EVER เดินเกมปี 66 รุกขยายแนวราบเต็มสปีด ผุดบ้านแฝด–บ้านเดี่ยว 2-3 โครงการมูลค่า 2,000 ลบ. โชว์ Backlogในมือกว่า 1,000 ลบ. หนุนผลงานโตแกร่ง - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

EVER เดินเกมปี 66 รุกขยายแนวราบเต็มสปีด ผุดบ้านแฝด–บ้านเดี่ยว 2-3 โครงการมูลค่า 2,000 ลบ. โชว์ Backlogในมือกว่า 1,000 ลบ. หนุนผลงานโตแกร่ง



 "สวิจักร์  โลจายะ"บิ๊กบอส บมจ.เอเวอร์แลนด์ (EVER) กางแผนปี 66  ลุยตลาดอสังหาฯ ขยายพอร์ตแนวราบต่อเนื่อง ชี้เป็นตลาดเรียลดีมานด์  เตรียมเปิดใหม่ 2–3 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท    บ้านเดี่ยวแบรนด์  “มายโฮม ซิลเวอร์เลค” ในโครงการซิลเวอร์เลค วินด์ จำนวน 177 ยูนิต และ แบรนด์ " เอเวอร์ ซิตี้” โครงการ “ เอวาริส-ราชพฤกษ์ตัดใหม่” จำนวน 128 ยูนิต โชว์ Backlog กว่า 1,000 ล้านบาท  หนุนผลงานโตแกร่ง

 

นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ ,โครงการแนวราบ-บ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม ซิลเวอร์เลค”  และแบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” และโครงการแนบราบ-ทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” เปิดเผยว่าในปี 2566  บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการขยายโครงการแนวราบต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตของกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ประกอบกับการตอบรับที่ดีจากการเปิดขายโครงการแนวราบ-บ้านเดี่ยวโครงการซิลเวอร์เลค วินด์  ซึ่งเป็นโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์  “มายโฮม ซิลเวอร์เลค”และเพิ่มเติมในโครงการที่เป็นทาวน์โฮม-บ้านแฝด ในโครงการ “ เอวาริส-ราชพฤกษ์ตัดใหม่” แบรนด์ "เอเวอร์ ซิตี้” ซึ่งจะเปิดโครงการและเปิดขายตามมา เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างลงตัว

 

โดยในปี 2566 บริษัทฯ เตรียมเปิดขายบ้านเดี่ยวแบรนด์ “มายโฮม ซิลเวอร์เลค” ในโครงการซิลเวอร์เลค วินด์ จำนวน 177 ยูนิต  มูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท  ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.99 – 15 ล้านบาทต่อแปลง คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2566 และโครงการแนวราบ แบรนด์ " เอเวอร์ ซิตี้” โครงการ “ เอวาริส-ราชพฤกษ์ตัดใหม่ ” จำนวน 128 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท  ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.5 ล้านบาทต่อแปลง  คาดว่าจะทยอยเปิดขายในช่วงปลายปี เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2566 

 

จากการประเมินสถานการณ์ต่างๆ ในตลาดอสังหาฯ เชื่อว่าในปีนี้ แนวราบยังเติบโตได้ดี  ความต้องการยังมีสูง  ขณะที่แนวราบของ EVER เอง ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี โครงการแนวราบที่เปิดขายที่ผ่านมา ทยอยขายและปิดการขายได้ รวมถึงทาวน์โฮม เช่นกัน  ส่วนแนวสูงย่านสนามบินน้ำแม้จะไม่คึกคักแต่ยังมีการเข้าชมโครงการและทยอยขายได้  ซึ่ง EVER ให้ความสำคัญกับการออกแบบ โดยชูจุดเด่น ความคุ้มค่า รวมถึงขนาดของโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการใช้พื้นที่ทำให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น รวมการจัดโปรโมชั่นที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวสูง และแนวราบ ” นายสวิจักร์ กล่าว

 

ประธานกรรมการ EVER กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ปีนี้ถึงปีหน้าสนับสนุน รวมทั้งเตรียมความพร้อม กำหนดกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับความเสี่ยง หรือโอกาสของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน 

ในส่วนธุรกิจโรงพยาบาลจำนวน แห่ง มีทิศทางที่ดีขึ้น จากผลกระทบของการแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ทำให้ยอดผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น  สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 300  ล้านบาท     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad