บ่ายวันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2567) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ Ms. Chang Yumeng ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ร่วมกันเป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงผู้แทนจังหวัดนครสวรรค์ ผู้แทนจังหวัดสงขลา และผู้แทนกรุงเทพมหานคร ร่วมงาน โดย ททท. ชูแนวคิด “เฉลิมฉลอง ปีทองแห่งความรุ่งเรือง” ปักหมุดหลักที่เยาวราช กรุงเทพมหานคร จัดเต็มประดับไฟและไฮไลต์อุโมงค์มังกรทอง เสริมสิริมงคล พร้อมสนับสนุนจัดเทศกาลตรุษจีนทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่ คาดสร้างรายได้กว่า 34,000 ล้านบาท
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การจัดเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 นี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการเฉลิมฉลองครบรอบ 49 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ซึ่งได้เริ่มสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นมา และมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจากการลงนามข้อตกลงของรัฐบาลทั้งสองฝ่ายในการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางของทั้งสองประเทศที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ทำให้การจัดเทศกาลตรุษจีนในครั้งนี้จึงถือเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ที่พิเศษมากขึ้นกว่าเดิม โดยจะนำเสนอกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงการนำเสนอเอกลักษณ์ การสืบทอดวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนจากรุ่นสู่รุ่นในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนชาวจีนในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีความหลากหลายและน่าสนใจ สามารถสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของชาวไทยและชาวต่างชาติในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นจำนวนมาก
Ms. Chang Yumeng ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้นับว่าครบรอบ 20 ปีในการจัดกิจกรรมเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทยร่วมกันซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 โดยจากความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายทำให้การจัดกิจกรรม “เทศกาลตรุษจีน” ในประเทศไทยมีประวัติยาวนานที่สุด มีมาตรฐานสูงสุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดนอกสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสำหรับเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับจีนและไทยในการเข้าสู่ยุคปลอดวีซ่าซึ่งถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับชาวจีนและชาวไทยที่จะทำให้สามารถกระชับและแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างผู้คนและวัฒนธรรมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจากการไปมาหาสู่ของทั้งสองประเทศที่จะใกล้ชิดมากขึ้นดุจเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยชาวจีนพร้อมต้อนรับชาวไทยที่จะไปเยือนอย่างอบอุ่น ขณะที่ชาวจีนจะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การจัดเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท.
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
สาธารณรัฐประชาชนจีน และ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย โดยกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่
1-29 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณถนนเยาวราช
กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนเก่าแก่และมีสำคัญของไทย
อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
รวมถึงชาวจีน ภายในงานมีกิจกรรมและการแสดงต่าง
ๆ ที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิด “เฉลิมฉลอง ปีทองแห่งความรุ่งเรือง” ทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและจีนที่เข้ากับยุคสมัย
การแสดงแสงเสียงสื่อผสมที่นำเสนอเรื่องความศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว
ขยายวันพักและเพิ่มค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาล
นอกจากนี้ ททท.ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ในการร่วมจัดกิจกรรม
รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนนำการแสดงทางวัฒนธรรมร่วมแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่าง
2 ประเทศอีกด้วย
เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 มีกิจกรรมสำคัญได้แก่ พิธีกล่าวสารอวยพรระหว่างตัวแทนจากประเทศไทย
และสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พร้อมแลกเปลี่ยนของที่ระลึก และการแสดงชุดพิเศษจากฉวนโจว
และเขตการปกครองตนเองซีจ้าง รวมถึงศิลปินชาวไทยเชื้อสายจีน ณ
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ วันที่
9 กุมภาพันธ์ 2567 และ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์
2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จะเสด็จเป็นองค์ประธานงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช
และทอดพระเนตรการแสดงพิเศษของนักแสดงไทยและจากสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ททท.
ยังได้สร้างอุโมงค์มังกรทองที่ประดับและตกแต่งไฟฟ้า อย่างสวยงาม
ภายใต้แนวคิด “เฉลิมฉลอง ปีทองแห่งความรุ่งเรือง” บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนเยาวราช
วันที่ 1-29 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมจัดการแสดง Projection Mapping ภายใต้เรื่องราวแห่งความเชื่อ
ความศรัทธา ของคนไทยเชื้อสายจีน ชื่อชุดการแสดง
“เทพเจ้าราชันย์มังกร” บริเวณถนนเยาวราช วันที่
10-12 กุมภาพันธ์ 2567 และการแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตลอดจนจัดทำบูธในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช
นำเสนอศาสตร์พยากรณ์หลากหลายรูปแบบ อาทิ อักษรมงคลพยากรณ์ ศาสตร์โหงวเฮ้ง เป็นต้น
รวมถึงจัดกิจกรรมเสริมมงคลชีวิตรับปีมังกรทอง กับ 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นำโดยซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร
ซินแสชื่อดัง ของเมืองไทย วันที่ 10-11
กุมภาพันธ์ 2567
นอกจากนี้ ททท. ยังสนับสนุนการจัดงานเทศกาลตรุษจีนในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ 1) ประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ในวันที่ 3 – 14 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ การสักการะองค์เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ พร้อมชมการแสดงวัฒนธรรมไทย-จีน และการแสดงจากศิลปินชั้นนำตลอด 12 วัน 12 คืน 2) งาน Chinese New Year 2024 เทศกาลตรุษจีนราชบุรี จังหวัดราชบุรี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ 2567 กิจกรรมไฮไลท์ จุดถ่ายรูปรับปีมังกรและโคมไฟต่าง ๆ ดูดวง 2 ศาสตร์ ไพ่ยิปซี ศาสตร์ดูลายมือ Workshop ทำอาหารมงคล และเพ้นท์พัดมงคล พร้อมการแสดงจากศิลปินชื่อดัง 3) เทศกาลตรุษจีนหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 9-13 กุมภาพันธ์ 2567 กิจกรรมไฮไลท์ การสักการะขอพรพระโพธิสัตว์กวนอิม การแสดงมังกรทองพ่นไฟประติมากรรมหุ่นโคมไฟ และการแสดงจากศิลปินชื่อดัง 4) ตรุษจีนสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 16 ปี มังกรสวรรค์ จังหวัดสุพรรณบุรี ในวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2567 กิจกรรมไฮไลท์ การแสดงชุดกวนอิมพันมือ การแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากาก การแสดงการเชิดสิงโตและมังกรทอง 5) เทศกาลไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ 21 จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 กิจกรรมไฮไลท์ ขบวนแห่สุดอลังการ การแสดงสิงโตและมังกรทอง การแสดงดนตรีจากศิลปินชาวเชียงใหม่ และการแข่งขันทำอาหารมงคล
โดย ททท. คาดการณ์ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ปี 2567
การเดินทางท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวไทยรวมประมาณ
34,390 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 30
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันที่ผ่านมา และในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวจีน
คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยประมาณ 6,213 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 366
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 177,000 คน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น