บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมขับเคลื่อนเป้
ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิ
ในโอกาส 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ซีพีเอฟ เดินหน้าร่วมเป็นส่วนหนึ่
นายไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสัตว์น้ำ ซีพีเอฟ ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับชุมชน และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน” มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 - 2561 สามารถช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่ าชายเลนได้รวม 2,388 ไร่ และเป็นพื้นที่ปลูกใหม่จำนวน 325 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดระยอง สมุทรสาคร ชุมพร สงขลา และพังงา และในปี 2562 -2566 มีเป้าหมายอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเพิ่มพื้นที่ปลูกป่าใหม่ที่ จังหวัดสมุทรสาคร ระยอง และตราด โดยในปีนี้ ได้ดำเนินการปลูกป่าใหม่เพิ่ มเติมในพื้นที่ ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาครไปแล้ว 100 ไร่ คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะปลูกป่ าชายเลนได้ 266 ไร่ จากการดำเนินงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เกิดผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ในด้านสังคมจากการที่ป่ าชายเลนสามารถป้องกันการกั ดเซาะแนวชายฝั่ง เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตามธรรมชาติ และช่วยดูดซับก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์ ในด้านสังคม ซีพีเอฟต่อยอดจากกิจกรรมปลูกป่ าสู่การส่งเสริมอาชีพของชุมชน มีอาชีพเสริมและมีรายได้ จากการทำผลิตภัณฑ์ชุมชนจำหน่าย เช่น ถ่านไบโอชาร์ที่มีคุณสมบัติ ในการดูดกลิ่นได้ดี เกลือสปา สบู่หอม เป็นต้น ด้านเศรษฐกิจ ชุมชนมีอาชีพเสริมและมีรายได้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำอาชีพประมงพื้ นบ้าน มีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากป่าชายเลนที่อุดมสมบู รณ์ ทำให้สัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลา เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่มากขึ้ น
"ผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินโครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ในพื้นที่ นอกจากได้ผืนป่าเพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิ
นายภาณุวัตร เนียมเปรม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง กล่าวว่า ความร่วมมือ 3 ประสาน โดยซีพีเอฟ ชุมชน และกรมป่าไม้ ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าเพิ่มเติม ในโครงการ "ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" จังหวัดลพบุรี รวม 6,971 ไร่ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กั บประเทศไทยตามเป้ าหมายของประเทศเพิ่มพื้นที่ปลู กป่าให้ได้ 40 % ของพื้นที่ทั้งหมด ช่วยสร้างสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งจากการดำเนินโครงการระยะที่ หนึ่ง (ปี 2559-2563) ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพทั้ งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์เพิ่ มขึ้น ที่สำคัญ คือ ซีพีเอฟ ชุมชน และกรมป่าไม้ มีการติดตามการดำเนินงานอย่างต่ อเนื่อง ทั้งการปลูกต้นไม้เพิ่มเติม ทำแนวกันไฟ กำจัดวัชพืชเพื่อให้ต้นไม้เติ บโตได้อย่างแข็งแรง ซ่อมแซมฝายชะลอน้ำ ฯลฯ รวมไปถึงการสร้างความมั่ นคงทางอาหารในระดับชุมชน ด้วยการส่งเสริมกิจกรรมการมีส่ วนร่วมของชุมชนรอบพื้นที่ เขาพระยาเดินธง ทำโครงการปลูกผักวิถีธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนที่เข้าร่ วมเป็นสมาชิกของโครงการฯ จาก 8 หมู่บ้าน และโครงการปล่อยปลาลงเขื่อน มีชุมชนที่เข้าร่วมเป็นสมาชิ กของโครงการจาก 11 หมู่บ้าน
"ในช่วงที่เกิดการแพร่
นอกจากการดำเนินโครงการปลูกป่ าบกและป่าชายเลนแล้ว ซีพีเอฟ ส่งเสริมฟาร์มและโรงงานของบริษั ททั่วประเทศ ปลูกต้นไม้ในสถานประกอบการ ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 1,720 ไร่ มีเป้าหมายดำเนินการ 5,000 ไร่ รวมทั้งเข้าร่วมโครงการสนับสนุ นกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรื อนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว รวมปริมาณการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกที่ลดลงได้จากการปลูกต้ นไม้และปลูกป่ากว่า 5 หมื่นตันคาร์บอนไดออกไซด์เที ยบเท่า
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ สร้างการมีส่วนร่วมของพนั
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น