MS Group โตสวนกระแส เดินหน้าขยายตลาดส่งออกเครื่องสำอาง -สกินแคร์ มากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก พร้อมทุ่มงบ200ล้าน สร้างโรงงาน มาตรฐานนวัตกรรมระดับโลก ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าความงามยอดนิยม แบบ One Stop Service ครบวงจรเพื่อรองรับกระแสความต้องการสินค้าทั้งในและต่างประเทศ
คุณดวงฤทัย โชติบูรณ์วงศ์ ตำแหน่ง CEO และ Co-Founder กล่าวว่า ปัจจุบัน MS Group มีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆด้าน ผ่านบริษัทในเครือทั้ง 6 บริษัท ดังนี้
1. บริษัท M.S.Union Enterprise บริษัทให้บริการในการจัดหา และนำเข้าบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้กับเครื่องสำอาง และสินค้าเครื่องสำอางสำเร็จรูปจากต่างประเทศ โดยรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ของลูกค้า รวมทั้งควบคุมระยะเวลาและคุณภาพให้เป็นไปตามที่ตกลงไว้ 2. บริษัท M.S.Beautyline บริษัทจำหน่ายสินค้าเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ YC ผ่านช่องทางการส่งออก โดยมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ YC มากกว่า 35 ประเทศ นอกจากนี้เรายังรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ของลูกค้าในต่างประเทศอีกมากกว่า 10 ประเทศ
3. บริษัท M.S.First Enterprise โรงงานผลิตเครื่องสำอางสกินแคร์ ตั้งอยู่ที่ลำลูกกา คลอง 9 จ.ปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 12 ไร่ เป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานGMP, ISO9001 และ ISO22716 โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจากทางยุโรป บริษัทมีทีมR&D ที่จะพัฒนาสินค้าไปจนถึงทีมงานที่ดูแลการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้า
4. บริษัท CK Dispenser โรงงานผลิตหัวปั้มและบรรจุภัณฑ์พลาสติก ตั้งอยู่ที่ลำลูกกา คลอง 8 จ.ปทุมธานี เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน ISO9001 และ BRC Packaging โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท MS Group และบริษัท Sun & L ประเทศเกาหลี เพื่อสนับสนุนและถ่ายทอดความรู้ด้านวิศวกรรมและการผลิต
5. บริษัท Innova Kosmetik Indonesia โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Extica จำหน่ายทั่วประเทศอินโดนีเซีย โดยทำการตลาด และขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด และร้านขายส่งและปลีกในประเทศ
6. บริษัท Colorqueen เป็นบริษัทใหม่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยพึ่งก่อสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรเสร็จในปีที่ผ่านมา โรงงานนี้เป็นการร่วมทุนกับบริษัทไต้หวัน และสิงคโปร์ เพื่อผลิตเครื่องสำอางประเภทเมคอัพ ตั้งอยู่ที่บางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ ภายในโรงงานควบคุมการผลิตในระบบคลีนรูมทั้งหมด
กล่าวได้ว่าปัจจุบันทาง
MS Group สามารถผลิตสินค้าเครื่องสำอางได้หลากหลาย และครบทุกกลุ่มสินค้า สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก เรามีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆให้กับลูกค้าอยู่เสมอ รวมทั้งให้คำปรึกษากับลูกค้า ทั้งในเรื่องของการพัฒนาสินค้า ไปจนถึงการตลาด เราเชื่อว่าการที่สินค้าจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่แค่หน้าที่ของลูกค้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่คือหน้าที่ของเราในการช่วยคิด แล้วเราก็ต้องมั่นใจว่าสินค้าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละตลาดได้ จะขอยกตัวอย่าง สินค้าของเราที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถส่งออกไปต่างประเทศ มากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก คือ โฟมล้างหน้า โดยปีที่แล้วสามารถผลิต และส่งออกไปเกิน 10 ล้านชิ้น อีกตัวที่เรามีความภาคภูมิใจมากเช่นกัน คือ เซรั่มที่มีสารสกัดของ Vitamin C โดยเราได้ผลิตและส่งออกไปให้กับลูกค้าในหลายประเทศ ซึ่งผลตอบรับดีมาก มีอัตราการสั่งซื้อซ้ำจากทุกประเทศ
สำหรับ จุดเด่นของบริษัทฯ และกลุ่มเป้าหมาย คือ MS Group ให้การดูแลแบบครบวงจร หมายความว่า ถ้าคุณต้องการที่จะออกสินค้า คุณเดินเข้ามาหาเรา เราจะมีเจ้าหน้าที่ที่คอยช่วยคิด ให้คำปรึกษา ช่วยแก้ปัญหา แล้วก็ดูแลตั้งแต่เริ่มต้นเลย ตั้งแต่การเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสินค้า คิดดีไซน์ฉลาก โลโก้ คิดสูตร และผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ทุกวันนี้เราผลิตสินค้าขายส่งออกไปให้กับลูกค้าต่างประเทศ เราทำทุกอย่างให้กับลูกค้าแบบครบวงจร ภายใต้มาตรฐานของเรา สินค้าทุกตัวที่เราผลิต เรามั่นใจว่าจะถึงมือลูกค้าอย่างมีคุณภาพ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ที่เป็นจุดเด่นและแตกต่างของ MS Group คือ การที่คุณสามารถเลือกซื้อสินค้ากับเราเป็น Finish Goods คือสินค้าสำเร็จรูปพร้อมขายได้เลย หรือคุณจะซื้อเฉพาะบรรจุภัณฑ์ก็ได้ หรือคุณจะซื้อเฉพาะเนื้อครีมแล้วนำไปบรรจุเองก็ได้ บริษัทของเราสามารถปรับตามความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด
เป้าหมายของบริษัท คือ เราต้องการที่จะขยายบริการแบบครบวงจรของ MS Group ให้ไปถึงคนไทยมากขึ้น เพราะโดยอดีตที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นไปทางด้านต่างประเทศเป็นหลัก ทุกวันนี้เราขายสินค้าให้กับคนต่างชาติไปมากกว่า 45 ประเทศแล้ว เราเชื่อว่า MS Group มีความพร้อมทั้งด้านการผลิตและการบริการ สามารถตอบโจทย์แล้วก็ดูแลลูกค้าได้ในทุกๆกลุ่ม ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปลายทาง
สำหรับการตลาดครึ่งปีหลัง เรามองว่าควรทำการตลาดในประเทศไทยควบคู่ไปกับการส่งออก คาดว่าการนำเข้าจะชะลอตัวลง เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่จีน ทำให้ยังคงปิดประเทศในหลายพื้นที่ ส่งผลให้การนำเข้าสินค้าจากจีนทำได้ยากจากปัญหาด้านโลจิสติกส์ที่ยังคงอยู่ ลูกค้าจะหันมาพึ่งพาผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น เศรษฐกิจในประเทศไทยจะดีขึ้น เป็นโอกาสที่แบรนด์ใหม่ๆจะเข้าสู่ตลาดได้ อย่างไรก็ตามยังต้องระวังปัจจัยในเรื่องต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้วัตถุดิบแพงขึ้น ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าเพิ่ม ไม่สามารถตึงราคาเก่าเอาไว้ได้
ในส่วนตลาดส่งออกของไทยถือว่ายังดีอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ผลิตเครื่องสำอางในจีนที่ถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญ ประสบปัญหาในการส่งออก ทำให้ลูกค้าต่างประเทศมองหาฐานผลิตใหม่ ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศอื่นที่เป็นคู่แข่งของไทยแล้ว ด้านคุณภาพเราสามารถที่จะสู้กับประเทศเวียดนาม สู้กับประเทศตุรกี ประเทศโปแลนด์ได้ เรายังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าต่างประเทศ เพราะว่าสินค้าไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกแล้วก็ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะค่อนข้างชื่นชอบประเทศไทย
สำหรับกลยุทธ์ที่จะทำตลาดในประเทศไทย จะเน้นการเข้าไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและเล็กให้มากขึ้น ด้วยเพราะเรามีความพร้อมในเรื่องของการผลิต ทั้งในด้าน Packaging และสินค้าเครื่องสำอางสำเร็จรูป โดยจะเน้นที่คุณภาพเป็นหลัก พัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล มีความสวยงาม ในราคาที่สมเหตุสมผล และนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มี ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์ไทยประสบความสำเร็จทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศได้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น