TWPC แจ่ม! ไตรมาส 4 ปี 63 พลิกกลับมากำไร เชื่อมั่นปี 64 กลับมาสดใส จากปริมาณหัวมันเพิ่ม-ส่งออกฟื้น-ราคาแป้งมันสำปะหลังพุ่ง บอร์ดไฟเขียวแจกปันผล 0.134 บ./หุ้น - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

TWPC แจ่ม! ไตรมาส 4 ปี 63 พลิกกลับมากำไร เชื่อมั่นปี 64 กลับมาสดใส จากปริมาณหัวมันเพิ่ม-ส่งออกฟื้น-ราคาแป้งมันสำปะหลังพุ่ง บอร์ดไฟเขียวแจกปันผล 0.134 บ./หุ้น

 


บมจ. ไทยวา (TWPC) โชว์ผลงานดี ในไตรมาส ปี 63 พลิกกลับมากำไร EBITDA และ เงินสุทธิจากการดำเนินงานยังเติบโต ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 7,090 ล้านบาท ลดลง 3% จากงวดเดียวกันปีก่อน ถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด 19 แต่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดปี 2563 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.134 บาท  ฟาก "โฮ เรน ฮวา "ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุปี 2564 ตั้งเป้ายอดขายโตมากกว่า 10% โดยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร เช่นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติก และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม   

 

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ไตรมาส ของปี 2563 มียอดขายรวม 2,087 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 38 ล้านบาท ลดลง 44% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 19% เนื่องจากวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่ง รายได้รวมอยู่ที่ 7,090 ล้านบาท ลดลง 3% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 7,323 ล้านบาท ถึงแม้ว่ารายได้จากกลุ่มแป้งมันสำปะหลังจะลดลง แต่รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเติบโต 8% สวนทางกับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะช่องทางส่งออกและในตลาดเวียดนามที่เติบโตกว่า 95% และ 154% ตามลำดับ  เนื่องจากถือเป็นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด 19 นอกจากนี้บริษัทฯ สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 16% เท่ากับปีก่อน ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด 19  ก็ตาม 

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2563 โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.134 บาท หรือคิดเป็น อัตราการจ่ายปันผลกว่า 311% รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 118 ล้านบาท ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่12 พฤษภาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 

 

"ในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายโตมากกว่า 10% จากการเติบโตของผลผลิตหัวมันสำปะหลัง สอดคล้องกับความต้องการแป้งมันในตลาดโลกที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังในไตรมาส 4/2563 ฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในประเทศจีน ออเดอร์เริ่มกลับมาอย่างหนาแน่นพร้อมกับคำสั่งซื้อที่ยาวจนถึงต้นปี 2564 นอกจากนี้ยังมีโอกาสทางการแข่งขันอื่นๆ เช่น มาตรการยกเว้นภาษีนำเข้ามันสำปะหลังจากไทย ความต้องการวัตถุดิบสำหรับผลิตเอทานอลเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้น และราคาแป้งข้าวโพดที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยทั้งในประเทศและราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันไทยวาส่งออกไปมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตขึ้น  

 

นอกจากนี้ ธุรกิจอาหารคาดว่ายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ที่ช่วยให้คนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตอบโจทย์ผู้บริโภค เช่น ที่ผ่านมาไทยวาได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป ตรามังกรคู่ เรดดี้ ทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพ เอาใจคนรักอาหารแนวสตรีทฟู๊ด อร่อย ง่าย พร้อมทานใน 3 นาที ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า" นาย โฮ เรน ฮวา กล่าว 

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ในปี 2564 บริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์ที่จะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมาขับเคลื่อนความเร็วและประสิทธิภาพตลอดกระบวนการทำงานของทั้งองค์กร และนวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อช่วยผลักดันกำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติก ซึ่งเป็นพลาสติกที่เตรียมได้จากพืชผลทางการเกษตร และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติโดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และบริษัทฯ คาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะดีขึ้นในปีนี้ รวมถึงกำลังมองหาโอกาสในการเติบโตและการควบรวมกิจการใหม่ๆ โดยได้ควบรวมกิจการทั้งหมด โครงการตั้งแต่ปี 2561 

 

ไทยวาเป็นผู้นำหลักด้านความยั่งยืนและได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีความยั่งยืนของ SET เป็นปีที่ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad