MEN IN BLACK™: INTERNATIONAL

เอ็มไอบี หน่วยจารชนสากลพิทักษ์โลก   พุธ I 12 I มิถุนายน ในโรงภาพยนตร์    (Action/Adventure)  แอ็คชั่นสุดมันส์ ที่สด ใหม่ ยิ่งใหญ่ทั้งงานการสร้าง ดารานำแสดง ครบองค์ประกอบ  ภารกิจกวาดล้างเอเลี่ยนครั้งใหญ่กับเหล่าผู้พิทักษ์เจ็นใหม่     #MIBInternational 

พบกัน พุธที่ 12 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์                                                                                  Men in Black: International  การกลับมาครั้งนี้นำโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ กับ เทสซา ธอมป์สัน จาก Thor: Ragnarok  ที่มาพร้อมนักแสดงสุดเก๋า  เลียม นีสัน ,  คุเมล นันจิอานี, รีเบคคา เฟอร์กูสัน, เรฟ สปอลล์ และ เอ็มมา ธอมป์สัน  

                                                                                                                                                  โซนี่ พิคเจอร์ส ความภาคภูมิใจในการนำเสนอ "MIB International เอ็มไอบี หน่วยจารชนสากลพิทักษ์โลก " ภาพยนตร์แอ็คชั่น ผจญภัย จากผู้อำนวยการสร้าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก และ ผู้กำกับ FAST 8                           เรื่องราวของภารกิจกวาดล้างเอเลี่ยนครั้งใหญ่กับเหล่าผู้พิทักษ์เจ็นใหม่ เมื่อบุรุษชุดดำบางคนกลายเป็นไส้ศึกในเอ็มไอบี ภารกิจสุดท้าทายปราบวายร้ายในจักรวาลเดิม เพิ่มเติมคือความมันส์จึงเริ่มขึ้น

มาไล่เรียงกัน   คริส เฮมส์เวิร์ธ รับบท เอเจนท์ เอช

เอเจนท์ เอช หนึ่งในเอเจนท์ที่เป็นที่ชื่นชอมมากที่สุดประจำสำนักงานเอ็มไอบี กรุงลอนดอน เคยกอบกู้โลกแล้วครั้งหนึ่ง จากเผ่าพันธุ์เอเลียนโฉดชั่วที่มี่ชื่อว่า “เดอะ ไฮฟ์” ครั้งนี้ เขาจะพบตัวเองอยู่ใจกลางการสืบสวนเรื่องของหนอนบ่อนไส้ภายในหน่วยงานของเขา

เทสซ่า ทอมป์สัน รับบท เอเจนท์ เอ็ม เจ้าหน้าที่ใหม่

หลังจากที่เคยพบกับเอเลียนและคนพิลึกในชุดสูทสีดำเมื่อวัยเด็ก เธอก็ใช้เวลาอีก 20 ปีหลังจากนั้นเพื่อตามหาและเข้าร่วมงานกับ “เอ็มไอบี” หน่วยงานลับที่คอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของเอเลียนบนโลกใบนี้ เธอจะต้องร่วมมือกับเอเจนท์ เอชเพื่อกำจัดหนอนบ่อนไส้ในสำนักงานเอ็มไอบีแห่งกรุงลอนดอน

เลียม นีสัน รับบท ไฮ ที หัวหน้าเอ็มไอบีสาขาลอนดอน

เอเจนท์ในตำนานผู้สูงส่ง ผู้เป็นเหมือนพ่อให้กับเอเจนท์ เอช เขาอยู่กับเอชในคืนที่พวกเขาปกป้องโลกจากพวกเดอะ ไฮฟ์ เขาเพิ่งค้นพบว่าหน่วยงานสาขาลอนดอนของเขามีหนอนบ่อนไส้ เขาจึงมอบหมายให้เอเจนท์ เอ็มและเอช ไล่ล่าตัวหนอนและรักษาองค์กรที่เขารักเอาไว้ให้ได้

เอ็มม่า ทอมป์สัน รับบท เอเจนท์ โอ หัวหน้าเอ็มไอบี สาขานิวยอร์ก  ด้วยความประทับใจในความพยายามอย่างไม่ลดละของเอเจนท์ เอ็มในการตามหาและเข้าร่วมเอ็มไอบี เธอจึงได้ส่งเอเจนท์น้องใหม่ผู้นี้ออกปฏิบัติภารกิจแรกในลอนดอน ที่ซึ่งโอเริ่มสงสัยว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน รับบท อดีตแฟนสาวเอเลียนของเอเจนท์ เอช  นายหน้าค้าอาวุธเอเลียนผู้โหดเหี้ยม ครั้งหนึ่ง เอชเคยแฝงตัวไปเพื่อจับเธอมารับโทษ แต่กลับตกหลุมรักเธอแทน เธอยังคงมีความรู้สึกบางอย่างให้กับเอช แม้จะเป็นความรู้สึกแง่ลบก็เถอะ เส้นทางไปสู่การตามหาหนอนบ่อนไส้ต้องผ่านฐานที่มั่นบนเกาะ ที่ทั้งงดงามและอันตรายของเธอ

เล ทวินส์ รับบท มือสังหารเอเลียนสุดอันตรายจากดาวดราโก้  ในฐานะเอเจนท์ของเดอะ ไฮฟ์ พวกเขากำลังตามหาสุดยอดอาวุธเอเลียนที่ถูกนำมายังโลก ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสมดุลพลังในจักรวาลแห่งนี้ได้

คูมาอิล นานเจียนี รับบท พอว์นี เอเลียนตัวจิ๋วที่มีนิสัยเกินตัว ผู้อาศัยอยู่บนกระดานหมากรุก

ในตอนที่ราชินีที่เขารับใช้ถูกสังหาร เขาก็ปวารณาตัวเองเพื่อรับใช้เอเจนท์ เอ็ม ภายใต้ความไม่สบอารมณ์ของเธอและความขบขันของเอช

เรฟ สปอล รับบท เอเจนท์ ซี เพื่อนร่วมงานและคู่ปรับของเอเจนท์ เอช ที่สาขาลอนดอน  ซีอิจฉาในฝีมือ รูปร่างหน้าตาของเขาและความสัมพันธ์ระหว่างเอชกับไฮ ที...คุณคงพอเห็นภาพแล้วสินะ ความขุ่นเคืองที่คุกรุ่นนี้จะนำไปสู่การทรยศหักหลังรึเปล่านะ?                                                                                               ######

                   

ข้อมูลงานสร้าง

ขบวนการชายชุดดำได้ขยายตัวออกจนครอบคลุมไปทั่วโลก แต่เหล่าวายร้ายของจักรวาลนี้ก็เช่นกัน ในการคุ้มครองพวกเราให้ปลอดภัย เอเจนท์เอช (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ผู้ได้รับการยกย่องและเอ็ม (เทสซา ธอมป์สัน) เอเจนท์น้องใหม่ไฟแรงจำเป็นต้องจับคู่กัน มันเป็นการจับคู่กันอย่างเหลือเชื่อแต่อาจจะเวิร์คก็ได้ ขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่างดาวแบบใหม่ที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นใครก็ได้ รวมถึงเอเจนท์เอ็มไอบีเอง พวกเขาก็ต้องร่วมมือกันในการผจญภัยที่ท่องไปทุกมุมโลกเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานของพวกเขา รวมถึงโลกใบนี้ในท้ายที่สุดด้วย

ในการต่อยอดจากไอเดียที่ว่ามีเอเลียนจากต่างดาวใช้ชีวิตอยู่ในหมู่พวกเรา MIB:I ได้แนะนำเอเจนท์ อาวุธ เอเลียนและโลเกชันใหม่ๆ ในขณะเดียวกัน ก็ได้รวบรวมนักแสดงมากพรสวรรค์ที่เป็นที่ต้องการตัวสูงสุดในปัจจุบันหลายคน ซึ่งรวมถึงคริส เฮมส์เวิร์ธและเทสซา ธอมป์สัน ในบทตัวเอกของเรื่อง เอเจนท์เอชและเอ็ม โดยมีเอ็มมา ธอมป์สันกลับมารับบทหัวหน้าหน่วยชายชุดดำอีกครั้งและเลียม นีสัน, รีเบ็กก้า เฟอร์กูสันและคูมาอิล นันเจียนิก็รับบทสำคัญในเรื่องด้วย

วอลเตอร์ ปาร์คส์และลอรี แม็คโดนัลด์ได้กลับมาทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์” แฟรนไชส์นี้อีกครั้ง หลังจากที่ได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ทั้งสี่เรื่อง เริ่มตั้งแต่ Men in Black ในปี 1997 และพวกเขาก็ได้ทาบทามผู้กำกับเอฟ. แกรี เกรย์ ผู้ซึ่งผลงานรวมถึงอีพิคแอ็กชันและภาพยนตร์ระทึกขวัญ (The Fate of the Furious), คอเมดีตลกโปกฮา (Friday) และดรามากระตุ้นอารมณ์ (Straight Outta Compton) ให้มาใส่สเกล เสียงหัวเราะและวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นมาสู่ซีเควลเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ อาร์ต มาร์คัมและแมทท์ ฮอลโลเวย์ มือเขียนบทจาก MIB: I เคยเขียนบทภาพยนตร์สำหรับ Iron Man ซึ่งเป็นตัวเปิดฉากโลกภาพยนตร์มาร์เวล และผู้ซึ่งโทนของเขาได้แรงบันดาลใจมาจาก MIB ในความเป็นจริงแล้ว แฟรนไชส์ MIB โดดเด่นตรงความคิดสร้างสรรค์และความช่างคิดของมัน ที่ผสมผสานคอเมดี ไซไฟและการผจญภัยเข้าด้วยกัน อย่างที่ทำให้แฟรนไชส์อื่นๆ ต้องทำตาม

โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ร่วมกับเทนเซนต์ พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยแอมบลิน เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่วมกับปาร์คส์+แม็คโดนัลด์ อิเมจ เนชัน ภาพยนตร์โดยเอฟ. แกรี เกรย์ Men in Black: International นำแสดงโดยคริส เฮมส์เวิร์ธ, เทสซา ธอมป์สัน, คูมาอิล นันเจียนิ, รีเบ็กก้า เฟอร์กูสัน, เรฟ สปอล และแนะนำเล ทวินส์ สองฝาแฝดโลรองต์ บัวร์วาและแลร์รี บัวร์วา ร่วมด้วยเอ็มมา ธอมป์สันและเลียม นีสัน กำกับโดยเอฟ. แกรี เกรย์ อำนวยการสร้างโดยวอลเตอร์ เอฟ. ปาร์คส์และลอรี แม็คโดนัลด์ เขียนบทโดยอาร์ต มาร์คัมและแมทท์ ฮอลโลเวย์ สร้างจากการ์ตูนมาลิบูโดยโลเวล คันนิงแฮม ผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่สตีเวน สปีลเบิร์ก, เอ็ดเวิร์ด เฉิง, โฮเวิร์ด เฉิน, อี. เบนเน็ตต์ วอลช์, ริโยโกะ ทานากะ, เดวิด โบแบร์และแบร์รี ซอนเนนเฟลด์ ผู้กำกับภาพคือสจวร์ต ดรายเบิร์กห์, เอเอสซี ผู้ออกแบบงานสร้างคือชาร์ลส์ วู้ด ลำดับภาพโดยคริสเตียน แว็กเนอร์ และซีน เบเกอร์, เอซีอี ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์คือเจโรม เฉิน ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือเพ็นนี โรส ดนตรีโดยแดนนี เอลฟ์แมนและคริส เบคอน

พบเหล่าชายและหญิงในชุดดำ

ตามที่แฟนๆ ทั่วโลกของแฟรนไชส์นี้รู้ กลุ่มชายชุดดำเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อสานสายสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตนอกโลกของเรา เอ็มไอบีจะออกใบอนุญาต ตรวจตราและควบคุมการเคลื่อนไหวของเอเลียนบนโลกใบนี้ คุ้มครองโลกใบนี้ในแบบที่ประชากรโลกไม่อาจจินตนาการได้และไม่มีวันได้รับรู้ เช่นเดียวกับการตรวจตราการมาเยือนของเอเลียนเหมือนเป็นผู้อพยพลี้ภัย ด้วยอาวุธไฮเทคในมือ ที่ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีนอกโลก เครื่องมือที่มีประโยชน์ที่สุดของพวกเขาคือนิวเรไลเซอร์ อุปกรณ์เหมือนปากกาที่จะปล่อยลำแสงที่สามารถลบความทรงจำของผู้ที่ได้ติดต่อกับเอเลียน เก็บเรื่องตัวตนลับๆ ของกลุ่มเอ็มไอบีเอาไว้ให้เป็นเหมือนข่าวลือ ที่ถูกมองว่าเป็นเดจาวูก่อนจะถูกปล่อยผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ตำนานนั้นสำคัญต่อ MIB: I ภาพยนตร์เรื่องใหม่ ทีมผู้สร้างก็ได้ต่อยอดจากความคิดนั้นพร้อมกับเสริมองค์ประกอบใหม่ๆ เข้าไป “เราอยู่ในจักรวาลเดียวกับหนังเรื่องก่อนๆ แต่เราไม่ได้ถูกผูกมัดให้อยู่กับสิ่งแวดล้อมของนิวยอร์ก ซิตี้ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเรื่องราวสามภาคแรกอีกต่อไปแล้ว” ปาร์คส์ตั้งข้อสังเกต “เรามีกลิ่นไอความเป็นนานาชาติ มีตัวละครกลุ่มใหม่และติดตามน้องใหม่ของเอ็มไอบี ที่มีชื่อว่า เอ็ม (เทสซา ธอมป์สัน) ระหว่างที่เธอร่วมปฏิบัติการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและท้าทายที่สุดขององค์กรร่วมกับเอเจนท์ระดับแนวหน้าครับ”

เราได้พบกับเอ็มตอนเป็นเด็กสาวที่ชื่อมอลลี เธอและพ่อแม่ของเธอได้เจอกับผู้มาเยือนจากต่างดาวอย่างใกล้ชิด หลังจากที่หลบหลีกจากเครื่องนิวเรไลเซอร์ที่ลบความทรงจำของเอ็มไอบี มอลลีก็ทั้งมุ่งมั่นและหมกมุ่น ที่จะได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับเอเลียนบนโลก และชายชุดดำสูทสีดำลึกลับ ผู้มาเยือนบ้านเธอเพียงไม่นานหลังจากการพบปะทักทายที่เปลี่ยนขีวิตคน เธอใช้เวลลาทั้งหมดที่มีในการค้นหาคำตอบและหลายปีให้หลัง ถึงได้ค้นพบสำนักงานใหญ่ของเอ็มไอบีในนิวยอร์ก ด้วยความประทับใจในความฉลาดและทักษะนักสืบของมอลลี ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นคนเดียวที่บุกสำนักงานใหญ่โดยไม่มีใครเชิญ เอเจนท์โอ (เอ็มมา ธอมป์สัน) ก็เลยทำให้เธอเป็นเอเจนท์ และมอบหมายอัตลักษณ์ใหม่ให้กับเธอในชื่อของเอ็ม

ด้วยความกระตือรือร้นในการแสวงหาความก้าวหน้าในหน่วยงานเอ็มไอบี เอ็มก็เลยจัดการให้ตัวเองได้เป็นคู่หูกับเอช (คริส เฮมส์เวิร์ธ) เอเจนท์ในตำนานที่มีท่าเดินจริงจัง ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยกอบกู้โลกเอาไว้โดยใช้เพียงสติปัญญา และดี อะตอมไมเซอร์ของเขาเป็นอาวุธเท่านั้น งานแรกของคู่หูคู่นี้คือการพบกับเอเลียนสูงศักดิ์ วันกัส ดิ อั๊กลี และทำให้เขามีช่วงเวลาดีๆ ระหว่างที่เขามาเยือนโลก แต่ภายในเวลาไม่นานหลังจากที่พวกเขามาถึงไนต์คลับหรู วันกัสก็ถูกลอบสังหารและเอชและเอ็มก็ค้นพบว่าเขาซ่อนอาวุธที่สามารถทำลายล้างทั้งกาแล็กซีเอาไว้ ตอนนี้ เดอะ ไฮฟ์ สายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ด้านความก้าวร้าวสุดๆ ที่มีผู้นำเป็นสองมือสังหารตัวร้ายที่ร่างกายยืดหยุ่นอย่างเหลือเชื่อ ก็ได้มารวมตัวกันบนโลกเพื่อหมายยึดครองพลังของมัน

ด้วยความพยายามที่จะทำความเข้าใจว่ามือสังหารจะรู้ตำแหน่งของวันกัสได้อย่างไร เอชและเอ็มก็สงสัยว่ามีคนในองค์กรเอ็มไอบีอยู่เบื้องหลังการที่ข้อมูลลับรั่วไหล พวกเขาจะต้องหาตัวฆาตกรและเปิดโปงตัวไส้ศึก ก่อนที่อาวุธชิ้นนี้จะตกอยู่ในมือของคนร้าย การเดินทางของพวกเขาพาพวกเขาจากลอนดอนไปยังโมร็อกโก อิตาลีและปารีส ในภารกิจเพื่อกอบกู้โลก

พวกเขาเป็นชายและหญิงชุดดำ

คริส เฮมส์เวิร์ธ รับบท เอเจนท์เอช ผู้เป็นที่ชื่นชมในหมู่ชายในชุดดำเพราะความสามารถของเขาและหน้าตาที่ดูดีอย่างเหลือเชื่อของเขา ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เอชและไฮที (เลียม นีสัน) เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง ได้กอบกู้โลกจากภัยคุกคามจากเอเลียน นับตั้งแต่นั้นมา เอชก็ปลาบปลื้มกับความสำเร็จเหล่านั้น และสำหรับบางคน เขาก็เริ่มหย่อนยานและมั่นใจในตัวเองมากไป “ตอนนี้ เอชรู้สึเหมือนมีอำนาจและมีสิทธิที่จะปฏิบัติการภายใต้ชื่อของตัวเองแล้ว” เฮมส์เวิร์ธตั้งข้อสังเกต “เขามีความมั่นใจและอารมณ์ขันล้นเหลือและชอบการเลี่ยงทำตามกฎระเบียบ มันทำให้เพื่อนๆ เอเจนท์ของเขาไม่พอใจ ดังนั้น มันก็เลยมีความขัดแย้งเล็กๆ ภายในหน่วยงานเอ็มไอบีสาขาลอนดอน เอชรอดตัวไปได้มานานแล้ว ดังนั้น ก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องตื่นเสียทีแล้ว”

ปาร์คส์ตั้งข้อสังเกตว่า เอช “มีเสน่ห์อย่างไม่ต้องพยายามอะไรและเขาก็รอดตัวได้ด้วยการขยิบตาและรอยยิ้ม แม้ระหว่างที่เขาถือครองดี อะตอมไมเซอร์ซีรีส์ 7 อาวุธตามแบบฉบับของเอ็มไอบีก็ตาม ในหลายๆ แง่มุม เขาหลงทางไป และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของการที่เขาและเอ็มจุดประกายกันและกันเพื่อเป็นตัวเองที่ดีที่สุดครับ”

“คริสเหมาะกับบทเอชอย่างเพอร์เฟ็กต์และสวมบทนี้ได้อย่างกลมกลืน” ลอรี แม็คโดนัลด์กล่าวเสริม “เขามีเสน่ห์ จิกกัดตัวเองและตลก มีไม่กี่คนหรอกครับที่สามารถทำทั้งหมดนั่นได้ นอกจากนี้ เขายังมีเสน่ห์แบบสบายๆ มีสัญชาตญาณในการแสดงคอเมดีที่แข็งแกร่งเหมือนดาราเยี่ยมๆ ทุกคน และเขาก็มีความเข้าใจที่ดีเยี่ยมต่อตัวตนของเขาบนหน้าจอด้วยครับ”

เฮมส์เวิร์ธตอบรับโอกาสในการได้สานต่อแฟรนไชส์บล็อกบัสเตอร์ที่ได้รับการยกย่องเรื่องนี้พร้อมไปกับการต่อยอดทำให้มันแปลกใหม่และเผยองค์ประกอบใหม่ๆ ของโลกใบนั้น “หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกที่เป็นสากลมากกว่า” เขายืนยัน “ด้วยการย้ายจากลอนดอนไปมาร์ราเกช, อิตาลีและปารีส มันมีสโคปที่ยิ่งใหญ่กว่าในการร้อยเรียงแอ็กชัน ไซไฟและอารมณ์ขันของมันเข้าด้วยกัน มีหนังไม่กี่เรื่องหรอกนะครับที่ทำแบบนั้นได้อย่างประสบความสำเร็จและสนุกสนานได้มากเท่า Men in Black”

ดาราจาก The Avengers กล่าวยกย่องวิสัยทัศน์ของผู้กำกับเอฟ. แกรี เกรย์ในการสร้างสเกลที่ทะเยอทะยานให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ลืมช่วงเวลาที่ขำขันของตัวละคร ที่เป็นเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์นี้ด้วย “แกรีทำทุกอย่างครับ เขาเปิดโลกเอ็มไอบีให้กว้างขึ้นและปล่อยให้เราสนุกกับมัน” เฮมส์เวิร์ธกล่าว “Men in Black: International เป็นการสานต่อตำนานที่หลายคนรัก แต่มันก็ยังยืนหยัดได้ด้วยตัวเองในฐานะอีพิคไซไฟคอเมดีด้วยเหมือนกันครับ”

อีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดใจสำหรับเฮมส์เวิร์ธคือโอกาสในการได้ร่วมงานกับเทสซา ธอมป์สัน ผู้ซึ่งเขาเพิ่งแสดงประกบมาใน Thor: Ragnarok และ Avengers: Endgame “เทสซาสานต่อจากที่ที่เราทิ้งเอาไว้” เขากล่าว “เอ็ม ตัวละครของเธอนำความเฉลียวฉลาดและความน่าสนใจมาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างเอเจนท์ทั้งสองครับ”

ในหลายๆ ทาง เอ็ม ตัวละครของธอมป์สัน เป็นเหมือนหยิน สำหรับเอชที่เป็นหยาง “พวกเขาแตกต่างกันราวกลางวันและกลางคืนค่ะ มันเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างหัวสมองและหัวใจ ประมาณนั้นน่ะค่ะ” เธออธิบาย “เธอหัวดี ส่วนเขาก็พึ่งสัญชาตญาณ ดังนั้น พวกเขาก็เลยมีไอเดียและสิ่งที่ให้ความสำคัญที่แตกต่างกันโดยพื้นฐาน” มือเขียนบท อาร์ต มาร์คัม มือเขียนบทให้ข้อสังเกต “เอชและเอ็มเติมเต็มกันและกันและท้ายที่สุด พวกเขาก็ค้นพบจังหวะของตัวเองและเริ่มทำงานราวกับเครื่องจักรในการเผชิญหน้ากับภัยที่คุกคามโลกใบนี้”

เราได้พบเอ็มก่อนที่เธอจะเป็นเอ็ม โดยเธอเคยเป็นมอลลี เด็กน้อยวัยหกขวบ ผู้ซึ่งการพบกับเอเลียนหลงทางโดยบังเอิญได้สร้างผลกระทบที่ไม่อาจลบเลือนได้ และนำเธอไปสู่การเป็นเอเจนท์เอ็มไอบี “มอลลีหมกมุ่นกับความทรงจำของการพบกันอย่างใกล้ชิดครั้งนั้น ซึ่งเป็นการเปิดโลกใหม่สำหรับเธอ” ธอมป์สันกล่าว “เธอเป็นคนเดียวนอกเหนือจากพวกเอ็มไอบีที่รู้ว่ามีเอเลียนอยู่ท่ามกลางพวกเรา และใช้ชีวิตเพื่อไล่ตามองค์กรลึกลับนี้ ที่เธอเคยเจอสมัยเด็ก มอลลีรู้ว่า มันเป็นที่เดียวที่เธอจะรู้สึกว่ามันเป็นตำแหน่งแห่งที่ของเธอน่ะค่ะ”

ดูเหมือนว่าจักรวาลจะนำพาเธอไปสู่สถานที่ที่เธอควรจะอยู่ ในจังหวะที่เธอควรจะอยู่ที่นั่น “ฉันชอบความพลิกผันจากการที่ เจ ตัวละครของวิล สมิธ ถูกเลือกให้เป็นเอเจนท์ในภาคแรก” ธอมป์สันกล่าวต่อ “แต่มอลลีกลับพบพวกเขา เธอทำในสิ่งที่ไม่คาดฝัน นั่นคือการสืบร่องรอยขององค์กรที่ควรจะไร้ตัวตน มันเป็นชะตากรรมของเธอที่จะได้เป็นหนึ่งในเอเจนท์ชุดดำค่ะ”

ตามที่เธอบอกกับเอเจนท์ โอ ผู้บริหารงานเอ็มไอบีและยังคงเคลือบแคลงเกี่ยวกับหญิงสาวผู้แฝงตัวเข้ามาในองค์กรลับสุดยอดของเธอว่า “ฉันใช้เวลา 20 ปีเพื่อตามหาคุณ ซึ่งเป็นความลับสุดยอดของจักรวาล มันทำให้ฉันเพอร์เฟ็กต์สำหรับงานนี้นะ”

ปาร์คส์กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ธอมป์สันเพอร์เฟ็กต์สำหรับบทเอ็มคือ “จุดแข็งพิเศษของเธอ คุณจะมองเห็นพลังตามธรรมชาตินั้นในดวงตาของเทสซา ผมมองเห็นมันในการแสดงของเธอในบทซูเปอร์ฮีโร/นักรบวัลคีรีใน Thor: Ragnarok และ Avengers: Endgame มันมีความย้อนแย้งในทุกการเคลื่อนไหวของเธอและ Men in Black: International ก็ต้องการแบบเดียวกันจากเทสซาในทุกเฟรมครับ”

เช่นเดียวกับเฮมส์เวิร์ธ ธอมป์สันตอบรับกับความสนุกและเรื่องเซอร์ไพรส์ รวมถึงสเกลและแอ็กชัน ที่เกรย์นำมาสู่ภาพยนตร์เรื่องนี้ “แกรีไม่พลาดอะไรเลยค่ะ” เธอกล่าว “ความใส่ใจในรายละเอียดและเซนส์ทางด้านสโคปและสเกลของเขาน่ะเหลือเชื่อเลย แกรีสามารถรักษาสมดุลของตำนานจากแฟรนไชส์ได้ด้วยไอเดียใหม่ๆ และวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นค่ะ”

ฝันของมอลลีกลายเป็นจริงเมื่อเธอได้รับเลือกจากเอเจนท์โอ หัวหน้าเอ็มไอบีทั่วโลก โอเปลี่ยนอัตลักษณ์ของมอลลีเสียใหม่และตั้งชื่อเธอใหม่ว่าเอ็ม พร้อมกับจัดชุดสูทสีดำที่คุ้นตาให้กับเธอ เอเจนท์โอรับบทโดยเอ็มมา ธอมป์สัน ผู้กลับมารับบทเดิมของเธอจาก Men in Black 3 อีกครั้ง “เอ็ม ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะหลงเข้ามาในสำนักงานใหญ่ของเอ็มไอบี แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นบทสรุปของการเดินทางที่ยาวนานของเธอค่ะ” ธอมป์สันตั้งข้อสังเกต “ตอนนั้นเองที่โอตระหนักว่ามอลลีมีอะไรบางอย่างที่พิเศษสุดและตัดสินใจให้เธอเข้าร่วมทีม จริงๆ แล้ว ฉันคิดว่ามอลลีทำให้โอนึกถึงตัวเอง เพราะพวกเธอต่างก็หมกมุ่นกับอวกาศและเอเลียนเหมือนกันน่ะค่ะ”

เอ็ม เอเจนท์มือใหม่ได้รับมอบหมายให้ทำงานในเอ็มไอบี ลอนดอน ภายใต้การบังคับบัญชาของไฮที (เลียม นีสัน) ที่ซึ่งเธอจะต้องร่วมมือกับเอเจนท์เอช ผู้เข้าใกล้ระดับตำนาน ในการลากตัวไส้ศึกออกมา ไฮทีก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าสาขาลอนดอนหลังจากที่เมื่อหลายปีก่อน เขาได้ร่วมมือกับเอชในการกอบกู้โลกจากภัยคุกคามจากเอเลียน ตอนนี้ ไฮทีเตรียมตัวที่จะเกษียณแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น เขาต้องดูแลให้เกิดการลงโทษไส้ศึก ที่เป็นภัยคุกคามโลกให้ได้

ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของนีสัน ที่ถูกขัดเกลาขึ้นมาในฐานะฮีโรนักบู๊ในแฟรนไชส์ Taken   รวมถึงความสามารถที่หาตัวจับยากในการแสดงคอเมดีของเขา ทำให้เขาเหมาะกับบทไฮทีเป็นอย่างดี “เราได้เลือกคริส เฮมส์เวิร์ธ ที่ดูน่ายำเกรงทีเดียวไว้แล้ว เราก็เลยต้องหานักแสดงอีกคนที่จะสามารถต่อกรกับภาพนั้นได้” ผู้ควบคุมงานสร้างอี. เบนเน็ต วอลช์เล่า “ผู้ชมจะเข้าใจและมีความสุขกับการจับคู่แบบนั้นในทันที”

ปาร์คส์พูดถึงคุณสมบัติที่น้อยคนนักจะรู้ของนีสันว่า “เช่นเดียวกับที่ทอมมี ลี โจนส์รับบทเอเจนท์เคในภาคแรกๆ เราอยากเลือกนักแสดงที่สามารถแสดงคอเมดีได้ แทนที่จะไปเลือกนักแสดงตลก เลียมเป็นนักแสดงผู้ทุ่มเท ผู้มีฝีมือคอเมดีเป็นเยี่ยมครับ”

เฮมส์เวิร์ธชื่นชมสิ่งที่นีสันนำมาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างเอชและไฮที “ไฮทีเป็นเหมือนพ่อที่เอชไม่เคยมี พวกเขาก็เลยมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากๆ เลียมทำให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์แบบพ่อลูกและความเป็นอาจารย์ปรากฏชัดเจน เพราะมันเป็นหัวใจของหนังเรื่องนี้ครับ”

หลังจากการลอบสังหารที่กระตุ้นให้เกิดการไล่ล่าตัวไส้ศึกและการตามหาอาวุธที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล เอชและเอ็ม ภายใต้การดูแลของไฮที ก็ได้ออกปฏิบัติภารกิจที่นำพวกเขาไปสู่ร้านขายของเก่าในมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก ที่นั่น พวกเขาได้ร่วมมือกับเอเลียนสูงสองฟุตที่ชื่อ พอว์นีย์ ผู้เป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์ที่ปลอมแปลงตัวเองเป็นชิ้นส่วนหมากรุก ประชากรทั้งหมดของพวกเขาอาศัยอยู่บนกระดานหมากรุก ซึ่งเป็นบ้านชั่วคราวของพวกเขาบนโลก “ตามที่คุณสามารถคาดเดาได้จากชื่อของเขา งานของพอว์นีย์คือการคุ้มครองพระราชินี” คูมาอิล นันเจียนิ ผู้รับบทตัวละคร CG ตัวนี้กล่าว “แต่เมื่อมือสังหารฆ่าคนอื่นๆ ในเผ่าพันธุ์ของเขา พอว์นีย์ก็กลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว”

ด้วยการเสียชีวิตของพระราชินีของเขา พอว์นีย์ก็ได้สาบานตนกับ...เอเจนท์เอ็ม ด้วยปืนเลเซอร์และตะขอเกี่ยวเป็นอาวุธ เขากลายเป็นผู้คุ้มกันเธอ และได้ร่วมเดินทางผจญภัยไปกับเอ็มและเอชด้วย “นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับโลกภายนอกร้านขายของเก่าที่เป็นที่เก็บกระดานหมากรุกเอาไว้ครับ” นันเจียนิกล่าว “เขารู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างนอกบ้างก็จริงเพราะเขาเคยอ่านหรือเคยได้ยินมา แต่เขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตข้างนอกจนกระทั่งตอนนี้ครับ”

นันเจียนิ แฟนของแฟรนไชส์ MIB ชื่นชมโอกาสในการได้กระโจนเข้าสู่โลกของแอ็กชัน ไซไฟและเสียงหัวเราะ และตัวละครที่ถูกให้คำนิยามส่วนหนึ่งจากความสุดโต่ง “การรับบทพอว์นีย์สนุกมากเพราะเขาช่างประชดและไร้เดียงสา จิกกัดและกระตือรือร้น มีความฉลาดแบบผู้ใหญ่ แต่มีอารมณ์เหมือนเด็ก” เขาอธิบาย “เขาตัวเล็กจิ๋วจนทำให้การเล่นใหญ่กับเขาเป็นเรื่องสนุกครับ”

ธอมป์สันยอมรับว่าพอว์นีย์กลายเป็นตัวละครตัวโปรดของเธอและเธอถึงกับกล่าวให้เครดิตตัวเองนิดๆ ในการที่นันเจียนิมาร่วมงานนี้ด้วย “พอว์นีย์ทั้งตลกและน่ารักค่ะ” เธอกล่าว “ฉันขอร้องคูมาอิลเป็นการส่วนตัวให้รับบทนี้ แม้ว่าฉันจะไม่รู้จักเขาดีขนาดนั้น ตัวละครตัวนี้เป็น CG แต่เขาก็บินมาร่วมงานกับเราในกองถ่ายเพื่ออ่านบทกับเรา ซึ่งช่วยเสริมสร้างการเคลื่อนไหวของตัวละครได้เยอะเลยค่ะ”

ในการแย่งชิงอาวุธทำลายล้างมหาประลัย เอชตระหนักว่าเขาจะต้องไปหาริซา (รีเบ็กก้า เฟอร์กูสัน) คนรักเก่าของเขา ที่เป็นนักค้าอาวุธผู้อาศัยอยู่ในเกาะแสนงามของตัวเอง เธอคล่องแคล่ว สง่างาม ร่ำรวย ทรงอำนาจ...และเป็นเอเลียน ผู้มีแขนที่สาม ที่ทำให้เธอสามารถต่อสู้ รวมถึงทะเลาะกับแฟนเก่า ได้อย่างเมามันส์ขึ้น “ริซาเพี้ยนนิดๆ บางที นั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งของความพึงพอใจซึ่งกันและกันระหว่างเธอกับเอชก็ได้ครับ” เฮมส์เวิร์ธกล่าวพลางหัวเราะ “แต่ตอนนี้ เธอก็แค่อยากจะอัดเขาจนน่วม”

ความภักดีของริซามีแต่ต่อตัวเองเท่านั้น และเธอก็มักจะขายมันให้กับผู้ที่ให้ราคาสูงสุดเท่านั้น “ฉันไม่อยากจะพูดว่าริซาเป็นคนเลวหรอกค่ะ แต่แน่นอนว่าอย่างน้อยที่สุด เธอก็เป็นคนเจ้าเล่ห์” เฟอร์กูสัน ผู้แสดงประกอบทอม ครูซใน Mission: Impossible สองภาคล่าสุด ในบทอิลซา เจ้าหน้าที่มากฝีมือชาวอังกฤษ กล่าวยอมรับ

ริซาชำนาญในการเรื่องการทำงานที่ไร้ศีลธรรมของเธอ แต่เกาะส่วนตัวของเธอก็เป็นโอเอซิสที่เต็มไปด้วยเพื่อนพ้องที่เธอโปรดปราน ที่เฟอร์กูสันพูดถึงว่าเป็น “สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่บินได้ ที่เลื้อยคลาน น่าขนลุก ที่เธอรักยิ่งกว่าอะไร”

เฟอร์กูสันถูกเสนอให้รับบทนี้โดยเว้ด อีสต์วู้ด ผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์ของเรื่อง ผู้รับหน้าที่เดียวกันนั้นใน Mission: Impossible ที่แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวของเฟอร์กูสัน “ตอนที่ฉันได้รับโทรศัพท์จากเว้ดถามว่าฉันอยากจะรับบทเอเลียนค้าอาวุธสามแขน ที่โชว์ฝีไม้ลายมือรึเปล่า ฉันก็ถามว่า ‘คุณต้องการฉันที่ไหนเมื่อไหร่ล่ะ’ น่ะค่ะ” เฟอร์กูสันเพิ่งให้กำเนิดลูกน้อยเมื่อสิบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่เธอก็ปรากฏตัวเพื่อทดสอบการเมคอัพเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เธอพูดคุยกับอีสต์วู้ด รวมถึงการทดลองวิกผมสำหรับทรงผมพิลึกพิลั่นของริซาด้วย

แม้ว่าริซาจะเป็นคนที่น่าสงสัย แต่ตัวร้ายที่แท้จริงของเรื่องคือฝาแฝด มือสังหารผู้งามสง่าจากอีกโลกหนึ่ง ผู้มุ่งมั่นในการหยุดยั้งเอชและเอ็มจากการกอบกู้โลก ผู้ที่รับบทนี้คือนักเต้น/นักออกแบบท่าเต้นชื่อดัง โลรองต์ บัวร์วาและแลร์รี บัวร์วา สองฝาแฝดจากวิดีโอยูทูป ผู้ที่มีแฟนๆ ได้ชมนับล้านๆ คน และได้ร่วมแสดงกับบียอนเซและเจย์ซีด้วย

การเลือกโลรองต์และแลร์รีเป็นผู้ร้ายตัวหลักของเรื่องเป็นความคิดของเกรย์ เขาเคยพบกับทั้งคู่มาแล้วเมื่อหลายปีก่อนเกี่ยวกับอีกโปรเจ็กต์หนึ่ง และคิดว่าท่าเต้นที่เหลือเชื่อของพวกเขาจะทำให้ MIB:I มีผู้ร้ายที่โดดเด่นและลืมไม่ลง “มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ศิลปินได้สร้างคำจำกัดความให้กับตัวละครอย่างแท้จริง” ปาร์คส์ ผู้พูดถึงที่มาของกากรเลือกแลร์รีและโลรองต์ กล่าว “แกรี เกรย์อยู่ในออฟฟิศของเราและโชว์วิดีโอของนักเต้นที่พิเศษสองคนให้เราดู ลอรี [แม็คโดนัลด์] กับผมประทับใจกับท่าเคลื่อนไหวที่เหลือเชื่อของพวกเขามาก ท่านั้นมีชื่อว่า ‘Rug Dealers’ และผมก็มั่นใจว่าผมกำลังดูสเปเชียล เอฟเฟ็กต์อยู่แน่ๆ วิธีที่ผู้ชายสองคนนี้สามารถเต้นได้ดูราวกับมันถูกแต่งภาพด้วยดิจิตอล แต่ไม่ใช่เลยครับ พวกเขายืนอยู่บนยอดบนสุดของสตรีทแดนซ์ครับ”

“ระหว่างการถ่ายทำ ผมดูโลรองต์และแลร์รีด้วยความทึ่งครับ” เฮมส์เวิร์ธกล่าวเสริม “มีอะไรบางอย่างที่น่าประทับใจและสั่นประสาทเหลือเกินในลักษณะที่พวกเขาเคลื่อนไหวพร้อมๆ กัน พวกเขาต่อความคิดของกันและกันได้ ทั้งทางร่างกายและทางคำพูดจา การได้เห็นอะไรแบบนั้นเป็นเรื่องน่าทึ่งครับ”

สำหรับแลร์รีและโลรองต์ การได้แสดงในภาพยนตร์ Men in Black เป็นจุดสูงสุดจุดใหม่ในการทำงานที่น่าประทับใจอยู่แล้วของพวกเขา “เรารักหนังพวกนั้น และเราก็อยากจะเป็นเอเจนท์เจเหมือนวิล สมิธ เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เรารู้จักครับ” โลรองต์กล่าว “และตอนนี้ เราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ที่น่าทึ่งเรื่องนี้แล้วครับ”

ฝาแฝดคู่นี้มีแนวทางการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ ตามที่แลร์รีตั้งข้อสังเกตว่า “เราชอบการเต้นมากกว่าการพูด จริงๆ แล้ว วิธีการสื่อสารที่ดีที่สุดสำหรับเราคือการเต้น และเราก็ได้สร้างสไตล์ของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ เรามีความเชื่อมโยงกันอย่างสุดๆ และสมบูรณ์แบบครับ”

ตัวละครที่ติดดินมากกว่าคือเอเจนท์ซี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอ็มไอบีลอนดอน ที่รับบทโดยนักแสดงชาวอังกฤษ เรฟ สปอล (Shaun of the Dead, Jurassic World: Fallen Kingdom) ด้วยความหมายมั่นปั้นมือที่จะคว้างานของไฮทีมาไว้ให้ได้ ซีเป็นพวกที่ไต่เต้าตามตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ และเขาก็สงสัยในตัวของเอช ผู้ที่ซีมองเห็นว่าเป็นของเก๊ “ซีคิดว่าเขาถือไพ่เหนือกว่าเอช” สปอลกล่าว “และเขาก็ชื่นชอบการสร้างความลำบากให้กับเขา” แต่ซีก็เป็นไอ้งั่งในออฟฟิศด้วยเช่นกัน “ผมสนุกมากที่ได้รับบทตัวละครที่เลวร้ายกับทุกคน ตลอดเวลา” เขาหัวเราะ “มันเป็นความรู้สึกที่อิสรเสรี เราใช้เวลาส่วนมากในชีวิตของเราไปกับการแสร้งทำตัวเป็นคนดี ดังนั้น ผมก็เลยรู้สึกเยี่ยมที่ไม่ต้องทำแบบนั้น แถมยังได้เงินค่าจ้างอีกต่างหาก!”

วันกัส เอเลียนหนวดใหญ่ เพื่อนเก่าของเอเจนท์เอช มาเยือนโลกทุกๆ สองสามปีเพราะเขาชื่นชอบการปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง ด้วยการแสดงโดยเคย์วัน โนวัค (What We Do in the Shadows) ตอนนี้ วันกัสมีข้อกังวลที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เพราะเขาเป็นผู้ครอบครองอาวุธที่ทรงพลานุภาพที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างมา “มันเป็นเหมือนหลุมดำขนาดย่อส่วนสุดๆ น่ะครับ” แมทท์ ฮอลโลเวย์ มือเขียนบท กล่าวว “มันสามารถสร้างแกรนด์แคนยอนใหม่ในใจกลางทะเลทรายได้เลย”

เอเลียนที่หน้าตาคุ้นเคยบางตัวจากกลุ่มเอเลียนที่น่าทึ่งของแฟรนไชส์เรื่องนี้ก็ได้ปรากฏตัวด้วยเช่นกัน รวมถึงเอเลียนหนอน ที่ยังคงดูแลสถานีกาแฟประจำสำนักงานใหญ่ของเอ็มไอบี พวกเขาและผู้มาเยือนรายใหม่จากนอกโลกเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงหัวใจของสิ่งที่พิเศษสุดในแฟรนไชส์ Men in Black นั่นคือความย้อนแย้งระหว่างความพิลึกพิลั่นและความน่าขบขัน

การออกแบบโลกของ MIIB:I

ผู้ออกแบบงานสร้างชาร์ลส์ วู้ด ผู้ออกแบบโลกของภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์หลายเรื่องในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล รวมถึง Avengers: Endgame, Doctor Strange และ Guardians of the Galaxy ได้เผชิญกับความท้าทายที่แปลกพิเศษใน Men in Black: International นั่นคือการยกย่องลุคของภาพยนตร์ภาคแรกๆ พร้อมไปกับเคลื่อนตัวไปข้างหน้าในทิศทางใหม่ๆ ที่ท้าทาย ด้วยกลิ่นไอที่มีความเป็นสากลมากกว่าเดิม ตามที่ชื่อเรื่องได้บ่งบอกเอาไว้

ในการนั้น ทีมผู้สร้างต้องการสีสันเพิ่มเติมและการขยายขอบเขตที่นอกเหนือจากโลเกชันต่างๆ ในนิวยอร์ก ซิตี้ในสามภาคแรก เหล่าชายชุดดำกระจายตัวอยู่ทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าเอเลียนอยู่ทุกหนทุกแห่ง “วิธีการที่เป็นธรรมชาติที่สุดในการทำงานนี้” วู้ดอธิบาย “คือการใช้โลเกชันที่ตัวละครของเราได้ไปเยือน เราเดินทางจากสำนักงานใหญ่ของเอ็มไอบีในนิวยอร์กไปสู่ออฟฟิศของพวกเขาในลอนดอน และไปทะเลทรายในโมร็อกโกและน่านน้ำสีครามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนครับ”

ปาร์คส์ได้ขยายความถึงลุคใหม่ของ  Men in Black: International ว่า “แบบดีไซน์ของภาคก่อนๆ มีเค้าโครงจากความคิดสมัยใหม่ในต้นยุค 60s ที่เริ่มต้นในอเมริกาด้วยงานเวิลด์ แฟร์ในนิวยอร์ก ซิตี้ สำหรับหนังเรื่องนี้ เราได้โน้มเอียงไปทางสถาปัตยกรรมอังกฤษคลาสสิกตามขนบอาร์ต เดโคยุค 30s/40s ที่วิเศษสุด มันเป็นความสมัยใหม่ที่มีความอลังการ ซึ่งเป็นลุคที่มีเท็กซ์เจอร์มากกว่าสีขาวล้วนๆ แบบอเมริกาใน Men in Black ภาคนี้จะให้ความรู้สึกที่เก่าแก่ สง่างามและคลาสสิกมากกว่าครับ”

ตามที่วู้ดพูด ลุคใหม่นี้ยังช่วยสร้างประวัติที่น่าประทับใจให้กับเหล่าชายในชุดดำด้วยเช่นกัน “เราอยากจะบอกว่าองค์กรนี้มีมาตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนถ่ายสู่ศตวรรษที่ยี่สิบ ดังนั้น ในเรื่องการออกแบบ เราก็ได้ย้อนเวลากลับไปนิดๆ ครับ”

กองถ่ายทำงานกันอยู่ในอังกฤษ ที่วอร์เนอร์ บรอส ลีฟส์เดน สตูดิโอส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฉากภายในมากมาย รวมถึงฉากของสำนักงานเอ็มไอบีสาขาลอนดอน พร้อมด้วยออฟฟิศทรงกระบอกของไฮที ภายในคฤหาสน์ในเมดิเตอร์เรเนียนของริซา บ้านสมัยเด็กของมอลลี ห้องสอบสวนของเอ็มไอบี ออฟฟิศทรงไข่ของโอ ห้องภายในหอคอยไอเฟลและร้านขายของเก่าในโมร็อกโก

ที่ร้านขายของเก่า ฝาแฝดเอเลียนได้ก้าวผ่านสิ่งที่วู้ดเรียกว่า “ประตูเคลื่อนไหว ที่จะขยับไปมาด้วยตัวเอง พวกเขาเดินผ่านประตูนั้นเข้าไปยังห้องด้านหลัง ที่เราได้พบกับพอว์นีย์ มันเป็นโลกที่วุ่นวายมากที่เราต้องสร้างขึ้นมา แต่มันก็สนุกมากด้วยเพราะความใส่ใจในรายละเอียดน่ะครับ”

