บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ให้แก่ ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2567 นี้ ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 9 แห่ง ฟากผู้บริหาร SA ระบุหุ้นกู้ทุกรุ่นของบริษัทฯ สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตรงตามกำหนดเวลา และใช้เงินได้ตรงตามวัตถุประสงค์ทุกครั้ง แย้มเป้าหมายรายได้ปี 67 แตะ 7,000 ล้านบาท ผลจากรับรู้รายได้โครงการใหญ่ Landmark @ MRTA Station กว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมงานอสังหาฯแนวราบ และธุรกิจอื่นๆ สนับสนุนผลงานเป็นไปตามเป้าหมาย
นางสาวรีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และมีผลใช้บังคับแล้ว สำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้โดยใช้ชื่อว่า “หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2567 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน” ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 1 ชุด อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.0% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท โดยคาดว่าจะเปิดจองได้ระหว่างวันที่ 22 – 24 เมษายน 2567 นี้ สอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1306
ส่วนทรัพย์สินที่จำนองเป็นประกัน
ประกอบด้วย ห้องชุดโครงการไซมิส เอ็กซ์คลูซีพ ควีนส์ และ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
จ.เชียงใหม่ และ/หรือ ห้องชุดโครงการไซมิส ราชครู และ/หรือ ห้องชุดโครงการ
บลอสซั่ม คอนโด แอท สาทร-เจริญราษฎร์ และ/หรือ ห้องชุดโครงการไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ
และ/หรือ ห้องชุดโครงการไซมิส สุขุมวิท 48 และ/หรือ
ห้องชุดโครงการไซมิส สุขุมวิท 87 ทั้งนี้
ทรัพย์สินที่นำมาจำนองนี้จะขึ้นอยู่กับมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายได้
โดยมีมูลค่าหลักประกันของทรัพย์สินที่จำนองต้องไม่ต่ำกว่า 1.30 เท่า ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายได้ในครั้งนี้
"การออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายน
ส่วนที่เหลือจะนำไปเงินทุนหมุนเวียน และใช้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งมีการวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจนเพื่อสร้างผลงานเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี
67 ทั้งนี้ หุ้นกู้ SA ทุกรุ่นที่ผ่านมา
บริษัทฯ สามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยได้ครบถ้วน และตรงตามกำหนดทุกรุ่น และบริษัทฯ
เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
และมั่นใจว่าจะสามารถชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนดเวลาที่วางไว้" นางสาวรีย์ฐิตา
กล่าว
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้
SA สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่าย 9 แห่ง ประกอบด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์
ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จํากัด , บริษัทหลักทรัพย์
โกลเบล็ก จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์
จํากัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ,
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์
บลูเบลล์ จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด และ
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปี
2567 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น
โดยคาดการณ์รายได้อยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท
เนื่องจากคาดรับรู้รายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยประมาณ 90% มาจากโครงการ Landmark@MRTA Station ประมาณ 4,000 ล้านบาท และโครงการหมู่บ้าน 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.
Monsane Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao 2. Siamese Holm Phahol-Vibhavadi 3.
Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi 4. Monsane' Ratchapruek-Chaeng Watthana พร้อมกันนี้มาจากธุรกิจอื่นๆ ประมาณ 10% เช่น
ธุรกิจโรงแรม และกลุ่มธุรกิจสนับสนุน
อนึ่ง SA เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน
โดยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายประเภทโครงการคอนโดมิเนียม รวมทั้งสิ้น 21
โครงการ มูลค่าโครงการรวม 58,000 ล้านบาท
และโครงการแนวราบ รวม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,000
ล้านบาท (โดยโครงการที่ปิดการขายแล้วมีจำนวน 7 โครงการ ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียม 6 โครงการ
และโครงการแนวราบ 1 โครงการ) นอกจากนี้ บริษัทฯ
ประกอบธุรกิจเพิ่มเติมอีก 7 ประเภท
เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และมุ่งสร้างรายได้ประจำและต่อเนื่อง
(Recurring Income) ประกอบด้วย 1. ธุรกิจโรงแรม
2. ธุรกิจพื้นที่พาณิชย์เพื่อการเช่า 3. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 4. ธุรกิจ Spa&Wellness
5. ธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย 6. ธุรกิจการเงินและการลงทุน
และ 7. ธุรกิจบริหารนิติบุคคล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น