ภาพรวมรองเท้าของ บมจ.ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ภาพรวมรองเท้าของ บมจ.ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล


ไอ.ซี.ซี.ฯ รุก-ขยายฐานตลาดกลุ่มรองเท้าสตรี ชนกลุ่มตลาดรองเท้าสปอร์ตที่ยึดฐานลูกค้าถึง 50 % เตรียมปรับตัวหาสิ่งใหม่ๆ มานำเสนอลูกค้าอยู่ตลอดเวลา หวังตั้งเป้ายอดรองเท้าระดับตำนาน อย่าง แนทเธอร์ไลค์เซอร์(Naturalizer)  ไว้ที่ 300 กว่าล้านบาท เสริมทัพสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าเด็กเพิ่ม บวกกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป หลังเน้นกลุ่มฐานลูกค้าวัย 35 ปี ขึ้นไปมาตลอดหลายสิบปี นอกจากนี้ยังเตรียมขยายฐานตลาดรองเท้าสตรีของ ไอ.ซี.ซี.ฯอย่างแบรนด์ รองเท้ารีกัล ผู้หญิง (Regal Ladies) แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น เบล์ล แอนด์ โซฟา (Belle&Sofa) แอลล์ (Elle) บีเอสซี (BSC) เพิ่มมากขึ้นด้วยการเปิดร้าน Shop in Shop เป็น Multi Brand Shop ที่ห้างสยามทาคาชิมายะ ดิไอคอนสยาม ชั้น แผนกรองเท้าสตรี พร้อมเปิดให้บริการรูปแบบใหม่ “Easy Orderเป็นครั้งแรกของ ไอ.ซี.ซี.
            เมื่อวันพฤหัสบดีที่ พฤศจิกายน 2562 ณ ชั้น ห้างสยามทาคาชิมายะ ดิไอคอนสยาม โดยมี คุณคณิศร สุยะนันทน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรองเท้า บริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงภาพรวมของรองเท้าสตรีในบริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ว่า ตลาดรองเท้าในปัจจุบัน เติบโตอย่างที่เห็นๆ กันคือในกลุ่มของรองเท้าที่เป็นกลุ่ม สปอร์ต สัดส่วนรองเท้าประเภทนี้กินไปถึง 50% ในตลาดก็ว่าได้ เราเองจึงต้องปรับตัวหาสิ่งใหม่ๆ มานำเสนอลูกค้าอยู่เสมอ สำหรับรองเท้าระดับตำนานอย่าง “แนทเธอร์ไลค์เซอร์”เอง เราตั้งเป้าโตจากปีที่แล้วประมาณ 30% มีมูลค่าตลาด 300 กว่าล้านบาทต่อปี และเราเตรียมเสริมทัพการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น  หลังพบว่าพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเยอะต่างจากในอดีต
            “ในส่วนของคู่แข่งเรามองว่า ใครรักษาฐานลูกค้าไว้ได้มากที่สุด แบรนด์นั้นจะได้เปรียบ เราจึงไม่ได้มองเรื่องประเด็นคู่แข่งมากนัก แต่มองที่จุดเด่น และจุดดีของเรามากกว่า ที่เรามีการบริการที่โดดเด่นอย่างเช่น การรับสั่งตัด หรือการดูแลลูกค้าในเรื่องของการซ่อมสินค้า การเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้า ในประเทศ โดยเฉพาะ แบรนด์ “แนทเธอร์ไลค์เซอร์”เองมีประมาณ 144 ร้านค้า ส่วนร้านค้าในต่างประเทศมีที่พม่าและลาว กลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าเดิมของเราจะเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมที่อยู่ด้วยกันมานาน อายุจะอยู่ในช่วง 35 ปีขึ้นไป เราจึงต้องขยายฐานลูกค้าออกไปโดยหากลุ่มใหม่ที่เด็กลงเพิ่มเติม โดยเพิ่มทั้งบริการและเพิ่มทั้งสินค้าเพื่อให้ตอบสนองกับกลุ่มเหล่านี้ประมาณ 20% โดยเป็นสินค้าที่เป็นส้นสูงด้วย เน้นในเรื่องของความสบายเป็นหลัก ที่สามารถจะใส่ส้นสูงให้ได้ตลอดทั้งวัน เราจึงอยากให้มาลองสินค้าของเราแล้วค่อยตัดสินใจ”
            คุณคณิศร ยังกล่าวต่อว่าการเปิด Shop in Shop เป็น Multi Brand Shop ที่ชั้น แผนกรองเท้าสตรี ห้างสยามทาคาชิมายะ ดิไอคอนสยาม ว่าสำหรับมัลติแบรนด์ช้อป ที่ สยามทาคาชิมายะนี้ เป็นสาขาแรกที่มีแบรนด์รองเท้ามารวมกัน และเป็น  ช้อปที่สามารถเลือกรองเท้าได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถสั่งตัดได้ในรูปแบบต่างๆ ที่เราได้เตรียมไว้ เรามองว่าที่ห้างสยามทาคาชิมายะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัย และกลุ่มคนใหม่ๆ เข้ามาเดินเยอะ เราน่าจะได้ลูกค้าใหม่ๆ ที่มีไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ จากตรงนี้ ยอดขายที่เราคาดหวังที่จะได้จากร้านค้าใหม่นี้ประมาณ สามแสนถึงห้าแสนบาท


พูดถึงเรื่องแตกไลน์แบรนด์รองเท้าคิดว่า ตอนนี้น่าจะยังไม่ลงทุน กับแบรนด์ใหม่ๆ เพราะแบรนด์ที่เรามีอยู่เราสามารถเพิ่มเติมเข้าไปได้ เสริมด้วยเรื่องการบริการ การรักษาลูกค้าให้โดดเด่นมากกว่าเดิม และเราคาดว่าเราจะขยายในเรื่องของรองเท้าสั่งตัดให้เพิ่มขึ้นมากกว่า เช่น การเพิ่มแบบสินค้า เพิ่มช่องทางการสั่ง หรือแม้แต่การบริการหลังการขาย”
            และ Shop in Shop เป็น Multi Brand Shopชั้น แผนกรองเท้าสตรี ห้างสยามทาคาชิมายะ ดิไอคอนสยามนี่เอง ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการบริการแนวใหม่ “Easy Order” ก่อนจะขยายบริการดังกล่าวสู่ร้านค้าของรองเท้าแบรนด์  “แนทเธอร์ไลค์เซอร์” จำนวน 144 สาขาทั่วประเทศ และ อีก ร้านค้าของแบรนด์รองเท้ารีกัล ผู้หญิง ซึ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายรองเท้า บริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“การรับสั่งตัดของเราจริงๆ แล้วเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเริ่มจากแบรนด์ “แนทเธอร์ไลค์เซอร์”ก่อน ซึ่งเราเห็นว่าปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนไปมากในยุค 5.0 ที่ดูจะเป็นยุคอะไรๆ ก็ต้องเป็น Personalization ไปหมด เราจึงมองแล้วว่า ในขณะที่เรามีโรงงานผู้ผลิตเป็นของตัวเองและเป็นโรงงานที่มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องรองเท้า จึงมองเป็นจุดที่ดี และประกอบกับ “แนทเธอร์ไลค์เซอร์”  เอง มี 144 ร้านค้าทั่วประเทศ เราเริ่มอย่างจริงจังเมื่อปลายไตรมาสที่ โดยเริ่มจาก 20 ร้านค้าในกรุงเทพก่อน กระแสตอบรับค่อนข้างดี จากนั้นเราจึงเริ่มกระจายสู่ร้านค้าต่างจังหวัดเป็น 50 ร้านค้า ทำให้ยอดขายในไตรมาสที่ เพิ่มขึ้นมาประมาณ 5% และไตรมาส เติบโตขึ้นเป็น 10% เราจึงขยายร้านค้าไปทั่วประเทศ ในการรับสั่งตัด เราให้ลูกค้าเลือกแบบที่หน้าร้านค้า โดยที่หน้าร้านค้าเรามีหลากหลายความสูงให้เลือก ลูกค้าสามารถเลือกสีได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งเราก็มีให้เลือกถึง 20 สี และมีทั้งหนังวัวและหนังแกะให้เลือกตามความชอบและโอกาส แบบที่เรารองรับการสั่งตัดเบื้องต้นเรามีประมาณ แบบ ประมาณ ความสูง ลูกค้าส่วนใหญ่สั่งตัดรองเท้าที่เป็นคัทชู แล้วเลือกสีที่ตัวเองชอบ บางคนก็ตัดครบสีเลย ลูกค้าจะได้ลองไซส์ที่หน้าร้านค้าและมีพนักงานขายที่เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ จนได้ไซส์ที่ถูกต้อง การสั่งตัดใช้ระยะเวลา 14 วันทำการ โดยลูกค้าชำระเงินที่หน้าร้านค้าแล้วเลือกได้ว่าจะมารับ”ด้วยตนเองที่ร้านค้าหรือให้ส่งไปที่บ้านหรือที่ทำงาน และในไตรมาสที่ เราก็ได้เพิ่มรูปแบบที่เป็นไลฟ์สไตล์ ที่ดูแอคทีฟมากขึ้น ทำให้เกิดการคล่องตัว คาดว่าจะมียอดขายจากกลุ่มใหม่นี้ประมาณ 5%
พร้อมกันนี้คุณคณิศร ยังได้กล่าวถึงงบการทำตลาดของผลิตภัณฑ์รองเท้าทั้งหมดของบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ว่า งบการทำตลาดในปัจจุบันเราใช้ประมาณ 5% โดยที่จะหนักไปทางออนไลน์มากกว่า เพราะลูกค้าเราในปัจจุบันมีการแอคทีฟมากในช่องทางเฟสบุ๊ค naturalizer.thailand ของเราเอง ซึ่งเป็นทั้งตัวกลางในการสื่อสารประชาสัมพันธ์และคอยตอบข้อซักถามให้คำแนะนำกับลูกค้าได้ โดยเราจะพยายามรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้าเป็นอย่างมาก และเน้นในเรื่องของการบริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการทั้งก่อนการขายหรือหลังการขาย โดยไตรมาส 3-4 นี้ เราเพิ่มช่องทางในการขายออนไลน์มากขึ้น เช่น เว็บไซต์ ethailandbest.com ของเราเอง และเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ เช่น ลาซาด้า โอชอปปิ้ง หรือช่องทางทางทีวีเอง และเราก็กำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นอยู่อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad