นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาสุกรหน้าฟาร์มอยู่ที่ 78-79 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรกรทั่ วประเทศยืนหยัดให้ความร่วมมือกั บกรมการค้าภายใน ดูแลราคาหน้าฟาร์มไม่เกิน 80 บาท ทำให้ราคาขายหมูหน้าเขียงไม่เกิ น 160 บาทต่อกิโลกรัม เป็นการดูแลค่าครองชีพให้กั บประชาชน โดยราคาเป็นไปตามกลไกตลาด จากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้ น เหมือนกับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ตามราคาหมูไทยยังคงถู กที่สุดในภูมิภาคนี้ ที่สำคัญเกษตรกรวอนขอความเห็นใจ เพราะมีอาชีพเดียวไม่สามารถเปลี่ ยนไปทำอาชีพอื่นได้ ขณะที่ผู้บริโภคมีทางเลื อกในการรับประทานโปรตีนอื่ นๆทดแทนได้ ทั้งไก่ ไข่ ปลา รวมถึงอาหารธรรมชาติที่ ออกมามากในช่วงนี้
"การปรับเพิ่มขึ้นในช่วงสั้นๆ หลังจากหลายกิจการเริ่มกลั บมาดำเนินการ ประกอบกับโรงเรียนเปิดภาคเรียน แต่เกษตรกรยังคงราคา 78-79 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้เกษตรกรพออยู่ได้ โดยเพิ่งจะขายได้ราคานี้ หลังจากแบกรับภาระขาดทุ นสะสมมาถึง 3 ปี จากภาวะหมูล้นตลาดและราคาวัตถุ ดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น เกษตรกรยืนราคานี้ไว้ไม่กระทบกั บการใช้จ่ายของผู้บริโภคจนเกิ นไป ยืนยันว่าปริมาณหมูมีเพียงพอกั บการบริโภคในประเทศ ผู้บริโภคไม่ต้องกังวล การปรับราคานี้สะท้อนกลไกตลาดที่ แท้จริง นับว่าเป็นราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ สมาคมฯได้ผนึกกำลังกับสมาชิก จัดกิจกรรมจำหน่ายหมูสดลดค่ าครองชีพประชาชนทั่วไทย ส่งตรงจากฟาร์มถึงมือผู้บริ โภคไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง นำร่องที่จังหวัดชลบุรีก่อนเป็ นที่แรก ในวันที่ 21 กรกฎาคม และขายพร้อมกันทุกภูมิภาค วันที่ 7 สิงหาคม" นายสุรชัยกล่าว
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีความวิตกกังวลเรื่ องโรค ASF ในสุกร ที่ระบาดในหลายประเทศ เกษตรกรทุกคนต่างเข้าเลี้ยงสุ กรอย่างระมัดระวัง พบว่าสุกรในระบบของไทยหายไปกว่า 20% จากเดิมในปี 2562 ไทยที่มีสุกรในระบบประมาณ 20,000,000 ตัว ที่สำคัญเกษตรกรต้องแบกรับต้นทุ นที่สูงขึ้น จากการเฝ้าระวังและป้องกัน ASF อย่างเข้มงวด ทำให้เกษตรกรมีค่าใช้จ่ายเพิ่ มถึงตัวละ 100 บาท แต่ทุกคนยินดีดำเนินการเพื่อป้ องกันไม่ให้โรคนี้มาทำลายอุ ตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร และเกษตรกรผู้เพาะปลูกในห่วงโซ่ การผลิต ทั้งยังเป็นการปกป้องผู้บริ โภคไม่ให้ต้องได้รับความเดือดร้ อนเหมือนกับประเทศอื่นในภูมิ ภาค./
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น