รร.บ้านปางแดง จ.เชียงใหม่ ชี้การอยู่บนพื้นที่สูง และความหลากหลายด้านชาติพันธุ์ ไม่เป็นอุปสรรคด้านการศึกษา - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รร.บ้านปางแดง จ.เชียงใหม่ ชี้การอยู่บนพื้นที่สูง และความหลากหลายด้านชาติพันธุ์ ไม่เป็นอุปสรรคด้านการศึกษา

 


การที่โรงเรียนตั้งอยู่บนดอยสูง และมีนักเรียนที่มาจากหลายชาติพันธุ์ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นปัญหา ทั้งในเรื่องภาษา วัฒนธรรมที่แตกต่าง การขาดแคลนไฟฟ้า รวมถึงการเดินทางที่ทุรกันดาร แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่เป็นอุปสรรคด้านการเรียนการสอน ของโรงเรียนบ้านปางแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนดอยสูง มีนักเรียนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ 100% ที่ปัจจุบันนักเรียนสามารถฟังพูดอ่านและเขียนภาษาไทยได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันยังคงอนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นควบคู่กันไป นอกจากนี้ยังได้นำเอาการศึกษามาพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน จนล่าสุดได้ผ่านการคัดเลือกเข้าเป็นหนึ่งในโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่ จากมูลนิธิเอเชีย โดยความร่วมกับพันธมิตรต่างๆ พวกเขามีวิธีคิดและบริหารจัดการอย่างไร ลองไปศึกษากันดู       

 


นายชัชวาล พวงทอง
 ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปางแดง ได้กล่าวว่า นโยบายของโรงเรียนคือการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ในบริบทของชุมชนบนพื้นที่สูง ที่มีหมู่บ้านกลุ่มชาติพันธุ์ล้อมรอบ นักเรียนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ 100% ประกอบด้วย ชนเผ่าคือดาราอั้ง หรือปะหล่องลาหู่กะเหรี่ยง, ลีซู และอาข่า รวม 208 คน การจัดการศึกษาเป็นแบบพหุวัฒนธรรม เรียนภาษาถิ่นและภาษาไทยควบคู่กันไป เพิ่มเติมด้วยภาษาอังกฤษและจีน โดยมีคุณครูชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเป็นผู้สอน นอกจากนี้ยังมีโครงการพี่สอนน้อง เพื่อนสอนเพื่อน และการเพิ่มทักษะชีวิตด้วยการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ห่วง เงื่อนไข (พอประมาณ, มีเหตุผล, มีภูมิคุ้มกันที่ดี มีความรู้ และคุณธรรม) โดยนำแหล่งชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน โครงการหลวง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เข้ามาร่วมมือ และให้ความรู้กับนักเรียนในเรื่องการปลูกองุ่นและเมล่อน เพื่อให้มีทักษะการประกอบอาชีพในอนาคต”

 

ด้าน ดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส มูลนิธิเอเชีย หัวหน้าโครงการ กล่าวว่า “มูลนิธิเอเชีย ร่วมกับคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้คัดเลือกโรงเรียนบ้านปางแดงเป็นโรงเรียนดีมีทุกที่ เพราะมีความโดดเด่นในการสนับสนุนให้นักเรียนได้มีสิทธิในการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะมาจากชาติพันธุ์ใดก็สามารถเล่าเรียนได้ เด็กๆ สามารถฟังพูดอ่านและเขียนภาษาไทยได้อย่างชัดเจนมีคุณภาพ มีคุณครูครบวิชาเอกในทุกระดับชั้นซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้สามารถสอนนักเรียนได้ตามความถนัดตามที่ได้เรียนมา ยิ่งมีคุณครูเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในหมู่บ้านก็ยิ่งทำให้เข้าถึงนักเรียนมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือการไม่สร้างความขัดแย้ง เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเพื่อนๆ ก็ทำให้ เกิดความสมานฉันท์ และอยู่ร่วมกันในสังคมท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลาย อย่างมีความสุข”

 

มาที่ ด.ญ.อุษญา กลิ่นน้ำหอม เผ่าล่าหู่ อายุ ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.เล่าว่า “หนูอาศัยอยู่กับครอบครัวที่หมู่บ้านปางแดงกลาง เดินทางมาโรงเรียนทุกวันด้วยรถมอเตอร์ไซด์ ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร แต่ก็ไม่รู้สึกว่าไกลเพราะคุ้นเคยแล้ว ตอนนี้หนูชอบเรียนคณิตศาสตร์มาก และการมาโรงเรียนทำให้หนูสนุกสนาน เพราะได้เจอกับคุณครู และเพื่อนๆ”

 

ด้าน ด.ญ.ธัญพิมล พัธนะปรีชากร (เฟ้ยเฟ้ย) เผ่าล่าหู่ อายุ ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.3 บอกว่า “หนูชอบเรียนภาษาอังกฤษ เมื่อโตขึ้นอยากเป็นหมอ ที่บ้านมีไฟฟ้าใช้แล้วแต่มาจากโซล่าเซลล์ ช่วงโควิดที่ผ่านมาหนูต้องเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน การมาที่โรงเรียนทำให้หนูมีเพื่อนและไม่น่าเบื่อ ที่ผ่านมาเคยใช้อินเตอร์เนตผ่านมือถือในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่สนใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจหนูก็จะสอบถามจากคุณแม่เพื่อขอคำอธิบาย” 

 

สำหรับโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิเอเชียประจำประเทศไทย โดยการสนับสนุนของสถานทูตออสเตรเลียมูลนิธิอานันทมหิดล และความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท.สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดพลังบวกในสังคม และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยผู้สนใจชมคลิปการสัมภาษณ์ฉบับเต็มจากรายการ 1 ในพระราชดำริ ตอนโรงเรียนดีมีทุกที่ พหุวัฒธรรมการศึกษา คลิกhttps://www.youtube.com/watch?v=Kf6zmU0Gs70&t=539ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad