สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) โดยสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่
นับเป็นก้าวที่สำคัญที่ กนอ. และ ส.อ.ท. ได้จัดพิธีแสดงเจตนารมณ์ ในการสนับสนุนและส่งเสริ มมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิ เวศสำหรับผู้ประกอบการจั ดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) โดยได้การตอบจากสมาชิกกลุ่มอุ ตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่ งแวดล้อม ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในด้ านการจัดการกากอุ ตสาหกรรมในประเทศไทยเข้าร่ วมแสดงเจตนารมณ์เพื่อขอรั บรองมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor ในครั้งนี้ รวม 16 ราย โดยมีรายนามดังนี้
1. บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) 3-101-1/45สบ สระบุรี
2. บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) 3-101-2/44สบ สระบุรี
3. บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) 3-101-3/44สบ สระบุรี
4. บริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด 3-106-33/50สบ สระบุรี
5. บริษัท สยามเอ็นไวรอนเมนทอลเทคโนโลยี่ จำกัด ข3-101-1/41รย ระยอง
6. บริษัท ทีเออาร์เอฟ จำกัด 3-106-71/53สบ สระบุรี
7. บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) 3-106-31/47สก สระแก้ว
8. บริษัท ไพโร เอนเนอร์ยี่ จำกัด 3-106-8/54สบ สระบุรี
9. บริษัท ไฟเบอร์ พัฒน์ จำกัด 3-106-30/49สป สมุทรปราการ
10. บริษัท มัตซึดะ ซังเกียว (ประเทศไทย) จำกัด น.106-1/2545-ญบว. พระนครศรีอยุธยา
11. บริษัท มัตซึดะ ซังเกียว (ประเทศไทย) จำกัด น.106-2/2559-ญปค. ชลบุรี
12. บริษัท ส.กนกการจัดการสิ่งเเวดล้อม จำกัด 3-106-7/56ชบ ชลบุรี
13. บริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด 3-106-16/56สบ สระบุรี
14. บริษัท ซิมสุลาลัย จำกัด จ3-43(1)-27/50ชบ ชลบุรี
15. บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด 3-57(1)-1/37ลป ลำปาง
16. บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด 3-57(1)-1/15นศ นครศรีธรรมราชนายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่ งประเทศไทย งานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่ อความยั่งยืน กล่าวว่า “กนอ. และ ส.อ.ท. ได้พัฒนามาตรฐานนี้โดยมีผู้ แทนจากภาคส่วนต่างๆ อาทิเช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมื องแร่ กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจั ดการกากของเสียร่วมในการพัฒนาข้ อกำหนดนี้ขึ้น และได้ประกาศใช้ข้ อกำหนดมาตรฐานโรงงานอุ ตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory For Waste Processor) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีเจตนารมณ์เพื่อยกระดั บและส่งเสริมผู้ประกอบการกำจั ดและบำบัดกากอุตสาหกรรมให้มี การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่ งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้นปัจจุบันนี้เรามี มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิ เวศที่ 2 กลุ่ม คือ Eco Factory สำหรับรับรองผู้ประกอบการอุ ตสาหกรรมทั่วไป และ Eco Factory For Waste Processor สำหรับรับรองผู้ประกอบการอุ ตสาหกรรมจัดการของเสีย โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2568 ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่ งประเทศไทยต้องได้รับการรั บรองมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor 100% และผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ ประกอบกิจการอยู่ในปัจจุบัน จะต้องได้รับการรับรองมากกว่า 80% ของผู้ประกอบกิจการทั้งหมด จึงเป็นที่ มาของงานแสดงเจตนารมณ์ในการส่ งเสริมมาตรฐานโรงงานอุ ตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) ร่วมกันทั้ง 4 ฝ่ายในวันนี้
นายธีระพล ติรวศิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจั ดการเพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามี โรงงานรีไซเคิล บำบัด หรือกำจัดกากอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้ นจำนวนมาก และในขณะเดียวกับข่าวการลั กลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมมีแนวโน้ มเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งอาจเกิดจากการดำเนินธุรกิ จที่ไม่ได้มาตรฐาน และต้องการลดต้นทุนการดำเนินการ ซึ่งปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อสิ่ งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เป็นอย่างมาก และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อการสร้างมาตรฐานและความเชื่ อมั่นให้กับทุกภาคส่วน กลุ่มฯ จึงได้รับความร่วมมือจาก สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่ อความยั่งยืน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้ องในการช่วยพัฒนามาตรฐานที่ จะให้การรับรองตราสัญลักษณ์ที่ แสดงว่าผู้ประกอบการอุ ตสาหกรรมจัดการของเสียกลุ่มนี้ มีการดำเนินธุรกิจที่ได้มาตรฐาน มีความรับผิดชอบต่อสังคม คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ และสอดคล้องตาม BCG Model ดังนั้นกลุ่มได้มีเป้าหมายร่ วมกับ กนอ. และ ส.อ.ท. ที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้ สมาชิกกลุ่มฯ รวมทั้งผู้ประกอบการจั ดการของเสียอุตสาหกรรมที่อยู่ คงประกอบการในปัจจุบันมากกว่า 80% ได้รับการรับรองมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor ภายใน ปี 2568
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่ งประเทศไทย กล่าวว่า ส.อ.ท. มียุทธศาสตร์ First2Next-Gen Industry ที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ อนาคต ส.อ.ท. ซึ่งจะเข้าไปช่วยส่งเสริมและสนั บสนุนผู้ประกอบการในการยกระดั บอุตสาหกรรมในมิติต่างๆ โดยในเรื่องสิ่งแวดล้อม ส.อ.ท. มีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ Eco Product / Eco Factory /Eco Town ซึ่งมาตรฐาน Eco Factory จะเป็นกลไกสำคัญในการพั ฒนาและประเมินประเมิ นสมรรถนะของระบบการจัดการสิ่ งแวดล้อม (Environmental management systems) ของกิจกรรมองค์กรโดยตลอดวัฏจั กรชีวิต (Life cycle perspective) มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable development) ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าก่ อให้เกิดผลผลิตสีเขียวมากที่สุด ตลอดจนเป็นที่ยอมรับของชุ มชนแวดล้อมทำให้สามารถยกระดับคุ ณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิ ตของคนในชุมชนด้วยหลักความร่ วมมือเกื้อกูล และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และการประสานความร่วมมือต่ อยอดกับ กนอ. ในครั้งนี้เรามีเป้าหมายร่วมกั นในการผลักดันให้ผู้ประกอบการจั ดการของเสีย ที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรม ร้อยละ 100 ได้รับรองมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor ภายในปี 2568
ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่ งประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง กนอ. และ ส.อ.ท.ในการพัฒนามาตรฐาน Eco Factory For Waste Processor ในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือที่ สำคัญ ในการยกระดับผู้ประกอบการจั ดการของเสียให้มีการดำเนินการที่ สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่ งยืน โดย กนอ. จะดำเนินการส่งเสริมให้ Waste Processor ในนิคมอุตสาหกรรมได้รั บรองมาตรฐานนี้ครบ 100% ภายในปี 2568 และจะส่งเสริมให้โรงงานอุ ตสาหกรรมในนิคมฯ เลือกใช้บริการบำบัดและกำจั ดของเสียจากผู้ประกอบการจั ดการของเสียที่ได้รับรองมาตรฐาน และที่สำคัญคือการผลักดันสิทธิ ประโยชน์ต่างๆ ให้กับ Waste Processor ที่ได้รับรองมาตรฐานนี้
สนใจรับชมย้อนหลัง ได้ที่ https://www.facebook.com/ TheFederationOfThaiIndustries/ videos/702146154421558/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น