หอไอเฟลของวู้ดปรากฏในตอนต้นและตอนท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาอธิบายตำแหน่งของมันในเรื่องราวและวิสัยทัศน์ที่เขามีต่อฉากที่ประณีตนี้ว่า “ถ้าคุณมองดูที่ยอดบนสุดของหอไอเฟลจริงๆ ในปารีส คุณจะมองเห็นจุดชมวิว ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของมัน ในหนังเรื่องนี้ หอไอเฟลเป็นบันไดอวกาศ ที่มีประตูไปสู่ระบบสุริยะอื่นๆ และเป็นบันไดที่จะพาคุณลงมาสู่ท้องถนนในกรุงปารีสด้วย เรานำเค้าโครงการตกแต่งภายในมาจากไอเดียของเกาะเอลลิส ที่ว่าเอเลียนจะมาเยือนจากจักรวาลอื่นๆ แล้วพวกเขาก็ต้องผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกใช้มาหลายทศวรรษแล้วก็ตาม มันมีประตูบานใหญ่สามบาน ซึ่งคุณสามารถผ่านจากมิติหนึ่งไปสู่อีกมิติหนึ่งได้”

ไนต์คลับที่เราได้พบกับฝาแฝดมือสังหารถูกถ่ายทำในโลเกชันภายในตอนกลางของกรุงลอนดอน ในบิลลิงส์เกท ตลาดปลาเก่าของกรุงลอนดอน ที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17

โลเกชันอื่นๆ ในลอนดอนรวมถึงเดอะ แบล็คฟรีออาร์ พับ ซึ่งภายนอกของมันถูกใช้เป็นทางเข้าลับๆ ของเอ็มไอบีสาขาลอนดอนและลัดเกท ฮิล ที่ซึ่งทีมงานได้บันทึกภาพฉากที่เอ็มและเอชเผขิญหน้ากับฝาแฝดเอเลียน และต่อสู้พวกเขาด้วยอุปกรณ์ลับนานาชนิดที่ซ่อนอยู่ภายในรถจากัวร์คลาสสิกของเอเจนท์เอช

ในมาร์ราเกช ทีมงานได้ถ่ายทำสภาพบรรยากาศและซุค ตลาดที่วุ่นวายและเนืองแน่นไปด้วยผู้คนใจกลางเมือง ฉากที่ถ่ายทำในมาร์ราเคชรวมถึงร้านมอเตอร์ไซค์เอเลียน ที่ซึ่งเอเจนท์เอ็มและเอชได้ยืมยานโฮเวอร์ไบค์อวกาศ ที่เป็นเหมือนมอเตอร์ไซค์บินได้ ในการหลบหนีฝาแฝด, ภายนอกร้านขายของเก่าในโมร็อกโก ที่ซึ่งมือสังหารได้คร่าชีวิตประชากรชาวกระดานหมากรุก โดยมีพอว์นีย์เป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวและซีเควนซ์ที่เอชและเอ็มพบตัวเองอยู่ในคัสบาห์ ล้อมรอบด้วยเอเจนท์เอ็มไอบีคนอื่นๆ นอกจากนั้น ทีมงานยังได้ถ่ายทำในทะเลทรายเมอร์ซูก้าและแทงเจียร์อีกด้วย

อิสเชีย เกาะภูเขาไฟในทะเลไทรีเนียน นอกชายฝั่งเมืองเนเปิลส์ ถูกใช้เป็นเกาะส่วนตัวของริซา ที่นั่น ทีมงานได้บันทึกภาพการมาเยือนบ้านของริซาของเอเจนท์ ที่ซึ่งพวกเขาได้พบกับลูคา คนคุ้มกันที่น่ายำเกรงของเธอ

นอกจากนั้น ทีมงานและนักแสดงยังได้ไปเยือนต้นกำเนิดของไตรภาคดั้งเดิม นิวยอร์ก ซิตี้ โดยเฉพาะเฟนท์ รูมในแฟคทอรี ปาร์ค ที่ซึ่งวู้ดได้จำลอง “ล็อบบี้” ของสำนักงานใหญ่ของเอ็มไอบี ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดียวกับที่เราได้พบครั้งแรกใน Men in Black ยังคงเข้าเวรอยู่ และยังคงอ่านนิตยสารอยู่เหมือนเดิม

แต่งตัว!

องค์ประกอบสำคัญสำหรับภาพจำใน Men in Black คือชุดสูทสีดำ ปาร์คส์อธิบายถึงที่มาของชุดพวกนั้นว่า “เจ้าหน้าที่เอ็มไอบีมีคติประจำใจอยู่อย่างหนึ่งว่า แม้พวกเขาจะทำวีรกรรมทุกวัน แต่จะให้มีคนรับรู้เรื่องของพวกเขาไม่ได้ การทำตัวไร้ตัวตนเป็นสิ่งจำเป็นและมันก็เริ่มต้นด้วยสูทสีดำ มันเป็นเรื่องของการหายตัว สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับชุดเอ็มไอบีคือคุณอยากให้มันเป็นชุดที่ลืมได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยความที่ดาราหนังจะต้องสวมชุดพวกนี้ ชุดสูทก็จะต้องดูดี นักแสดงจะต้องรู้สึกว่าตัวเองทรงพลังในชุดนั้นครับ”

ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เพ็นนี โรส ได้ร่วมมือกับพอล สมิธ หนึ่งในนักออกแบบที่โด่งดังที่สุดของอังกฤษ ในการตัดเย็บชุดเฉพาะบุคคลและสร้างมุมมองใหม่ให้กับชุดสูทที่โด่งดังนี้ “ในตอนที่คุณนึกถึงชายในชุดดำ คุณจะคิดแค่ว่ามันเป็นชุดสูทสีดำ และคุณก็หยุดแค่ตรงนั้นได้ แต่เพ็นนี โรสไม่ใช่แบบนั้น” ปาร์คส์กล่าว “เธอและพอล สมิธได้สร้างชุดเอ็มไอบีสไตล์อังกฤษขึ้นมาเพราะชุดสูทของนิวยอร์กจากภาคแรกๆ มันมีความเฉพาะเจาะจงมากๆ สำหรับพื้นที่นั้นและยุคสมัยนั้น เราปรับเปลี่ยนชุดสูทนั้นเสียใหม่ครับ”

ทีมนักแสดงยิ่งกว่าตื่นเต้นที่ได้สวมชุดสูทนี้ “ชุดสูทพวกนี้ทรงพลังจริงๆ และทำให้เรารู้สึกหนักแน่นและจริงจังค่ะ” เทสซา ธอมป์สันกล่าว “แต่พวกมันก็สง่างามและเหมาะกับผู้หญิงที่ทรงอำนาจอย่างแท้จริง มันทำให้คุณรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในโลกใบนั้นค่ะ”

เฮมส์เวิร์ธกล่าวว่า เขาชื่นชมที่ “ชุดสูทแต่ละชุดมีความวิบวับเล็กๆ เป็นรายละเอียดส่วนตัวอยู่ด้วย ชุดของผมมีซับในที่ไม่เหมือนชุดอื่นครับ” ในทำนองเดียวกัน เฮมส์เวิร์ธชื่นชอบถุงเท้าที่ไม่ได้เป็นไปตามกฎระเบียบของเอช ที่ออกแบบโดยสมิธด้วยเช่นกัน “แล้วตอนที่คุณสวมแว่น ทุกอย่างก็ลงตัวอย่างเหมาะเจาะครับ”

โรสจัดหาเสื้อผ้าพิเศษสำหรับไฮที ตัวละครของเลียม นีสัน ซึ่งก็คือเสื้อคลุมยาว “เขาเป็นหัวหน้าของเอ็มไอบี ลอนดอน เราก็เลยคิดว่าไฮทีน่าจะมีอะไรที่คนอื่นไม่มี” เธอกล่าว ทุกชุดมีสิ่งที่โรสเรียกว่า “เนื้อผ้าที่มีเทคโนโลยียืดหยุ่นพิเศษ เพื่อที่มันจะได้ไม่ยับย่นตอนเดินทาง”

“ทุกคนดูฮ็อตมากในชุดสูทพอล สมิธค่ะ” โรสกล่าวต่อ และเรฟ สปอลก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ชุดนั้นถูกใจสปอลด้วยเหตุผลหลายๆ ประการนอกเหนือจากเรื่องสไตล์และความพอดี เขามีความรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษกับชุดนี้ “งานของพอลอยู่ในใจผมเพราะในวัยเด็กของผม ในคริสต์มาสของทุกปี พ่อผมจะซื้อเสื้อผ้าที่ออกแบบโดยพอลให้กับเราครับ” เขาเล่า

โรสชื่นชอบการสร้างชุดสูทสีดำเวอร์ชันเอเลียนสำหรับพนักงานต่างดาวในเอ็มไอบีสาขาลอนดอน “พวกเขาสวมชุดสูทสีดำเวอร์ชันเอเลียนที่ถูกดัดแปลงใหม่” เธออธิบาย “ยกตัวอย่างเช่น เสื้อแจ็คเก็ตเข้ารูปของพวกเขาถูกตัดเย็บจากถุงมือจริงๆ และชุดสูทก็ตัดเย็บจากเข็มขัดที่นั่งค่ะ”

เสื้อที่เหล่าตัวเอกสวมใส่ตรงข้ามเป็นอย่างดีกับชุดที่มือสังหารฝาแฝดสวม โรสอธิบายว่า “ฝาแฝดคู่นี้ยอดเยี่ยมและรั้งตัวได้ยากมากๆ เพราะพวกเขามีระดับพลังงานที่เหลือเชื่อ สำหรับชุดของพวกเขา เราต้องการสไตล์แบบเอเลียนมาเยือนพื้นโลก/คนเร่ร่อน/ชุดสตรีทน่ะค่ะ”

อุปกรณ์เครื่องมือประกอบอาชีพ

ด้วยองค์ประกอบไซไฟของเรื่อง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะนำเสนออุปกรณ์และยานพาหนะไฮเทค แม้ว่าการยกย่องอุปกรณ์เอ็มไอบีจากภาคแรกๆ จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ทีมผู้สร้างก็ได้ยอมรับทิศทางที่กล้าบ้าบิ่นและคาดไม่ถึงอีกครั้งหนึ่งในจุดนี้

หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญของเอ็มไอบีคือนิวเรไลเซอร์ ที่รูปทรงเหมือนปากกา ซึ่งด้วยการแยกสารกระตุ้นไฟฟ้าในสมองของเหยื่อหรือผู้พบเห็นเหตุการณ์ สามารถลบความทรงจำของพวกเขา ทำให้พวกเขาตกอยู่ในภวังค์และเอื้อต่อการปลูกฝังความทรงจำปลอมๆ ให้ มันช่วยทำให้การคงอยู่ของหน่วยงานนี้และการอยู่บนโลกของเอเลียนเป็นความลับสำหรับสาธารณชนต่อไป

“นิวเรไลเซอร์สำหรับ MIB ก็เหมือนไลท์เซเบอร์สำหรับ Star Wars ครับ” ปาร์คส์สรุป

ภายใต้การดูแลของวู้ดและช่างปั้นโมเดลอุปกรณ์ประกอบฉาก ปิแอร์ โบฮันนา ผู้รับหน้าที่เดียวกันนี้ในภาพยนตร์ Star Wars, Harry Potter และ James Bond หลายเรื่อง ทีมงานได้พัฒนานิวเรไลเซอร์ให้ทันสมัยขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็รักษาความรู้สึกที่คุ้นเคยและจำเป็นของอุปกรณ์ชนิดนี้ไว้ “มันเป็นภาพจำครับ ดังนั้น เราก็เลยไม่ได้เปลี่ยนแปลงมันมากมาย” โบฮันนาอธิบาย “เราเสริมอนิเมชันเข้าไปในกลไกของมันมากขึ้นอีกนิด ช่วยสร้างความรู้สึกที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยในตอนเปิดเครื่องและการเคลื่อนไหวของมัน แต่แบบดีไซน์ของมันก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเวอร์ชันที่ผู้ชมรักจากภาคแรกๆ ครับ”

นอกจากนี้ วู้ดยังเป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบยานพาหนะสำคัญๆ ของเรื่องหลายคัน ในขณะที่วิล สมิธและทอมมี ลี โจนส์ขับรถฟอร์ด แอลทีดี คราวน์ วิคตอเรีย เอช ตัวละครของคริส เฮมส์เวิร์ธ และเอ็ม ตัวละครของเทสซา ธอมป์สันได้รถที่อัพเกรดขึ้นไป อย่างรถจากัวร์เอสเจซิกส์คลาสสิกและรถเล็กซัส อาร์ซีเอฟ รถจากัวร์ไม่ต่างอะไรกับคลังอาวุธติดล้อ เพราะมันซ่อนอาวุธไฮเทคหลากหลายไว้ทุกซอกทุกมุม พอคุณเอื้อมมือไปที่เปิดประตู คุณจะเจอปืน เปิดฝาถังน้ำมันออกมา คุณจะเจอกับปืนที่ใหญ่กว่า สิ่งที่ซ่อนอยู่ตรงหน้าต่างคือปืนพกห้ากระบอก ตรงกันกระแทกด้านหลัง เอเจนท์สามารถชักปืนแกทลิงออกมาได้ และฝาครอบดุมก็จะเป็นตัวบรรจุกระสุน ส่วนท่อไอเสียก็หนีไม่พ้นปืนยิงจรวด

สิ่งที่พร้อมสำหรับภาพโคลสอัพเช่นกันคือรถเล็กซัส อาร์ซีเอฟ ในการอ้างถึงรถฟอร์ด แอลทีดี คราวน์ วิคตอเรียยุค 80s ที่แฟนๆ ชื่นชอบใน Men in Black ภาคแรก รถอาร์ซีเอฟคันนี้ก็สามารถบินได้เมื่อกดปุ่มสีแดงปุ่มใหญ่เช่นเดียวกัน

ยานพาหนะอีกคันหนึ่งที่ได้เหินเวหาในภาพยนตร์เรื่องนี้คือโฮเวอร์ไบค์เอเลียน “มันสนุกดีครับ” วู้ดกล่าว “สำหรับฉากในมาร์ราเคช เราอยากได้ยานพาหนะที่มีรูปทรงห่างไกลจากโลกใบนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราทำให้โฮเวอร์ไบค์มีส่วนหน้าใหญ่ด้วยรูลมขนาดใหญ่ และเราก็ทำให้แน่ใจว่าจะเพิ่มเปลวไฟให้ออกมาจากด้านหลังของเครื่องยนต์ นอกจากนั้น มันก็จะต้องคล่องตัวพอที่จะเบียดไปตามท้องถนนที่แคบของเมืองแห่งนี้ได้ เราคิดแบบดีไซน์ที่แตกต่างกันขึ้นมาประมาณ 30 แบบ จนกระทั่งเราเลือกรูปทรงที่ทุกคนชื่นชอบออกมาได้ จากนั้น เราก็สร้างมันขึ้นมาสี่คันครับ”

นอกจากนั้น ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ยังมีเวอร์ชันที่อัพเกรดแล้ว ซึ่งก็คือซีรีส์ 7 ของอาวุธไฮเทคที่เป็นอาวุธมาตรฐานสำหรับ Men in Black ในชื่อของดี อะตอมไมเซอร์

อุปกรณ์ อาวุธ สิ่งมีชีวิตและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโลกที่น่าประทับใจ ที่ทำให้แฟรนไชส์ Men in Blacks เป็นที่รักเหลือเกิน แต่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ คุณจะได้พบกับเวทมนตร์ที่น่าประทับใจยิ่งไปกว่านั้น วอลเตอร์ ปาร์คส์ตั้งข้อสังเกตว่า “MEN IN BLACK: INTERNATIONAL จะพาคุณเดินทางไปสู่โลกเร้นลับที่น่าตื่นเต้น ที่มีอยู่จริงถ้าเพียงแต่คุณจะมองให้ดีๆ เราหวังว่านอกเหนือจากความเพลิดเพลินแล้ว คุณจะออกมาจากโรงหนังและมองโลกของตัวคุณเองด้วยมุมมองที่แปลกใหม่ครับ”                    พุธ I 12 I มิถุนายน ในโรงภาพยนตร์