ช่วงนี้เราคงได้ยินวลี “มีลูกเมื่อพร้อม” ซึ่งเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอยู่
ส่องเช็คลิสต์การเตรียมร่ างกายคุณแม่ก่อนตั้งครรภ์
พญ. พรรณลดา ฉันทศาสตร์รัศมี สูตินรีแพทย์ ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต มาบอกเล่าเช็คลิสต์การตรวจร่ างกายของว่าที่คุณแม่ ให้ทั้งแม่และลูกปลอดภัยแข็งแรง “การตรวจสุขภาพในช่วงวางแผนตั้ งครรภ์เป็นหนึ่งขั้นตอนที่สำคั ญมาก ควรตรวจทั้งว่าที่คุณพ่อและว่ าที่คุณแม่ เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่ และลูก โดยนอกเหนือจากการซักประวัติ และตรวจร่างกาย จะมีการตรวจอื่นๆที่จำเป็น ได้แก่ 1) การตรวจเลือดเพื่อคัดกรองโรคติ ดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจส่ งผลกับการตั้งครรภ์ได้ หากพบติดเชื้อแนะนำรับการรั กษาให้หาย หรือควบคุมโรคได้ก่อนตั้งครรภ์ 2) การตรวจเลือดเพื่อคั ดกรองภาวะพาหะโรคทางพันธุกรรมที่ มีโอกาสถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกได้ เช่น โรคธาลัสซีเมีย ซึ่งคนไทยอาจพบเป็นพาหะมากกว่า 40% หากพบว่าคุณพ่อและคุณแม่มี ความเสี่ยงที่ทำให้ลูกมี โอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุ นแรง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการตั้ งครรภ์ 3) การฉีดวัคซีนก่อนตั้งครรภ์ โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกั นโรคหัดเยอรมันในว่าที่คุณแม่ ตรวจพบว่ายังไม่มีภูมิคุ้มกั นโรค หลังจากนั้นเมื่อตั้งครรภ์แล้ ววัคซีนที่แนะนำก็คือ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน และที่สำคัญในปัจจุบันคือ อย่าลืมรับวัคซีนป้องกันโควิ ด19ชนิด mRNAเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ด้วย นอกจากนี้ว่าที่คุณแม่ควรตรวจคั ดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำ เสมออีกด้วยค่ะ”
เผยเทคนิครับมืออาการแพ้ท้อง ชี้หากหนักมากต้องรีบพบแพทย์
อาการแพ้ท้องของคุณแม่เกิ ดจากฮอร์โมนที่เพิ่มสูงขึ้ นจากการตั้งครรภ์ แพ้มากแพ้น้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้ หญิงแต่ละคน โดยปกติอาการที่พบได้บ่อยในช่ วงการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกอ่อนเพลีย และเวียนศีรษะได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่รุ นแรงมากและดีขึ้นหลัง 3 เดือนแรก พญ. พรรณลดา ฉันทศาสตร์รัศมี อธิบายว่า “เมื่อตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ ยนแปลงทำให้ระบบต่างๆในร่ างกายเปลี่ยนไป ประสาทรับกลิ่นไวขึ้น จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารรสจั ด มีกลิ่นฉุนหรือน้ำหอมกลิ่นแรงที่ ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ และหากคุณแม่รู้สึกอ่อนเพลีย แนะนำให้พักผ่อนให้มาก ๆ ลดกิจกรรมในระหว่างวัน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาการดังกล่าวจะค่อยๆดีขึ้นเมื่ อพ้นไตรมาสแรก แต่หากคุณแม่อาเจียนบ่อย รุนแรงจนน้ำหนักลด หรืออ่อนเพลียมาก แนะนำให้พบแพทย์ เพราะการอาเจียนต่อเนื่อง อาจทำให้คุณแม่เกิดภาวะขาดน้ำ และช็อกได้ นอกจากนี้ อาการที่ควรสังเกตระหว่างตั้งท้ องก็คือ การตกขาวที่มากขึ้น ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเช่นกัน แต่หากตกขาวมีกลิ่นแรงและสีผิ ดปกติ อาจแสดงถึงภาวะติดเชื้อซึ่งคุ ณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่ อหาสาเหตุและรักษาต่อไป”
