อนันดาฯ พร้อม take off รับเปิดเมือง โชว์ศักยภาพแกร่ง เดินหน้าเปิด 7 โครงการใหม่ ปรับพอร์ตแนวราบเปิด Pool Villa หรูกลางเมือง เสิร์ฟโครงการพร้อมอยู่ พร้อมส่งมอบใน 2 ปี กว่า 58,725 ลบ. มั่นใจเติบโตแกร่ง 3 ปีจากนี้ เตรียมรับรู้รายได้จาก 2 โครงการกว่า 6,000 ลบ. - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

อนันดาฯ พร้อม take off รับเปิดเมือง โชว์ศักยภาพแกร่ง เดินหน้าเปิด 7 โครงการใหม่ ปรับพอร์ตแนวราบเปิด Pool Villa หรูกลางเมือง เสิร์ฟโครงการพร้อมอยู่ พร้อมส่งมอบใน 2 ปี กว่า 58,725 ลบ. มั่นใจเติบโตแกร่ง 3 ปีจากนี้ เตรียมรับรู้รายได้จาก 2 โครงการกว่า 6,000 ลบ.


 บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุด มั่นใจตลาดอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณการฟื้นตัว เตรียมเดินเครื่องเต็มที่รับเปิดเมือง โชว์ศักยภาพความพร้อมในทุกด้าน เร่งเตรียมความพร้อมแผนธุรกิจและโครงการที่อยู่อาศัยในมือทั้งโครงการพร้อมอยู่ พร้อมส่งมอบ กว่า 58,725 ล้านบาท ปรับพอร์ตใหม่ขยายแนวราบสู่ Luxury Segment  เตรียมรับรู้รายได้จาก โครงการใหม่กว่า 6,000 ล้านบาทในปีนี้   พร้อมรับกระแสเงินสดรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จาก โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์  มั่นใจ โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างที่ผ่านมา หลังจากนี้เตรียมออกหุ้นกู้มูลค่า 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตตามแผนที่วางไว้

 


คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
 กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมประเทศเริ่มมีแนวโน้มในทิศทางดีขึ้นจากการเปิดเมืองมากขึ้น  เห็นได้จากนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมามากขึ้น การจองห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้น รถติดมากขึ้น รวมถึงการปลดล็อกระบบ "Test & Go" ส่งผลให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตคล้ายปกติมากขึ้น และที่สำคัญการกลับมาของวิถีชีวิตของคนเมือง แต่ก็ยังมีปัจจัยในเรื่องการปรับขึ้นของราคาที่ดิน ราคาน้ำมัน และการก่อสร้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับการปรับราคาในครั้งนี้ สำหรับอนันดาฯ นั้นถือว่าการเปิดเมืองเป็นโอกาสที่ดี เพราะอนันดาฯ เป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าคนเมืองทั้งตลาดคอนโดและแนวราบในเมืองได้เป็นอย่างดี โดยได้ทำการศึกษาและนำผลข้อมูลเชิงลึกของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยมาปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้  อนันดาฯ ยังมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพพร้อมอยู่ พร้อมส่งมอบในราคาต้นทุนเดิมนำเสนอให้กับลูกค้าได้เลือกสรรมากมาย และยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ยังเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี

 


คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
 กล่าวว่า อนันดาฯ ได้เตรียมแผนรองรับดีมานด์ที่จะฟื้นกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยการนำเสนอสินค้าพร้อมอยู่ซึ่งมีโครงการ Inventory ที่แข็งแกร่งมูลค่ากว่า 58,725 ล้านบาท แบ่งตามพอร์ตดังนี้ คือ โครงการที่เป็น RTM (READY TO MOVE) มูลค่า 29,324 ล้านบาท โครงการที่จะสร้างเสร็จ ในปี 2022-2023 มูลค่า 19,397 ล้านบาท และ จาก 7 โครงการ NEW PROJECTS LAUNCH ที่จะสามารถรับรู้รายได้ปี 2022-2023 มูลค่า 10,004 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตในอีก ปีข้างหน้า ในส่วนของแนวราบมีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีการปรับพอร์ตใหม่ขยายสู่เซกเมนต์ลักชัวรี่ (Luxury Segment) พร้อมเปิดโครงการ Pool Villa หรูกลางใจเมือง ซึ่งอนันดาฯ ได้นำประสบการณ์และความชำนาญในการขายคอนโดมิเนียมมาวางกลยุทธ์สำหรับ Luxury Pool Villa ครั้งนี้ ทำให้ขณะนี้มียอดพรีบุ๊คกิ้งแล้วกว่า 20%  และมั่นใจว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ในส่วนของการเติบโตคาดว่าในไตรมาส จะเริ่มทำยอดขายและรับรู้รายได้อย่างก้าวกระโดด จากการเตรียมรับรู้รายได้จาก โครงการสร้างเสร็จใหม่ล่าสุด มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท  นอกจากนี้ยังมีอีก โครงการ ที่เตรียมจะปิดการขายภายในปีนี้ มูลค่ากว่า 9,812 ล้านบาท ได้แก่ โครงการอาร์เทล เอกมัย – รามอินทรา มูลค่า 1,531 ล้านบาท  โครงการไอดีโอ สาทร-วงเวียนใหญ่ มูลค่า 2,352 ล้านบาท โครงการไอดีโอ รัชดา- สุทธิสาร มูลค่า 1,527 ล้านบาท โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 66 มูลค่า 2,155 ล้านบาท โครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส มูลค่า 1,866 ล้านบาท และโครงการยูนิโอ ทาวน์ เพชรเกษม 110 มูลค่า 383 ล้านบาท

 

ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้ง โครงการ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ ตามที่ประกาศไว้คาดว่าจะได้รับการตอบรับด้วยดีเหมือนที่ผ่านมา  

 

สำหรับโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์คาดว่าสามารถรับกระแสเงินสดที่เป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จาก 5 โครงการเซอร์วิสอพารท์เม้นท์อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้เริ่มเปิดดำเนินการโครงการซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และจะมีการเปิดโครงการอย่างต่อเนื่องอีก โครงการ คือโครงการแอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก โครงการแอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร โครงการไลฟ์ สุขุมวิท บางกอก และโครงการซัมเมอร์เซ็ต พัทยา ในเดือน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม ในปีนี้ เดือนละ โครงการตามลำดับ

 

อนันดาฯ มั่นใจว่าความเชื่อมั่นของลูกค้าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดีมานด์คอนโดมิเนียมในเมือง ยังไม่หายและกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากการใช้ชีวิตในเมืองยังคงเป็นความจำเป็น  มีความสำคัญสำหรับกลุ่มคนในวัยทำงาน กลุ่มคนที่กำลังศึกษาเล่าเรียน กลุ่มครอบครัว ตลอดจนกลุ่มระดับลักชัวรี่ในเมือง กลุ่มคนเหล่านี้ยังต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมถึงแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก  ซึ่ง “คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า” คือคำตอบที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เป็นคนเมืองได้อย่างตรงจุด และชัดเจน คุณชานนท์ กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad