ในขณะที่ญี่ปุ่นเช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า บางแห่งเห็นการเปลี่ยนแปลงในเมืองข้างหน้า

 นึกภาพเหตุการณ์: คุณไปทำงานสายเป็นครั้งที่สองในหนึ่งสัปดาห์ เป็นวันฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็น เสื้อโค้ทตัวยาวของคุณทับคุณขณะวิ่งจ็อกกิ้งเพื่อขึ้นรถไฟ คุณมองไปที่นาฬิกาของคุณและตระหนักว่าคุณจะไม่มีวันไปถึงสถานีทันเวลา

ในขณะที่คุณกำลังจะยอมรับความพ่ายแพ้และโทรหาเจ้านายของคุณ คุณเลี้ยวมุมและที่นั่น - ราวกับว่าโผล่ออกมาจากอากาศ - ยืนเป็นแถวของมินิสกูตเตอร์ไฟฟ้า การเข้าถึงแอปของบริการบนสมาร์ทโฟนของคุณ คุณจะออกตัวไปยังสถานีโดยให้เวลาห้านาทีก่อนที่รถไฟจะออก

พวกเราหลายคนเคยไปที่นั่นมาแล้ว — การเดินทางในเมืองในแต่ละวันซึ่งระยะทางระหว่างบ้านกับสถานีนั้นไกลเกินกว่าจะสะดวกสบายได้เล็กน้อย และกิจวัตรยามเช้าที่รีบเร่งไปที่สำนักงานทำให้เกิดความเครียดที่ไม่พึงปรารถนาเพิ่มขึ้นอีกมิติหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เนื่องจากผู้เดินทางในญี่ปุ่นเริ่มกลับมาที่สำนักงานอย่างช้าๆ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริการ "การเดินทางแบบใช้ร่วมกัน" ด้วยไฟฟ้าจึงปรากฏขึ้นทั่วประเทศโดยเป็นวิธีการเดินทางที่มีต้นทุนต่ำ

ในขณะที่บริการดังกล่าวเริ่มแพร่หลายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจากปารีสไปยังซานฟรานซิสโก แนวคิดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น ได้ถูกตั้งค่าให้เปลี่ยนวิธีที่ผู้อยู่อาศัยในประเทศมีปฏิสัมพันธ์กับเมืองรอบตัวพวกเขาในลักษณะที่แตกต่างออกไป

และผู้ชนะที่ชัดเจนของการเติบโตอย่างต่อเนื่องในบริการเหล่านี้? ลูอัพ

การเริ่มต้นธุรกิจในโตเกียวตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% สำหรับการเช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า โดยมีฝูงรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้าประมาณ 5,000 คันในจุดรับประมาณ 2,340 แห่งในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างโตเกียว เกียวโต และโอซาก้า

“มันเป็นวิธีที่ดีจริงๆ ในการสัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่น” Daiki Okai CEO ของ Luup กล่าวระหว่างการสัมภาษณ์ “เรามีท่าเรือข้างวัดคินคะคุจิในเกียวโต และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโตเกียว เช่น อาซากุสะและหอคอยสกายทรี รวมถึงในบริเวณใกล้เคียงกับโรงแรมในท้องถิ่น ซึ่งช่วยเพิ่มอิสระในการเคลื่อนไหวสำหรับนักท่องเที่ยว”

ในขณะที่ปัจจุบันจัดอยู่ในประเภทของรถจักรยานยนต์ และโดยหลักการแล้วต้องใช้หมวกนิรภัยและใบอนุญาตขับขี่ กฎระเบียบใหม่ของ e-scooter ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้หมายความว่าภายในเดือนเมษายน 2024 จะไม่ต้องใช้ใบอนุญาตอีกต่อไป — หมวกกันน็อคในขณะเดียวกัน ขณะนี้ได้รับคำแนะนำแล้วแต่ดุลยพินิจของผู้ใช้ ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่ที่มีอายุเกิน 16 ปี รวมถึงนักท่องเที่ยวสามารถขี่บนถนนด้วยความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบนทางเท้าด้วยความเร็วน้อยกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

“ตอนนี้กฎได้ถูกทำให้ง่ายขึ้น โดยเน้นที่ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ฉันเชื่อว่าการใช้ระบบใหม่เหล่านี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นจริงๆ” Okai กล่าว

บริษัทเช่าที่ดินสำหรับท่าเรือ ซึ่งเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ใช้เก็บสกู๊ตเตอร์และจักรยานยนต์ รวมถึงแผงที่มีคิวอาร์โค้ดสำหรับเข้าถึงแอปของบริษัท ในพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่จะดึงดูดการสัญจรทางเท้า ปิดช่องว่างระหว่างโรงแรมและโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังอยู่ระหว่างย่านที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกในท้องถิ่น หรือสำนักงาน และสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด

กุญแจสำคัญในการเติบโตของบริษัทจนถึงขณะนี้ ซึ่งรวมถึงสัญญาเช่าที่ดินสำหรับท่าเรือที่ร้านสะดวกซื้อ FamilyMart และการระดมทุนกว่า 4.6 พันล้านเยน (34.7 ล้านดอลลาร์) ผ่านการลงทุนภาครัฐและเอกชน คือแนวคิดของ "สถานี"

ในประเทศญี่ปุ่น พื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟท้องถิ่นมักจะเป็นที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของย่านนี้ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ คลินิก และซูเปอร์มาร์เก็ต ราคาของทั้งที่ดินและค่าเช่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อบ้านอยู่ใกล้สถานีมากขึ้น โดยระยะทางเดินโดยทั่วไปจะรวมอยู่ในรายการบ้านและรายการเช่า

แต่ Luup มีเป้าหมายที่จะนำความสะดวกสบายของพื้นที่รอบ ๆ สถานีเข้ามาใกล้ผู้ใช้มากขึ้น ในขณะที่ยังคงรักษาประโยชน์ของสถานที่ที่อยู่ห่างออกไป

“สำหรับฉันแล้ว มันควรจะเป็นไปได้ที่จะได้รับความสะดวกสบาย เงียบสงบ และสะดวกสบายในคราวเดียว และมันเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเราที่จะสร้างสังคมที่ผู้ที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากสถานีสามารถเข้าถึงบริการของเราได้ใกล้บ้านของพวกเขาและยังคงสัมผัสได้ว่า สะดวกสบายในระดับเดียวกัน” Okai กล่าว

Hironori Kato ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนและนโยบายการขนส่งแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ยอมรับว่าการเพิ่มจำนวนของบริการการเดินทางที่ใช้ร่วมกันเช่น Luup จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถหลีกเลี่ยงความแออัดในเขตเมืองที่แออัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเติมเต็มช่องว่างที่ยังไม่ครอบคลุมในเขตเมืองชั้นใน เครือข่ายการขนส่งสาธารณะ

รูปแบบการขนส่ง “ระยะทางแรก/ไมล์สุดท้าย” เหล่านี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนกลยุทธ์การวางผังเมืองจากรูปแบบที่อาศัยการเป็นเจ้าของรถ และเปลี่ยนไปสู่แนวทางที่เน้นการขนส่งสาธารณะแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นมีอยู่แล้วอย่างกว้างขวาง เครือข่ายบริการรถไฟและรถประจำทางมีความพร้อมในการปรับตัว

“มีแนวโน้มที่การวางผังเมืองแบบเดิมๆ จะมองข้ามความสำคัญของการเดิน การขี่จักรยาน และการเดินทางร่วมกัน” คาโตะกล่าวถึงระบบขนส่งระดับประเทศ ซึ่งตามข้อมูลจากการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคล่าสุด ยังคงมีระดับการครอบครองรถยนต์เพียง 80 กว่าคัน % แม้จะมีระบบขนส่งสาธารณะที่น่าอิจฉาของญี่ปุ่นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความกังวลทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในท้องถิ่นอย่างสะดวกสบาย Kato กล่าวเสริมว่าทัศนคติเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากขึ้นแสดงความสนใจในการขนส่งที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงตัวเลือกความเร็วต่ำและระยะทางสั้นๆ

บริการเคลื่อนย้ายที่ใช้ร่วมกัน — กับบริษัทอื่น ๆ ในญี่ปุ่น รวมถึง Mobby และ Swing — ตอบสนองความต้องการเหล่านั้นด้วยการจัดหารูปแบบการขนส่งทางเลือก ซึ่งหากมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายเพียงพอ จะเพิ่มพื้นที่ว่างสำหรับที่จอดรถ ลดความหวาดกลัวที่เกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ เช่น COVID -19 ในการขนส่งสาธารณะและจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์

ด้านดิจิทัลของการสัญจรที่ใช้ร่วมกันยังเอื้อต่อการนำไปใช้อย่างแพร่หลายโดยคนรุ่นใหม่ที่เติบโตบนสมาร์ทโฟนและแอปแบบอินเทอร์แอกทีฟ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับแพลตฟอร์มที่ต้องการกลายเป็นตัวเชื่อมที่ไร้ประโยชน์ในระบบการขนส่งของประเทศ

Shinya Nakagawa ผู้อำนวยการระดับโลกด้านการเคลื่อนไหวของบริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยง Greater Than ได้เน้นย้ำในการสนทนาทางวิดีโอว่าสิ่งจูงใจสำหรับพฤติกรรมที่ดีสามารถ "เป็นเกม" ได้อย่างไรผ่านการเพิ่มกลไกในบริการ เช่น คะแนนและลีดเดอร์บอร์ดที่แสดงภาพปฏิสัมพันธ์ของแต่ละคนกับการเคลื่อนไหวที่ใช้ร่วมกัน บริการที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายผู้ใช้ที่กว้างขึ้น

“สมมติว่าคุณถูกขอร้องให้ขับรถอย่างปลอดภัย หรือโปรดขับรถอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณทำอย่างนั้น” นาคางาวะกล่าว “ถ้าคุณขับรถอย่างปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและได้รับคะแนน คุณจะปรับตัวให้เข้ากับการขับขี่อย่างปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช่ไหม”

เชื่อมต่อกับเครือข่ายผู้ใช้ที่กว้างขึ้น เขากล่าวเสริมว่าการเคลื่อนย้ายที่ใช้ร่วมกันกลายเป็น "การเล่นชนิดหนึ่ง วิธีสนุกสนาน" ผ่านการแข่งขันกับผู้อื่นที่ดึงดูดผู้ใช้อายุน้อยโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอย่างญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ตั้งของ วัฒนธรรมการเล่นเกมที่โดดเด่นและกระตือรือร้น

แต่ก็ยังมีทางที่ต้องดำเนินการก่อนที่ประชาชนทั่วไปจะเลิกใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อขี่รถยนต์ไฟฟ้าทุกวัน โดยส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในหมู่คนรุ่นเก่าในญี่ปุ่นว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นไม่ปลอดภัย

ในเดือนกันยายน ชายคนหนึ่งในโตเกียวซึ่งเชื่อว่าดื่มเหล้าเสียชีวิตหลังจากหกล้มขณะขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้า Luup ขณะที่ตำรวจได้รายงานการสอบสวนทั้งหมด 51 ครั้งเกี่ยวกับการเมาแล้วขับบนสกูตเตอร์ไฟฟ้าในปีนี้ ณ เดือนพฤศจิกายน 29.

มีรายงานปัญหาที่คล้ายกันนี้ในเมืองต่างๆ ในต่างประเทศที่บริการเคลื่อนที่แบบใช้ร่วมกันเป็นที่แพร่หลาย โดยหน่วยงานเทศบาลในกรุงปารีสกำลังครุ่นคิดถึงการห้ามใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตด้วย

บริการเคลื่อนย้ายร่วมกันของญี่ปุ่นได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเมาแล้วขับ โดยตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อป้องกันการใช้งานโดยผู้ที่อยู่ภายใต้อิทธิพล

นอกจากนี้ Okai หัวหน้าของ Luup ยังหวังที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทของเขาต่อไป โดยเพิ่มคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น เซ็นเซอร์ที่เชื่อมโยงกับยานพาหนะเพื่อตรวจสอบระดับการบริโภคแอลกอฮอล์ของผู้ใช้ ในขณะเดียวกันก็มุ่งปรับโครงสร้างของจักรยานยนต์และสกู๊ตเตอร์ของเขาให้ปลอดภัยและมั่นคงยิ่งขึ้น สำหรับผู้ใช้รุ่นเก่า

“เราต้องการขยายธุรกิจของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีก” เขากล่าว “ยิ่งบริษัทมีขนาดใหญ่เท่าใด เราก็สามารถใช้ยานพาหนะได้มากขึ้นเท่านั้น และคุณภาพของยานพาหนะแต่ละคันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น”