7UP ประเดิมปี 63 กำไรไตรมาสแรกแจ่มโตแรง 253% หนุนฐานะการเงินแกร่งพร้อมมองหาโอกาสลงทุนสาธารณูปโภค ร่วมชิงเค้กโรงไฟฟ้าชุมชนอีก 30 MW จากที่มีในมือ 13 MW - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

7UP ประเดิมปี 63 กำไรไตรมาสแรกแจ่มโตแรง 253% หนุนฐานะการเงินแกร่งพร้อมมองหาโอกาสลงทุนสาธารณูปโภค ร่วมชิงเค้กโรงไฟฟ้าชุมชนอีก 30 MW จากที่มีในมือ 13 MW

7UP ประเดิมปี 2563 ผลงานแจ่มอวดกำไรสุทธิไตรมาสแรกโตแรง 253% หนุนฐานะการเงินแกร่ง พร้อมมองหาโอกาสเข้าลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภคเพิ่มเติม ประเดิมร่วมชิงเค้กโรงไฟฟ้าชุมชน 700 MW คาดคว้าได้ 30 MW หนุนกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 13 MW ดันรายได้จากการขายไฟฟ้าพุ่ง   
            นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ7UP เปิดเผยว่า บริษัทฯ รักษาความสามารถในการทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2563 มีรายได้รวม 365 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 86% และมีกำไรสุทธิ 33.86 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 253% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 22.06 ล้านบาท
            รายได้หลักของบริษัทฯยังคงมาจากธุรกิจให้บริการสถานีบริการน้ำมันและก๊าซแอลพีจี ขณะที่รายได้จากการเข้าลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ยังอยู่ในช่วงทยอยรับรู้การลงทุน และบริษัทฯยังคงมองหาโอกาสการเข้าลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตามกลยุทธ์หลักทางธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน จำนวน 30 เมกะวัตต์ จากจำนวนที่รัฐเปิดรับซื้อทั้งหมด 700 เมกะวัตต์ และมีความเป็นไปได้สูงจะได้รับอนุมัติตามจำนวนที่เสนอ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทฯมีความชำนาญและให้บริการอยู่แล้ว
ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 13 เมกะวัตต์ คือโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส จ่ายไฟเชิงพาณิชย์(COD) แล้ว กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างรวม 6 เมกะวัตต์ คือ โรงไฟฟ้าประชารัฐบันนังสตา จ.ยะลา โรงไฟฟ้าประชารัฐแม่ลาน จ.ปัตตานี ขณะที่โรงไฟฟ้าระบบไฮบริด กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ อยู่ในกระบวนการเข้าลงทุน คาดว่าจะ CODได้ครบทั้งหมดภายในปี 2564 ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
 “ฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ สิ้นงวดไตรมาส 1 ของปี 2563 มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 1,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41 ล้านบาทจากสิ้นปี 2562 ทำให้มีความพร้อมและมีศักยภาพมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค และเป็นกลุ่มธุรกิจที่บริษัทฯให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอตามอายุสัญญา ขณะที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทฯเติบโตอย่างยั่งยืน” นายสิทธิชัยกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad