TACC กำไรปี 63 นิวไฮ 188.38 ลบ. สวนโควิดระบาด วางเป้าปี 64 รายได้โต 10-15% ผู้ถือหุ้นเฮ! บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.17 บ. - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

TACC กำไรปี 63 นิวไฮ 188.38 ลบ. สวนโควิดระบาด วางเป้าปี 64 รายได้โต 10-15% ผู้ถือหุ้นเฮ! บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.17 บ.

 


TACC โตแกร่ง! ปี 63 กำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่แตะ 188.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.34สวนโควิด-19 ระบาด ด้านกลุ่มเครื่องดื่มในมุม All Café มีการเพิ่มสาขาและอัพขนาดแก้วของเครื่องดื่ม และจากการบริหารจัดการ ด้านการดำเนินงานและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  ทำให้กำไรขั้นต้นสูงขึ้น

บิ๊กบอส “ชัชชวี วัฒนสุข”ปักหมุดปี 64 รายได้โต 10-15%  ลุยส่งโปรดักส์ใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวคาแรคเตอร์ใหม่ของคนไทย “Jay The Rabbit” เจาะกลุ่มสาวโสด-ชาวออฟฟิศ  บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดปี 63 ในอัตรา 0.17 บาท/หุ้น

 

            นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2563 มีกำไรสุทธิ 188.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.34สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์  เทียบปี 2562 มีกำไรสุทธิ 159.18 ล้านบาท แม้ยอดขายในปี 2563 จะลดลงประมาณ 13โดยมีรายได้รวม 1,316.74 ล้านบาท เทียบปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,527.36 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์ประเทศ และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 

            “แม้ยอดขายของเราจะปรับตัวลดลง จากการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย การบริโภคของลูกค้าได้กลับมา รวมไปถึง All Café มีการปรับเพิ่มขนาดแก้วจาก   16 oz. เป็น 22 oz. ช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเราได้มีการปรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการด้านการดำเนินงานและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กำไรในปี 2563 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” นายชัชชวีกล่าว

            สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% โดยบริษัทฯยังคงใช้กลยุทธ์การเจริญเติบโตของยอดขายด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกเครื่องดื่มใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มเย็นในโถกด และเครื่องดื่มในมุม All Café ที่ร้าน 7-Eleven และวางแผนการตลาดร่วมกัน เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงการขยายตลาดไปยังกลุ่ม Café Business ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของปีนี้ 

 

            ในส่วนของธุรกิจ “คาแรคเตอร์” ในปีนี้ บริษัทฯได้มีการคาแรคเตอร์ใหม่ “Jay The Rabbit” จับกลุ่มสาวโสด และกลุ่มออฟฟิศ ที่มีกำลังซื้อเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีความแตกต่างจากคาแรคเตอร์ที่บริษัทฯมีอยู่ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าและต่อยอดธุรกิจ ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง   ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกับคาแรคเตอร์ "Rilakkuma" และ "หมาจ๋า"

            ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2563 (มกราคม-ธันวาคม 2563) ในอัตรา 0.17 บาท/หุ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad