บลจ.เอ็กซ์สปริงเปิดตัวกองทุนแรกออกกองทุนส่วนบุคคลทริกเกอร์ฟันด์จุดพลุรับหุ้นไทย ประเมินดัชนีครึ่งปีหลังมีโอกาสแตะ 1,720 จุด รับปัจจัยหนุนเปิดประเทศ จับจังหวะเพิ่มทางเลือกสร้างผลตอบแทนสู้เงินเฟ้อพุ่ง เปิดจอง 30 มิ.ย. - 6 ก.ค. นี้ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565

บลจ.เอ็กซ์สปริงเปิดตัวกองทุนแรกออกกองทุนส่วนบุคคลทริกเกอร์ฟันด์จุดพลุรับหุ้นไทย ประเมินดัชนีครึ่งปีหลังมีโอกาสแตะ 1,720 จุด รับปัจจัยหนุนเปิดประเทศ จับจังหวะเพิ่มทางเลือกสร้างผลตอบแทนสู้เงินเฟ้อพุ่ง เปิดจอง 30 มิ.ย. - 6 ก.ค. นี้

 


บลจ.เอ็กซ์สปริง ประเมินดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสแตะ 1,720 จุด แม้มีแนวโน้มผันผวนสูง แต่เป็นโอกาสทำกำไรที่ดี เปิดแผนธุรกิจตั้งเป้าปีนี้คาดว่าจะออกกองทุนใหม่ไม่เกิน 6  กองทุน ล่าสุดเตรียม เสนอขาย “กองทุนส่วนบุคคล เอ็กซ์สปริง ทริกเกอร์ฟันด์ 6M” ซึ่งถือเป็นการเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคลครั้งแรกของ บลจ.เอ็กซ์สปริง เพื่อจับจังหวะครึ่งปีหลังหุ้นไทยคึกคัก รับกลุ่มท่องเที่ยวจากต่างชาติ-กลุ่มกำลังซื้อสูง ตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 7% ภายใน 6 เดือน IPO 30 มิ.ย. - 6 ก.ค. 2565 เพิ่มทางเลือกสำหรับนักลงทุนสร้างผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ

นายยศกร ฟอลเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด หรือ XSpring AM (Mr. Yodsakorn Follett Chief Executive Officer, XSpring Asset Management Company Limited) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 XSpring AM ได้วางนโยบายในการขยายฐานลูกค้าผ่านการออกกองทุนใหม่ เพื่อสร้างทางเลือกในการลงทุน โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้คาดว่าจะออกกองทุนใหม่ ไม่เกิน กองทุน ซึ่งจะประกอบไปด้วยกองทุนหลากหลายประเภท โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศที่มีโอกาสเติบโตสูง รวมถึงกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนโดยตรงในหุ้นของภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ มองว่าจังหวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งปีหลังมีความน่าสนใจอย่างมาก โดยภาพรวมน่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 1,720 จุด ซึ่งจะใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิมที่ตลาดหุ้นเคยทำไว้เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับนโยบายการลงทุนกองทุนส่วนบุคคล เอ็กซ์สปริง ทริกเกอร์ฟันด์ 6M นั้น จะลงทุนในหุ้นทั้งใน SET และ mai โดยเป็นกองทุนที่บริหารงานในรูปแบบเชิงรุก ( Active Management)

บลจ. เอ็กซ์สปริงมองว่า สภาวะตลาดหุ้นไทยในครึ่งหลังของปี 2565 นั้น ตลาดคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) จะอยู่ที่ 97.05 บาทต่อหุ้น และในปัจจุบันส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของตลาดหุ้นและพันธบัตรรัฐบาล (Earning Yield Gap) หรือ EYG อยู่ที่ประมาณ 2.85% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 2.64% โดยตามประมาณการของ บลจ. คาดว่า SET Index น่าจะปรับตัวไปที่ระดับ 1,720  จุด ใกล้จุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยจะมี Forward P/E ที่ 17.72 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ที่ 19.12 เท่า อยู่เพียงเล็กน้อย เนื่องจากคาดว่า ดัชนี SET Index จะไม่ซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าว ซึ่งกดดันจากปัจจัยเงินเฟ้อสูง ซึ่งเมื่อเทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวลงมาที่ระดับ 1,632.62 จุด ณ วันที่ 10 มิ.ย. 2565 นั้น ถือว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจอยู่สูง โดยเฉพาะเมื่อผนวกกับเงินทุนไหลเข้า (Funds  Flow) จากต่างชาติที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นจำนวน 142,017 ล้านบาท และเป็นอันดับที่ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากประเทศอินโดนีเซีย

ในแง่กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นไทยที่สภาวะตลาดในภาพรวมยังมีปัจจัยกดดันจากอัตราเงินเฟ้อถีบตัวสูงขึ้น และปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกอยู่นั้น การลงทุนจึงควรเป็นการเลือกลงทุนเป็นรายตัวหรือรายกลุ่มอุตสาหกรรมมากกว่า เช่น ในเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีปัจจัยบวกที่เป็น systemic risk อยู่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้อ กลุ่มที่ได้รับผลประโชน์จากการแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงกลุ่มที่ได้รับปัจจัยเสริมจากการเปิดประเทศที่ส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมเพิ่มขึ้นมาทดแทนกำไรที่จะถูกกดดันจากต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับการเลือกลงทุนในรายบริษัทจะมีปัจจัยเฉพาะตัวของบริษัทซึ่งเป็น non-systemic risk เช่น การควบคุมค่าใช้จ่ายหรือการบริหารต้นทุนได้ดีเป็นพิเศษในสภาวะเงินเฟ้อ การมีโครงการใหม่ การขยายตลาดใหม่ หรือ การมี s-curve ใหม่ของบริษัทที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ และจะมีกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นก็ตาม โดย บลจ. เอ็กซ์สปริง จำกัด เชื่อว่า การเลือกลงทุนในบริษัทที่เข้าข่ายตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มีแนวโน้มที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดได้

 

ทั้งนี้ XSpring AM ได้เตรียมเสนอขายกองทุนส่วนบุคคล เอ็กซ์สปริง ทริกเกอร์ฟันด์ 6M รุ่นที่ 001/2565 ซึ่งถือเป็นการเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ฟันในรูปแบบของกองทุนส่วนบุคคลเป็นครั้งแรกของ บลจ. เอ็กซ์สปริง โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2565 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ ล้านบาท และทวีคูณครั้งละ 1 ล้านบาท ในความเสี่ยงระดับ (เสี่ยงสูง) ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อราคาสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ถึงเป้าหมายที่ 10.76 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทน 7% ติดต่อกันเป็นระยะเวลา วันทำการ โดยภายในระยะเวลา เดือน ผู้ลงทุนไม่สามารถเลิกสัญญาก่อนสิ้นสุดโครงการได้ ทั้งนี้ การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนของกองทุน และเป้าหมายดังกล่าวเป็นเป้าหมายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

 

กองทุนส่วนบุคคล เอ็กซ์สปริง ทริกเกอร์ฟันด์ 6M รุ่นที่ 001/2565 อาจมีความเสี่ยงจากการลงทุน ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับรายละเอียดของกองทุนส่วนบุคคลฯ ไดที่ 02-030-3730 ในวันและเวลาทำการตั้งแต่เวลา 08:30-17:30 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad