YLG ชี้ครึ่งปีแรกลูกค้าเทรดทองออนไลน์โต 60% ตอกย้ำหนึ่งเดียวที่ให้บริการเปิดบัญชีออนไลน์ มองครึ่งปีหลังทองในประเทศยังทรงตัวดีเหนือ 30,000 รับอานิสงส์บาทอ่อน - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565

YLG ชี้ครึ่งปีแรกลูกค้าเทรดทองออนไลน์โต 60% ตอกย้ำหนึ่งเดียวที่ให้บริการเปิดบัญชีออนไลน์ มองครึ่งปีหลังทองในประเทศยังทรงตัวดีเหนือ 30,000 รับอานิสงส์บาทอ่อน

 


วายแอลจี เผยภาพรวมทองคำในครึ่งปีแรกเหวี่ยงตัวผันผวน เป็นโอกาสเก็งกำไรตามรอบ ส่งผลนักลงทุนเปิดพอร์ตเทรดทองคำออนไลน์กับวายแอลจีเพิ่มขึ้นถึง 60 มองครึ่งปีหลังทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวคล้ายครึ่งปีแรก เหตุมีทั้งปัจจัยบวกจากสถานการณ์ความไม่สงบรัสเซียยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ และเศรษฐกิจทั่วโลกอาจชะลอตัว  ส่วนปัจจัยลบยังคงเป็นนโยบายการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ทองคำในประเทศมีโอกาสทรงตัวดีที่ระดับ 30,000-32,000 บาทต่อบาททองคำ รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าที่มีโอกาสแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนทองโลกแนะเก็งกำไรระยะสั้นตามแนวรับ $1,812-1,786  แนวต้าน $1,837-1,848 และ $1,865  พร้อมเผยจุดแข็งนักลงทุนตบเท้าเปิดพอร์ตลงทุนทองคำออนไลน์กับวายแอลจีคึกคัก จาก จุดแข็งมัดใจลูกค้า ทั้งให้ราคาดี มีที่ปรึกษาดูแลใกล้ชิด เทรดด้วยราคาเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง เปิดพอร์ตง่ายๆแบบออนไลน์ บทวิเคราะห์อัพเดตทุกสถานการณ์ ฯลฯ

 


นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์
 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG)  เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวผันผวน โดยมีบางจังหวะที่ราคาขึ้นไปในจุดสูงสุดบริเวณ 2,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนเกือบทำ All time high  ส่งผลให้ปีนี้จึงเป็นอีกปีที่นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากจังหวะการปรับตัวขึ้นลงของราคาทองคำอย่างเป็นอย่างดี ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาเปิดพอร์ตซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์กับ วายแอลจี มากขึ้น 60จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงครึ่งหลังปี 2565 วายแอลจีประเมินว่าจะมีลักษณะแกว่งตัวคล้ายกับครึ่งปีแรก โดยวายแอลจียังคงมองว่าหากราคาทองคำโลกยืนเหนือบริเวณ 1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ยังมีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,916 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็น High ของไตรมาส ปีนี้  แม้ครึ่งปีหลังจะมีปัจจัยลบจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามและเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ นั่นคือ ความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อและคาดเดาสถานการณ์ได้ยาก รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ หลังล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า GDP ของสหรัฐจะเติบโต 2.9% ในปี 2565 ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าที่ประเมินไว้ 3.7% จากปัจจัยทั้งหมดจึงทำให้ทองคำยังคงมีโอกาสแกว่งตัวสลับขึ้นลงได้ต่อเนื่อง

 

ดังนั้นวายแอลจีจึงประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีนักลงทุนเข้ามาเปิดบัญชีเทรดทองออนไลน์กับวายแอลจี ผ่าน www.ylgopenacc.com/ เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากวายแอลจีเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงหน้าร้านก็สามารถเปิดบัญชีซื้อขายทองได้ เเบบราคาเรียลไทม์ Gold Spot 24 ชม. นอกจากนี้บริการของวายแอลจียังมีจุดเด่น ข้อ คือ  1. ราคาดี 2. มีที่ปรึกษาด้านการลงทุนส่วนตัว ให้ข้อมูลเเละดูเเลเเบบ Exclusive ตั้งเเต่เริ่มต้นการลงทุนในทุกขั้นตอน 3. เทรดราคาเรียลไทม์ Gold Spot ได้ตลอด 24 ชม. 4. **เปิดพอร์ตช่องทางออนไลน์ได้ ไม่ต้องเดินทางมาที่บริษัท 5. บทวิเคราะห์อัปเดตรายวันจากนักวิเคราะห์มืออาชีพ 6. สามารถเลือกซื้อขายทอง หรือรับส่งทองที่บริษัท ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่จอดรถและห้องรับรองลูกค้า และ 7. พร้อมพนักงานบริการด้วย service mind ซึ่งเป็นหัวใจที่ทำให้ YLG ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน

 

อย่างไรก็ดีในส่วนของราคาทองคำในประเทศนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ใกล้ๆหรือเหนือกว่าบริเวณ 30,000-32,000 บาทต่อบาททองคำได้ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าตามค่าเงินในภูมิภาค แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ก็ยังคงประเมินว่าค่าเงินบาทจะยังคงอ่อนค่าต่อไปจากแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ยซึ่งหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่า โดยคาดว่าค่าเงินบาทจะมีจังหวะอ่อนค่าแตะประมาณ 36 บาท/ดอลลาร์ได้  ซึ่งจุดนี้อาจเป็นโอกาสให้นักลงทุนซื้อทองคำในรูปของดอลลาร์สหรัฐและขายในรูปของเงินบาทเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนได้

 

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำวายแอลจี แนะนำจับจังหวะการเก็งกำไรตามรอบ โดย ระยะสั้น” ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นหาแนวต้าน 1,837-1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะไปที่แนวต้านถัดไปที่ 1,865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวรับมองที่ 1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,800-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์  สำหรับการเคลื่อนไหวของทองคำแท่งในประเทศมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ 29,650 – 31,000 บาทต่อบาททองคำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad