YGGเทรดวันแรกราคาเปิดพุ่ง 7% ปักธงลุย “แอนิเมชั่น เวิลด์คลาส”

“อิ๊กดราซิล กรุ๊ป” (YGG) สตาร์ทอัพดิจิตอลคอนเทนต์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย เปิดฉากเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ตัวแรกของปีหนูทอง สร้างผลตอบแทนสุดประทับใจ เทรดวันแรกราคาเปิดพุ่ง 7% จากราคาไอพีโอที่ 5 บาท/หุ้น ตอกย้ำนักลงทุนเชื่อมั่นศักยภาพการเติบโต “ธนัช จุวิวัฒน์” ชูจุดเด่นเป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock  มั่นใจปี 63 ผลงานเด่น คาดรายได้โต 15-20% พร้อมลุยเปิดสำนักงานตัวแทนในแคนาดา ปูทางผงาดสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจแอนิเมชั่นระดับเวิลด์คลาส  และดิสนีย์ เมืองไทย

หุ้นบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG หุ้นน้องใหม่ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ประเดิมเข้าเทรดเป็นตัวแรกของปี 2563 ในกลุ่ม Service ในวันที่ 7 มกราคม 2563 เปิดตลาดที่ 5.35 บาท เพิ่มขึ้น0.35 บาท หรือ7 %เทียบราคาไอพีโอที่ 5 บาท   โดยราคาปรับเพิ่มขึ้นไปสูงสุดที่ 5.95 บาท เพิ่มขึ้น 19% ในช่วงการซื้อขายครึ่งวันเช้า

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (YGG)  เปิดเผยว่า หุ้น YGG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 7 มกราคม 2563 ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างท่วมท้น เปิดสูงกว่าราคาจองอย่างน่าประทับใจ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานธุรกิจมีความแข็งแกร่ง จากจุดแข็งของความเป็นผู้นำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นงานด้านโฆษณา ภาพยนตร์ แอนิเมชัน งานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก และเกม ที่มีคุณภาพ มาตรฐานสากล และโอกาสการเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต จากการเตรียมนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขยายอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ

และลงทุนจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศแคนาดา เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการลูกค้าในกลุ่มทวีปอเมริกาเหนือ และ ทวีปเอเชีย

“ สาเหตุที่ทำให้หุ้น YGG ได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เพราะบริษัทมีจุดแข็งในฐานะสตาร์ทอัพ  “แอนิเมชั่น” รายแรกของเมืองไทย ที่มีตลาดหลักทรัพย์ฯ และธนาคารออมสิน เข้ามาถือหุ้น และพร้อมก้าวขึ้นสู่ระดับเวิลด์คลาส และ “ดิสนีย์ เมืองไทย” โดยบริษัทฯวางเป้าหมายรายได้ในปี 2563 เติบโต 15-20% เทียบกับปีที่ผ่านมา และวางเป้าหมายเป็นหุ้น  Growth Stock และ Dividend Stock มีทั้งการเติบโตสูงและจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอให้กับผู้ลงทุน” นายธนัช กล่าว

ทั้งนี้ YGG ตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็น “ดิสนีย์ เมืองไทย”  เนื่องจากมองว่าตลาดแอนิเมชั่นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต "New S-Curve" ที่ประเทศไทยกำลังให้การส่งเสริมเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ผนวกกับธุรกิจพัฒนาดิจิตอลคอนเทนต์ที่มีแพลตฟอร์ม Netfix, Disney, Amazon รองรับและมีความต้องการคอนเทนต์ที่ดีตลอดเวลา และตลาดเกมมีมูลค่าตลาดรวมค่อนข้างใหญ่ ซึ่งในอนาคตจะได้รับปัจจัยหนุนจากเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกได้ง่ายขึ้น

ขณะที่นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้น บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (YGG) กล่าวว่า ราคาหุ้น YGG ที่ปรับตัวสูงเมื่อเทียบกับราคาจอง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ซึ่งในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า มีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น มีศักยภาพในการเข้ารับงานใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ

“อิ๊กดราซิล กรุ๊ป ถือเป็นสตาร์ทอัพ แอนิเมชั่น เบอร์หนึ่งของเมืองไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการที่ประเทศไทยมุ่งสู่ 5 จี และ 6 จี ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ เติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามเทคโนโลยีที่สูงขึ้น” นายพายุพัด กล่าว

ทั้งนี้ YGG ดำเนินธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ครบวงจร เริ่มตั้งแต่งานโฆษณา ภาพยนตร์ แอนิเมชัน งานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก และเกม ที่มีคุณภาพในระดับสากล