YLGเผยCOVID-19ระลอก3ดันทองในประเทศแพงขึ้น เหตุบาทอ่อนหนุนทองไทยทรงตัวดีกว่าตลาดโลก - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2564

YLGเผยCOVID-19ระลอก3ดันทองในประเทศแพงขึ้น เหตุบาทอ่อนหนุนทองไทยทรงตัวดีกว่าตลาดโลก


 วายแอลจี เผย COVID-19 ระลอก ดันราคาทองคำในประเทศทรงตัวในระดับสูงจากต้นปีปรับตัวลดลงแค่2.61%เทียบราคาทองคำในตลาดโลกที่ลดลงถึง 6.61% เหตุ COVID-19 ระบาดรอบใหม่ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนลง เผยปีนี้ตลาดทองคำในประเทศยังคึกคักเหตุคนไทยเริ่มกลับเข้าซื้อหลังจากเทขายกระหน่ำในปีที่ผ่านมา ล่าสุดพบนักลงทุนหน้าใหม่ตบเท้าเข้าตลาดทองคำผ่านการลงทุนรูปแบบออมทองพุ่งถึง 851% เชื่อเป็นเพราะใช้เงินลงทุนต่ำเพียง 100 บาท แต่ซื้อขายได้จริงแบบเรียลไทม์ พร้อมแนะนักลงทุนหน้าใหม่ใช้วิธีซื้อแบบเฉลี่ยต้นทุนอย่างต่อเนื่อง สนใจเปิดบัญชีออมทองคลิก https://www.ylggoldsaving.com/

 


นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า การกลับมาระบาดของ COVID-19 ระลอก ในประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นปัจจัยที่มีผลให้ราคาทองคำในประเทศไทยยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน(30 เม.ย. 2564)  ราคาทองคำในประเทศ ปรับตัวลดลงแล้ว 700 บาทต่อบาททองคำ หรือ 2.61จากราคาเปิดปีที่ 26,850 บาทต่อบาททองคำ สู่ระดับ 26,150 บาทต่อบาททองคำ ในขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกที่นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลงถึง 125.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์   หรือ 6.61% จะเห็นได้ว่าราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาทองคำในตลาดโลกเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้จากความกังวลของ COVID-19

 

อย่างไรก็ดีในปีนี้ภาพรวมของตลาดทองคำในประเทศไทยกลับคึกคักมากขึ้น  โดยได้อานิสงส์เชิงบวกจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง  ทำให้ปีนี้ในช่วงไตรมาสแรกราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงแตะ 24,400 บาทต่อบาททองคำ  ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี  จึงเริ่มได้เห็นนักลงทุนทองไทยทะยอยกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง  หลังจากในปีที่แล้วนักลงทุนทองคำในประเทศเทขายทองคำที่ถืออยู่เพื่อเติมเต็มความต้องการเงินสด  จนกดดันอุปสงค์ทองคำในภาคการลงทุนทองคำแท่งและเหรียญทองของไทยอย่างหนัก

 


ไม่เพียงเท่านี้จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ยังส่งผลให้มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่ตลาดทองคำมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่เปิดบัญชีออมทองคำ “YLG Gold saving” โดยในช่วง เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 851% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 200% จากไตรมาส ปี 2563 ซึ่งสาเหตุที่มีผู้สนใจมาเปิดบัญชีจำนวนมากเพราะสามารถซื้อขายทำกำไรได้แบบเรียลไทม์และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท ส่วนคำแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่  คือ  ใช้วิธีการซื้อเฉลี่ยต้นทุนอย่างต่อเนื่องหรือ Dollar Cost Average (DCA) เพราะเป็นวิธีการลงทุนที่ใช้วินัย  แทนอารมณ์  ที่สำคัญคือสะดวก เหมาะกับผู้ที่มีความสนใจ จะลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง แต่ยังไม่มีความรู้เรื่องการจับจังหวะตลาดที่มากพอ ไม่มีเวลาในการติดตามราคา และอาจจะยังไม่พร้อมที่จะลงทุนด้วยเงินก้อนใหญซึ่งวิธีการนี้ใช้ได้กับทุกสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นหุ้น  หรือ แม้กระทั่งทองคำ 

 

สำหรับผู้ที่สนใจเปิดบัญชีออมทองสามาถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ylggoldsaving.com/  ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำแท่งสามารถดูรายละเอียดได้ทาง  www.ylgbullion.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9888  และผ่านทางเพจเฟสบุ๊คของบริษัท https://www.facebook.com/YLGGroup และหากสนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Online Futures และ Gold Futures ) สามารถติดต่อได้ทาง  www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9999 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad