วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ชี้เหตุการณ์ตึงเครียดอิหร่าน- สหรัฐหนุนราคาทองพุ่ง วันศุกร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.4% พร้อมทะยานขึ้นต่อเช้าวันนี้ สวนทางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆที่ ปรับลดลงถ้วนหน้า ทั้งตลาดหุ้นและค่าเดินดลลาร์ สหรัฐ คาดหาสถานการณ์ทวีความรุ นแรงทองคำปีนี้มีโอกาสผ่านแนวต้ าน 1,603-1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปทดสอบแนวต้ านใหม่ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 24,250 บาท พร้อมมองกลยุทธ์ เน้นการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจเข้าซื้อบริเวณ 1,566-1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังมีแรงขายสลับเป็นระยะ แต่ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่ านกับสหรัฐถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ มีผลต่อทิศทางราคาทองในปี2563 อีกปัจจัยหนึ่ง หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาที่เกิ ดเหตุการณ์สังหารผู้นำระดับสู งของอิหร่าน ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นถึง2 1.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 1.4% ในวันศุกร์ สวนทางกับการลงทุนในสินทรัพย์ เสี่ยงอื่นๆที่ปรับตัวลดลง เช่น ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ในวันศุกร์ปิดที่ 28,634.88 จุด ร่วงลง 233.92 จุด หรือลดลง 0.81 ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายเพื่ อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย อาทิ เยนและฟรังก์สวิส ทำให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่วนพันธบัตรรัฐบาลสหรั ฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รั บแรงหนุนเช่นกัน ซึ่งแรงซื้อพันธบัตรกดดันอั ตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรั ฐให้ปรับตัวลง จนสร้างหนุนให้กับราคาทองคำเพิ่ มเติม
YLG ประเมินว่า ราคาทองคำในปีนี้ยังคงเคลื่ อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยมีโอกาสที่ราคาทองคำจะขยับขึ้ นต่อเพื่อทดสอบระดับ 1,603-1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 22,900-23,100 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ปี 2556 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิ หร่านกับสหรัฐทวีความรุนแรงขึ้ นจะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ ราคาทองคำจะสามารถทะลุผ่ านกรอบแนวต้านแรก โดยประเมินแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 24,250 บาท
“แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสนั บสนุนแนวโน้มทองคำให้ปรับตัวขึ้ น แต่ยังต้องระมัดระวั งแรงขายทำกำไรที่จะสลั บออกออกมาเป็นระยะ สำหรับนักลงทุนที่ Day Trade แนะนำใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้ อเป็นหลัก โดยอาจเข้าซื้อบริเวณ 1,566-1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้ อไปยังโซนแนวรับถัดไป 1,557-1,553 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแนะนำตัดขาดทุนหากหลุด 1,553 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อราคาดีดตัวขึ้นอาจแบ่งปิ ดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่าน 1,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ ที่สำคัญ คือ นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์อย่ างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ การลงทุนในสอดรับกับสถานการณ์ที่ มีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงระมัดระวั งแรงขายคำในระยะสั้ นหากสถานการณ์ไม่ทวีความรุ นแรงอย่างที่หลายฝ่ายวิตก “ นางพวรรณ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น