JR เข้าเทรดใน SET 30 พ.ย.นี้ มั่นใจกระแสตอบรับคึกคัก โชว์ผลงานแจ่ม Q3/63 กำไรโตกระฉูด 129.61% หลังสิ้นไตรมาส 2 ได้งานเพิ่มกว่า 420 ล้านบาท - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

JR เข้าเทรดใน SET 30 พ.ย.นี้ มั่นใจกระแสตอบรับคึกคัก โชว์ผลงานแจ่ม Q3/63 กำไรโตกระฉูด 129.61% หลังสิ้นไตรมาส 2 ได้งานเพิ่มกว่า 420 ล้านบาท

 


บมจ. เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน)  หรือ JR ลั่นระฆังเทรดใน SET วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ บล.ฟินันเซียไซรัส ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่าย มั่นใจนักลงทุนต้อนรับอบอุ่น เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และสื่อสารครบวงจร บริหารต้นทุนได้ดี ประสิทธิภาพการทำกำไรโดดเด่น การันตีด้วยผลงานยอดเยี่ยม หลังสิ้นไตรมาส ได้งานเพิ่มกว่า 420 ล้านบาท  ส่วนไตรมาส 3/2563 กำไรโตทะลักกว่า 129.61%  ฟาก "จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ ระดมทุนใน SET ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนศักยภาพ เพื่อรองรับงานประมูลในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ผลักดันการเติบโตรายได้ และกำไรโตอย่างยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ  

 

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR  เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน  

 

พร้อมทั้งเชื่อว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ  เนื่องจากบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญทั้งงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ แบบครบวงจร ผู้บริหารมีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญมายาวนานกว่า 27 ปี ซึ่งได้รับความเชื่อถือจากคู่ค้า รวมทั้งมีความสามารถบริหารต้นทุนได้ดี ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรโดดเด่น  

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2563 มีกำไรสุทธิ 33.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.61% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 14.70 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 464.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 263% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้เท่ากับ 127.96  ล้านบาท  ส่วนงวด 9 เดือนของปี 2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 63.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.25% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 40.76 ล้านบาท  ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 929.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.87% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 637.06 ล้านบาท  และมีงานในมือที่ลงนามในสัญญาแล้ว (backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2563  อยู่ที่ 6,169.53 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในไตรมาส ปีนี้อีก 322 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ปี 2564-66 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู หนุนรายได้ของบริษัทฯ ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ในอีก 2-ปีข้างหน้า 

 

 "สำหรับการกำหนดราคาไอพีโอที่ระดับ 5.50 บาทต่อหุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสาร มีโอกาสการเติบโตต่อเนื่อง เพราะภาครัฐและเอกชนมีความจำเป็นต้องเร่งลงทุน เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีโอกาสประมูลโครงการเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อกระจายแหล่งที่มาของรายได้และกำไรให้เพิ่มขึ้น สนับสนุนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด"นายสมภพกล่าว   

 

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR กล่าวว่าเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายใน SET น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น เนื่องจากที่ผ่านมากระแสตอบรับจากการโรดโชว์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันเมื่อเปิดให้จองซื้อหุ้นก็พบว่า มีความต้องการเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรร ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่ออนาคตของบริษัทฯ และเชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโตในระยะยาว สอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมของงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร โดยเฉพาะงานโครงการเกี่ยวกับภาครัฐ ที่คาดว่าจะมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง   

 

"JR เป็นบริษัทฯ เอ็นจิเนียริ่งไฮสเกล มีศักยภาพการเติบโตโดดเด่น เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการขยายตัวได้อีกมาก รวมถึงการมีพันธมิตรรายใหญ่ที่เป็นคู่ค้ามายาวนาน  ขณะที่มีโอกาสการเติบโตมากขึ้น มีฐานทุนที่แข็งแกร่ง กระแสเงินสดที่ดี โดยเฉพาะเมื่อเข้าใน SET จะทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยผลักดันการเติบโตให้ก้าวกระโดด" นายจรัญกล่าว  

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้   ปัจจุบัน JR  มีการรุกขยายงานไปยังงานวิศวกรรมในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ  โดยหลังสิ้นงวดไตรมาส  บริษัทฯ ได้งานเพิ่มเติมกว่า 420 ล้านบาท  โดยเป็นงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยให้กับโครงการของไทยออยล์  ซึ่ง JR รับงานจากกิจการร่วมค้า Petrofac South East Asia, Saipem Singapore และ Samsung Engineering  รวมทั้งงานการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยที่อาคารหมอชิต  คอมเพล็กซ์  นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ให้กับลูกค้าภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad