เสียวหมี่
คอร์เปอเรชัน
เผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ฉบับแรกเกี่ยวกับการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ
กรุงเทพฯ ประเทศไทย 7 ธันวาคม 2566 – เสียวหมี่ คอร์เปอเรชัน ("เสียวหมี่" หรือ "กลุ่มธุรกิจ";
Stock Code:1810) ได้ทำการเผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ (White
Paper) ฉบับแรกเกี่ยวกับการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ
ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ และการทำงานของบริษัทเพื่อบรรเทาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
โดย มร. อาลัน แลม ไซไว (Alain
Lam Sai-wai) รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเสียวหมี่ได้เผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์
(White Paper) ในระหว่างการประชุมภาคีอนุสัญญากรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ
(COP28) ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศครั้งสำคัญของปี
“เสียวหมี่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงแนวทางในการเปลี่ยนแปลงคาร์บอนเป็นศูนย์ (zero-carbon transition) ของเราด้วย
ซึ่งการแสวงหานวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสีเขียวของบริษัทฯ”
มร. อาลัน แลม (Alain Lam) กล่าวในสุนทรพจน์ของเขาว่า
"ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
เสียวหมี่ยังเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ของเราและพัฒนาความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์
ซึ่งทำให้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) เป็นจริง ขณะเดียวกันเราก็ยังได้รับผิดชอบต่อโลกอีกด้วย"
เอกสารดังกล่าวกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับปรัชญาคาร์บอนเป็นศูนย์ของเสียวหมี่
(Xiaomi's
Zero-carbon Philosophy) ซึ่งรวมถึงการใช้ AIoT (Artificial
Internet of Things) ที่นำ AI เข้ามาใช้เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน
เป้าหมายของบริษัทคือการสนับสนุนด้านการเปลี่ยนแปลงคาร์บอนเป็นศูนย์ (zero-carbon
transition) สำหรับอุตสาหกรรมและสังคมโดยรวม
การดำเนินการของเสียวหมี่ไปสู่การปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์
(net-zero
emissions) นั้นสอดคล้องกับแนวทางของ ISO Net Zero ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับผู้กำหนดนโยบายที่มุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
(net-zero greenhouse gas emissions) บริษัทมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน
(carbon neutrality) ภายในปี 2583 ในธุรกิจที่มีอยู่*
เสียวหมี่กำลังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการดำเนินงานโดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและนำแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตแบบอัจฉริยะมาใช้
เสียวหมี่ยังสนับสนุนให้พันธมิตรกำหนดเป้าหมายสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน
(carbon
neutrality) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแหล่งพลังงานหมุนเวียนและการเพิ่มอัตราการใช้วัสดุ
การรีไซเคิล และการนำกลับมาใช้ใหม่ เสียวหมี่ ให้คำมั่นสัญญาในด้านความโปร่งใส
ความรับผิดชอบ
และการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่ามีความคืบหน้าในการลดคาร์บอน
ปรัชญาคาร์บอนเป็นศูนย์ของเสียวหมี่
(Xiaomi’s
Zero-carbon Philosophy) ได้นำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีประสิทธิภาพ
ประหยัด และสะอาดต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและนวัตกรรม AI
ช่วยให้เสียวหมี่สามารถเสนอทางเลือกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
เสียวหมี่กำลังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในครัวเรือนและการใช้พลังงานโดยใช้โซลูชันบ้านอัจฉริยะ
แพลตฟอร์ม
AIoT
ของเสียวหมี่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามการใช้ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น
และจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เสียวหมี่ยังนำเสนออุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อมอบประสบการณ์คุณภาพสูงที่ใช้คาร์บอนต่ำให้กับผู้ใช้งาน
ระบบนิเวศอัจฉริยะของบริษัทที่เพิ่งประกาศเปิดตัวไปคือ
“Human
x Car x Home” ที่ผสานรวมกลุ่มผลิตภัณฑ์มากกว่า 200 หมวดหมู่มาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กว่า 820 ล้านเครื่อง
และครอบคลุมผู้ใช้งานมากกว่า 95% เพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดของอุปกรณ์ในระบบนิเวศผ่านระบบบูรณาการเพียงระบบเดียว
นั่นก็คือ Xiaomi HyperOS ซึ่งได้รับการตั้งค่าให้ลดความซ้ำซ้อนของระบบ
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
และพัฒนาเป้าหมายระดับโลกของการบริโภคที่ยั่งยืน
นอกจากนี้
เสียวหมี่ยังเพิ่มความพยายามในการพัฒนาโมเดลธุรกิจแบบหมุนเวียนอีกด้วย
บริษัทได้เรียกร้องให้มีโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนระดับโลกหลายโครงการ
รวมไปถึงการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero
emission) การเข้าร่วมโครงการ GE100% การขยายโครงการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์
และเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน ระหว่างปี 2565 ถึง 2569
เสียวหมี่วางแผนที่จะรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 38,000 ตัน และลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนที่หลากหลาย
เสียวหมี่มุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์อันน่าทึ่งในราคาที่เป็นจริง
และใช้เทคโนโลยีที่ยั่งยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุม และราคาเป็นมิตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น