด ข้อ 12 การบริโภคด้วยความรับผิดชอบ ข้อ 13 การปกป้องโลกจากการเปลี่ ยนสภาพภูมิอากาศ ข้อ 14 การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ จากมหาสมุทร ข้อ 15 การปกป้องและฟื้นฟู ระบบนิเวศ และข้อ 17 สร้างความแข็งแกร่งของการเป็นหุ้ นส่วนความร่วมมือระดับโลก./
ภายใต้กลยุทธ์สู่ความยั่งยืนด้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น