คุณพ่อ…กำลังใจสำคัญของคุณแม่มื อใหม่
พญ. พรรณลดา เล่าว่า คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์และหลั งคลอด มักจะมีอารมณ์ที่แปรแปรวน อ่อนไหวง่าย และอาจมีความเครียดจากการเปลี่ ยนแปลงของร่างกายและภาระของคุ ณแม่มือใหม่ในช่วงหลังคลอด ซึ่งคนในครอบครัวโดยเฉพาะสามี ถือเป็นแรงซัพพอร์ตสำคัญที่ จะคอยให้กำลังใจและดูแลคุณแม่ด้ วยความเข้าอกเข้าใจ ชวนกันไปทำกิจกรรมที่ทำให้ผ่ อนคลาย หาที่เที่ยวที่ทำให้จิ ตใจสงบและช่วยแบ่ งเบาภาวะในการดูแลลูกน้อย เพื่อให้คุณแม่ได้พักผ่อนอย่ างเต็มที่ “หากคุณแม่มีอารมณ์แปรปรวนรุ นแรง หรือมีอาการเข้าข่ายภาวะซึมเศร้ า ให้รีบพบแพทย์เพื่อประเมินและวิ นิจฉัยอาการโดยเร็ว” พญ. พรรณลดา กล่าว
พญ. พรรณลดา ฉันทศาสตร์รัศมี สูตินรีแพทย์ ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต มาบอกเล่าเช็คลิสต์การตรวจร่
เผยเทคนิครับมืออาการแพ้ท้อง ชี้หากหนักมากต้องรีบพบแพทย์
อาการแพ้ท้องของคุณแม่เกิ
คุณพ่อ…กำลังใจสำคัญของคุณแม่มื
พญ. พรรณลดา เล่าว่า คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์และหลั
และเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลกมาอย่ างแข็งแรงปลอดภัย ความกังวลใจของคนเป็นแม่ก็ คลายไปบ้าง แต่บททดสอบสุดหินที่รออยู่ คงจะหนีไม่พ้นการดูแลเลี้ยงดู ให้เขามีพัฒนาการทางร่ างกายและอารมณ์ให้สมบูรณ์ ซึ่งเรื่องนี้ พญ. วรรัตน์ โกวิทจินดาชัย กุมารแพทย์ ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลวิมุต มีทริคดีๆ มาฝากคุณแม่มือใหม่ พร้อมบอกเล่าถึงความต้องการพื้ นฐานของลูกตามธรรมชาติของเด็ก และตอบคำถามที่คาใจหลายๆ บ้าน "ทำยังไงให้ลูกไม่ดื้อ ไม่ติดมือถือ"
"พัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวั ยจะแตกต่างกันไป ไม่ว่าเป็นจะการหัดเคี้ยวอาหาร หัดเดิน หัดพูด และหัดรู้จักกติกาของการอยู่ร่ วมกับผู้อื่น ซึ่งพ่อแม่ หรือคุณครูคนแรกของลูก จำเป็นต้องดูแลให้ลูกมีพั ฒนาการที่เหมาะสม ทั้งการประคองให้น้องหัดเดิน พูดให้ฟังบ่อย ๆ เล่านิทานเพื่อสอนคำศัพท์ต่าง ๆ ชวนทำกิจกรรมในครอบครัวที่ทำให้ น้องได้ใช้ความคิด ฝึกสมาธิ และสนุกไปพร้อมกัน เช่น ต่อบล็อก วาดภาพระบายสี เกมจับคู่ หรือเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีไม่ควรใช้จอ เป็นต้น” พญ. วรรัตน์ อธิบาย
"พัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวั
กุมารแพทย์แนะ “พ่อแม่อย่าแพนิกเมื่อลูกซน”
“ถ้าถามว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ต่างจากแต่ก่อนอย่างไร สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนก็
Positive Parenting แนวทางการเลี้ยงดูเชิงบวก “ลูกไม่ดื้อเมื่อผู้ใหญ่ให้เกี
ปัจจุบัน หลาย ๆ บ้านหลีกเลี่ยงการเลี้ยงดูแบบบั
คุณหมอเล่าว่าการเลี้ยงแบบ Positive สามารถนำไปปรับใช้เพื่อไม่ให้ลู
ศูนย์สุตินรีเวชและศูนย์กุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น