วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2565 นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่
จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 200 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 17 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้
1. ปัจจัยใดเร่งให้เงินเฟ้อเพิ่ มสูงขึ้นอย่างมาก
อันดับที่ 1 : ราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น 86.50%
อันดับที่ 2 : ภาวะสงครามจากความขัดแย้งระหว่ างรัสเซีย-ยูเครน 77.00%
อันดับที่ 3 : ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น จากปัญหา Supply chain disruption 69.50%
อันดับที่ 4 : ความต้องการสินค้าและบริการที่ มีมากเกินไปหลังการเปิดประเทศ 13.50%
2. ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ ผลกระทบในเรื่องใดส่งผลต่ อเศรษฐกิจและประชาชนในวงกว้าง
อันดับที่ 1 : การแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่ สูงขึ้น จนส่งผลต่อภาวะราคาสินค้าแพง 88.50%
อันดับที่ 2 : ภาระหนี้สินภาคครัวเรือน และการขาดสภาพคล่องของผู้ ประกอบการ 64.00%
อันดับที่ 3 : กำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ลดลง 57.00%
อันดับที่ 4 : ผู้ประกอบการมีความระมัดระวั งในการลงทุน และจำกัดการจ้างงาน 30.50%
3. คาดการณ์เงินเฟ้อตลอดทั้งปี 2565 จะอยู่ในระดับใด
อันดับที่ 1 : อัตราเงินเฟ้อ 4 – 5 % 50.00%
อันดับที่ 2 : อัตราเงินเฟ้อ 6 – 8 % 43.00%
อันดับที่ 3 : อัตราเงินเฟ้อ 1 – 3 % 7.00%
4. ภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวอย่างไร ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ปรับต้วสู งขึ้นต่อเนื่อง
อันดับที่ 1 : ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้ นทุน และบำรุงรักษาเครื่องจักร 74.50%
ให้มีประสิทธิภาพ
อันดับที่ 2 : นำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลมาช่ วยในการดำเนินธุรกิจ 62.00%
อันดับที่ 3 : เน้นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เพื่อทดแทนการนำเข้าวัตถุดิ บจากต่างประเทศ 54.00%
อันดับที่ 4 : หาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นทางเลือก 50.50%
5. ภาครัฐควรมีมาตรการอย่างไร ในการเร่งดำเนินการแก้ปั ญหาภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดั บสูง
อันดับที่ 1 : มาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย 59.50%
และผู้ประกอบการ SMEs
อันดับที่ 2 : ลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็ นต่อภาคการผลิต 58.50%
อันดับที่ 3 : ตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร ต่อเนื่องไปอีก 3 - 6 เดือน 58.00%
อันดับที่ 4 : ควบคุมและดูแลราคาสินค้าไม่ให้ มีการฉวยโอกาสปรับราคาเกินจริง 53.00%
สำหรับธุรกิจ Start up ให้มาลงทุนในไทยมากขึ้น
6. ปี 2565 จะมีโอกาสที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ ภาวะถดถอย (Recession) หรือไม่
อันดับที่ 1 : เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเกิ ดภาวะถดถอย 76.00%
อันดับที่ 2 : เศรษฐกิจโลกยังมีเสถี ยรภาพและสามารถขยายตัวได้ 24.00%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น