อมาโด้ รุกคืบเปิดธุรกิจใหม่ Amado Shopping ฉีกทุกกฎทีวีโฮมช้อปปิ้ง ชูจีพีต่ำ รวมเรตติ้งเด็ดช่องดัง พร้อมโปรฯ โดนใจลูกค้า - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2564

อมาโด้ รุกคืบเปิดธุรกิจใหม่ Amado Shopping ฉีกทุกกฎทีวีโฮมช้อปปิ้ง ชูจีพีต่ำ รวมเรตติ้งเด็ดช่องดัง พร้อมโปรฯ โดนใจลูกค้า


 อมาโด้ ประกาศเป้าปี 2564 แตะ 3,000 ล้านบาท หลังยืหนึ่งเติบโตเหนือตลาด ปิดปี 2563 ด้วยยอดขาย 2,298 ล้านบาท เติบโต 231.14% เป็นมูลค่าถึง 1,600 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวม วิตามินและอาหารเสริมที่เติบโ 8.5% พร้อมกางแผนธุรกิจ ชู 3 กลยุทธ์หลัก เตรียมเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ทุกไตรมาส ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ด้วยคำมั่นสัญญา “We Live For Your Health” ส่งแบรนด์ครองใจผู้บริโภค พร้อมเดินกลยุทธ์ต่อยอดช่องทางขายทรงประสิทธิภาพภายใต้กลยุทธ์ Real-Time Strategic Platform สร้างธุรกิจใหม่เพิ่มมูลค่าธุรกิจ ผนึกเข้ากับ Data Driven Marketing  ชูหมัดเด็ดเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ “Amado Shopping”แพลตฟอร์มขายสินค้าบนทีวีช็อปปิ้งแนวใหม่ เขย่าวงการทีวีโฮมช้อปปิ้งด้วยจุดแข็งคิด “GP” ต่ำกว่าตลาด 25% รวบแอร์ไทม์เรตติ้งประสิทธิภาพจากช่องทีวีชั้นนำของประเทศ และจัดโปรโมชั่นสินค้าจับกลุ่มเป้าหมายได้แบบเฉพาะเจาะจง เปิดรับพาสเนอร์ธุรกิจที่มองช่องทางขายคุณภาพช่วยเพิ่มยอดขาย ตั้งเป้าปีแรกกวาดรายได้ 1,000 ล้านบาท ผงาดขึ้นแท่นท็อป ใน 10 ของตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งไทย จากการใช้ข้อมูลขับเคลื่อนการตลาด เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้ 2เท่า ลุยเดินหน้าเข้า ตลท. 

 

นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (Amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริม อาหารชั้นนำ เผยจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา อมาโด้วางกลยุทธ์สานต่อความสำเร็จให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยิ่งขึ้น ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.กลยุทธ์นำแบรนด์อมาโด้ก้าวสู่แบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ด้วยกำหนดคำมั่นสัญญา (Brand Promise) เป็น “We Live For Your Health” ให้ตลาดและผู้บริโภคจดจำอมาโด้ คือผู้ผลิตวิตามินอาหารเสริมที่มีคุณภาพได้มาตรฐานป็นเกาะป้องกันสุขภาพของคนไทย ด้วยการรีแบรนด์ และรีแพ็คเกจใหม่ทั้งหมด 2.กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ ตอบสนองความ    ต้องการตลาด ด้วยทีม Research & Development ผู้ชำนาญการ คอยคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกไตรมาส โดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกของปีนี้เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มโปรไบโอติก เกรดพรีเมี่ยม ตีตลาดสุขภาพ 3.กลยุทธ์เดินหน้าสร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพที่ตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) ด้วยความสามารถในการมองหาช่องทางขาย ทรงประสิทธิภาพ ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีศักยภาพ โดยมีแผนเพิ่มร้านอมาโด้ใหม่อีก 56 สาขา เป็น 100 สาขา เพิ่มตัวแทนขายอีก 25 ราย รวมกับตัวแทนปัจจุบันเป็น 50 ราย 

 

นอกจากนี้ ล่าสุดยังได้เปิดตัว Amado Shopping นับเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ หรือ New Business Model  บุกตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง และยังเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการดังกล่าวด้วยการนำจุดแข็งด้านความสามารถ คัดสรรช่วงเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยการซื้อแอร์ไทม์ของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำในประเทศมารวบรวมไว้และผนวกเข้ากับ Data Driven Marketing เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพ ในการ

นำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นตรงกลุ่ม เป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นถึ 2 เท่าเพื่อให้พาสเนอร์ธุรกิจที่สนใจนำสินค้ามาจำหน่ายผ่าน Amado Shopping 

 

 

 โดยโมเดลธุรกิจใหม่ดังกล่าว เกิดจากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ หลังจากเดินหน้าทำการตลาดผ่านช่องทางเทเลเซลล์ ด้วยการนำสินค้าไปโปรโมทขายตามรายการต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำนับเป็นการต่อยอดช่องทางขายสู่ธุรกิจใหม่และนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ผนวกกับตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งยังมีมูลค่าการเติบโตน่าจับตา โดยเฉพาะยุคโควิด-19 ประกอบกับผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกดิจิทัล ผู้คนดูทีวีออนไลน์ย้อนหลังมากขึ้น ส่งผลให้ปี 2563 ตลาดดังกล่าวมีมูลค่าถึง 14,000 ล้านบาท

 

Amado Shopping ไม่ได้เป็นพียงช่องทางสำหรับจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังเปิดรับ      พาร์ทเนอร์างธุรกิจที่ต้องการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายผ่านทาง Amado Shoppingได้ด้วย โดยมีโอกาสสร้างรายได้ได้มากขึ้น ซึ่งโมเดลธุรกิจใหม่ของถือเป็นการนำจุดแข็งของอมาโด้มาสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธุรกิจใหม่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมสะสมข้อมูลลูกค้าเป็น Big Data ที่เป็นขุมทรัพย์สำคัญของธุรกิจ ผนวกกับศักยภาพของอมาโด้ในการทำ Data Driven Marketing สู่การเพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” นายธนาตรัยฉัตรกล่าว

 

ทั้งนี้ Amado Shopping มีจุดเด่นคือ 1.มีทีมเทเลเซลล์รับสายพร้อมปิดการขาย 200 คน 2.มีบริการส่ง สินค้ารวดเร็วมีประสิทธิภาพภายใต้การบริการของอมาโด้เอง สามารถส่งของได้ภายใน 48 ชั่วโมง 3.มีคลังสินค้า จัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ 3 ไร่ครึ่ง และคาดการณ์จะขยายเป็น 6 ไร่ ในอนาคต มีความสามารถในการจัดเก็บ และบริหารสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 4.มีช่วงเวลาการออกอากาศ (เรตติ้ง) ที่ดีและมีประสิทธิภาพของ แต่ละช่องรวมมากกว่า 3,000 ออนแอร์แบบ Tie-in 5. GP ต่ำกว่าตลาดเพียง 25% 6.ฐานข้อมูลลูกค้า (Data Driven) และเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้สามารถจัดโปรโมชั่นและสินค้าแบบเจาะลึกตรงกลุ่ม เป้าหมายในแต่ละช่อง แต่ละรายการ สามารถสร้าง รายได้เพิ่มขึ้นถึง เท่า และ 7.สามารถตรวจสอบยอดขาย และคำนวณ ROI ได้แบบ Real-Time ซึ่งในปีนี้อมาโด้ตั้งเป้ามีรายได้จาก Amado Shopping ถึง 1,000 ล้านบาท และก้าวขึ้นเป็นท็อป ใน 10 ของตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งในประเทศ

 

ด้าน นายพร้อมวิชญ์ กรณ์อัศวกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน  บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า อมาโด้ตั้งเป้าหมายรายได้เป็น 3,000 ล้านบาท ในปี 2564 ซึ่งจะส่งผลให้อมาโด้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ของตลาด ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และจะก้าวขึ้นสู่อันดับ ในอีก ปีข้างหน้า ประกอบกับเดินขยายธุรกิจรองรับการนำ บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภาพในปลายปีนี้หรือต้นปี โดยในปีที่ผ่านมา อมาโด้ ประสบผลสำเร็จด้วยยอดขาย 2,298 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 231.14% คิดเป็นมูลค่า 1,600  ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้ 694 ล้านบาท อัตราการเติบโตดังกล่าวคิดเป็น 10% ของตลาดวิตามินและอาหารเสริม ที่มีมูลค่า 22,621 ล้านบาท และมีมูลค่าการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม ที่เติบตัวเลขเฉลี่ย 8.5% 

 

โดยรายได้ดังกล่าวแบ่งตามช่องทางขายต่าง ๆ ดังนี้ ตัวแทน 49% เทเลเซลล์ 29% ออนไลน์ 16.8% ร้านค้า    อมาโด้ 3% โมเดิร์นเทรด 2.2% เป็นเพศหญิงกว่า 87% และเพศชาย 13% และกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีกำลังซื้อสูงกว่า 51% สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของอมาโด้เป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงที่พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นตัวช่วยดูแลสุขภาพและความงาม

 

จากสัดส่วนรายได้ดังกล่าวทำให้เห็นว่าฐานลูกค้าเทเลเซลล์จากการขายของในรายการโทรทัศน์และออนไลน์ เติบโต ใกล้เคียงกัน ทำให้อมาโด้มองเห็นโอกาสเพิ่มมูลค่าธุรกิจ สู่การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ “Amado Shopping” ความสำเร็จของอมาโด้ที่ผ่านมาเกิดจากแก่นในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ (Core Business) 3 ด้าน ได้แก่ 1.มี Research & Development คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง 2.สร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพที่ตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) 3.การขับเคลื่อนการตลาดด้วยข้อมูล หรือ Data Driven Marketing ด้วยการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์หาความต้องการของลูกค้าในเชิงลึก (Customer Insight) สู่การออกแบบโปรโมชั่นและนำเสนอสินค้าให้ตรงตามความต้องการดังกล่าว ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad