กรุงเทพฯ- 9 พฤศจิกายน 2563 : กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ชี้วิกฤติโควิดทำพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคเปลี่ยน เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรแตะ 196,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 58,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 133,000 ล้านบาท หมวดช้อปปิ้งออนไลน์ สินค้าตกแต่งบ้าน บริการสั่งอาหาร สตรีมมิ่งและบันเทิงออนไลน์เติบโตสูง, หมวดโรงแรมในประเทศ ร้านอาหาร ห้าง แฟชั่น ความงามและเครื่องสำอาง เริ่มกระเตื้องขึ้น, ส่วนหมวดประกันภัยและหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยมียอดใช้จ่ายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เผยพร้อมปรับตัวรับสภาพการดำเนินธุรกิจที่ผันผวน เน้นการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ชูดิจิทัล นวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า คาด ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไตรมาสสุดท้ายเติบโตกว่า 20% เทียบกับในไตรมาสที่ 3
ณญาณี
เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า กล่าวว่า “ข้อมูลจากสายงานยุทธศาสตร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึกของกรุงศรี
คอนซูมเมอร์ ซึ่งวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อในเครือของบริษัทตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกันยายน 2563 ชี้ให้เห็นว่า แม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังไม่กลับมาในระดับเทียบเท่ากับปีที่แล้ว
แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น นอกจากจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
ยังส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ทุกวัยเริ่มคุ้นชินกับความสะดวกสบายที่ได้จากบริการออนไลน์ แม้คลายล็อคดาวน์แล้ว
บริการเหล่านี้ก็ยังเป็นที่นิยม เช่น หมวดช้อปออนไลน์,
สินค้าตกแต่งบ้าน, บริการสั่งอาหาร, สตรีมมิ่งและบันเทิงออนไลน์
ขณะที่บางหมวด หลังคลายล็อคดาวน์ ก็เริ่มมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น หมวดโรงแรมในประเทศ, หมวดร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, แฟชั่น, ความงามและเครื่องสำอาง ทั้งนี้ หมวดที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
โดยยังมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือ หมวดประกันภัย
และซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ยังคงเป็นหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 1
และ 2 ตามลำดับ”
เผยพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเครดิต
จากข้อมูลของสายงานยุทธศาสตร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก กรุงศรี
คอนซูมเมอร์
แพลทฟอร์มออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- ผู้บริโภคทุกวัยคุ้นชินกับการใช้จ่ายและใช้บริการออนไลน์
· ยอดใช้จ่ายในหมวดช้อปปิ้งออนไลน์ ยังคงเติบโตต่อเนื่องแต่เริ่มมีแนวโน้มช้าลง โดยตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม
ยอดใช้จ่ายออนไลน์เติบโตกว่าปีที่แล้วกว่า 150% แต่หลังเดือนพฤษภาคม เติบโตเพียง 75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยลูกค้าทุกวัยยังคงมีแนวโน้มใช้จ่ายในหมวดช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้น
·
หมวดสินค้าตกแต่งบ้าน ช่วงล็อคดาวน์
ลูกค้าซื้อสินค้าหมวดสินค้าตกแต่งบ้านผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าตัว
และหลังคลายล็อค ยอดขายหน้าร้านก็เพิ่มสูงขึ้นมาก แสดงถึงความสนใจในการตกแต่งบ้านที่เพิ่มขึ้น
·
ยอดใช้จ่ายในหมวดบริการสั่งอาหาร
(Food Delivery) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เติบโตขึ้นกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3 เท่าตัว
·
หมวดบริการสตรีมมิ่งและความบันเทิงออนไลน์
เติบโตสูง แม้หลังช่วงคลายล็อคดาวน์
โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ขณะที่หมวดความบันเทิง เช่น โรงหนัง ยังคงซบเซา
แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งและความบันเทิงออนไลน์มากขึ้น
หมวดโรงแรมในประเทศ,
ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, แฟชั่น,
ความงามและเครื่องสำอาง มีสัญญาณที่ดีขึ้นหลังคลายล็อคดาวน์
·
การท่องเที่ยวในประเทศ ยอดจองโรงแรมในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน มีแนวโน้มสูงขึ้น
คาดว่า เป็นผลจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รวมถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐ
อย่างไรก็ดี ยอดจองตั๋วเครื่องบินและยอดใช้จ่ายในหมวดตัวแทนท่องเที่ยว
โดยรวมส่วนใหญ่ยังซบเซา
ยกเว้นตัวแทนท่องเที่ยวที่เป็นพันธมิตรหลักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐ
และยอดจองตรงกับโรงแรม ซึ่งมียอดสูงขึ้น นอกจากนี้
ยอดใช้จ่ายในหมวดบริการเช่ารถยังเติบโตขึ้น แสดงถึงความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวแบบส่วนตัวมากขึ้น
· คนเริ่มกลับมารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น
แม้ว่ายอดใช้จ่ายในหมวดร้านอาหารจะยังไม่กลับมาในระดับที่เทียบเท่ากับปีที่แล้ว แต่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ยอด ใช้จ่ายในแต่ละครั้ง สูงขึ้นกว่าช่วงล็อคดาวน์ถึง
64% นอกจากนี้ ยอดใช้จ่ายในหมวดนี้ในช่วงหลัง
2 ทุ่มก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่า
คนเริ่มกลับมารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น
· หลังคลายล็อคดาวน์ คนเริ่มกลับเข้าห้าง ในเดือนสิงหาคม 2563 ยอดใช้จ่ายในหมวดห้างสรรพสินค้าสูงกว่ายอดในเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา 3% ก่อนจะลดลงในช่วงเดือนกันยายน
· ยอดใช้จ่ายสินค้าแฟชั่น เริ่มกลับมากระเตื้องขึ้น ที่น่าสนใจคือ
ยอดใช้จ่ายในการซื้อสินค้าแบรนด์หรูเติบโตสูงกว่าแบรนด์ระดับกลาง
แสดงว่าผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังคงมีกำลังซื้อ
และใช้จ่ายต่อเนื่อง
· หมวดความงามและเครื่องสำอาง กลับมากระเตื้องขึ้นหลังคลายล็อคดาวน์ โดยยอดใช้จ่ายในหมวดสินค้าประเภทสกินแคร์
เติบโตสูงกว่าสินค้าประเภทเครื่องสำอาง
หมวดประกันภัย
และหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ตยังคงเป็นหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่สูงที่สุด
·
หมวดประกันภัย และหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นหมวดใช้จ่ายพื้นฐาน เป็นหมวดที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยยังคงมียอดใช้จ่ายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
และยังคงเป็นหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่ง
และสอง ตามลำดับ
“ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
รวมถึงบรรยากาศการจับจ่ายที่เริ่มฟื้นตัว สอดคล้องกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของกรุงศรี
คอนซูมเมอร์ ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นเทียบกับช่วงล็อคดาวน์ โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 196,000
ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 58,000
ล้านบาท
ยอดสินเชื่อคงค้าง 133,000
ล้านบาท อย่างไรก็ดี สภาวะการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันค่อนข้างผันผวน บริษัทจึงเตรียมปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจ
ด้วยการเน้นการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
โดยนำเอาดิจิทัล และนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
และยกระดับคุณภาพการบริการ เช่น บริการส่งใบเรียกเก็บเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
(e-billing), การใช้ระบบดิจิทัล เวิร์คโฟลว์ และการนำหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการทำงานที่มีการทำซ้ำ (Robotic Process Automation-RPA) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ, รวมถึง บริการใหม่ๆ
ในแอปพลิเคชั่นยูชูส (UCHOOSE) เช่น U Manage
บริการที่เปิดให้สมาชิกบัตรสามารถดำเนินการผ่านแอปด้วยตนเอง เช่น ตรวจสอบยอดชำระของบัตรเครดิตและสินเชื่อ, ขอ e-statement, บริการจ่ายบิลผ่านแอป
KMA และ SCB, U Product บริการแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกันภัย,
UMall บริการนำเสนอดีลพิเศษสำหรับสินค้าหรือบริการจากพันธมิตรของบริษัท,
และ UCard บริการรับสมัครบัตรใหม่ผ่านทางแอปแบบ
Digital Lending ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4
นี้ โดยบริษัทคาดว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาสที่ 4 จะเติบโตกว่า 20% เทียบกับในไตรมาสที่ 3 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2563 จะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 280,000
ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 83,000 ล้านบาท
และยอดสินเชื่อคงค้าง 144,000 ล้านบาท” นางสาวณญาณีกล่าวสรุป
กรุงเทพฯ- 9 พฤศจิกายน
2563 : กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
ชี้วิกฤติโควิดทำพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคเปลี่ยน
เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรแตะ 196,000
ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 58,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง
133,000
ล้านบาท หมวดช้อปปิ้งออนไลน์ สินค้าตกแต่งบ้าน บริการสั่งอาหาร สตรีมมิ่งและบันเทิงออนไลน์เติบโตสูง, หมวดโรงแรมในประเทศ ร้านอาหาร ห้าง แฟชั่น ความงามและเครื่องสำอาง เริ่มกระเตื้องขึ้น, ส่วนหมวดประกันภัยและหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
โดยมียอดใช้จ่ายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เผยพร้อมปรับตัวรับสภาพการดำเนินธุรกิจที่ผันผวน
เน้นการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ชูดิจิทัล นวัตกรรม
เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า คาด ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไตรมาสสุดท้ายเติบโตกว่า
20% เทียบกับในไตรมาสที่ 3
ณญาณี
เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า กล่าวว่า “ข้อมูลจากสายงานยุทธศาสตร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึกของกรุงศรี
คอนซูมเมอร์ ซึ่งวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อในเครือของบริษัทตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกันยายน 2563 ชี้ให้เห็นว่า แม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังไม่กลับมาในระดับเทียบเท่ากับปีที่แล้ว
แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น นอกจากจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
ยังส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ทุกวัยเริ่มคุ้นชินกับความสะดวกสบายที่ได้จากบริการออนไลน์ แม้คลายล็อคดาวน์แล้ว
บริการเหล่านี้ก็ยังเป็นที่นิยม เช่น หมวดช้อปออนไลน์,
สินค้าตกแต่งบ้าน, บริการสั่งอาหาร, สตรีมมิ่งและบันเทิงออนไลน์
ขณะที่บางหมวด หลังคลายล็อคดาวน์ ก็เริ่มมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น หมวดโรงแรมในประเทศ, หมวดร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, แฟชั่น, ความงามและเครื่องสำอาง ทั้งนี้ หมวดที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
โดยยังมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือ หมวดประกันภัย
และซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ยังคงเป็นหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 1
และ 2 ตามลำดับ”
เผยพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเครดิต
จากข้อมูลของสายงานยุทธศาสตร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก กรุงศรี
คอนซูมเมอร์
แพลทฟอร์มออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- ผู้บริโภคทุกวัยคุ้นชินกับการใช้จ่ายและใช้บริการออนไลน์
· ยอดใช้จ่ายในหมวดช้อปปิ้งออนไลน์ ยังคงเติบโตต่อเนื่องแต่เริ่มมีแนวโน้มช้าลง โดยตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม
ยอดใช้จ่ายออนไลน์เติบโตกว่าปีที่แล้วกว่า 150% แต่หลังเดือนพฤษภาคม เติบโตเพียง 75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยลูกค้าทุกวัยยังคงมีแนวโน้มใช้จ่ายในหมวดช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้น
·
หมวดสินค้าตกแต่งบ้าน ช่วงล็อคดาวน์
ลูกค้าซื้อสินค้าหมวดสินค้าตกแต่งบ้านผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าตัว
และหลังคลายล็อค ยอดขายหน้าร้านก็เพิ่มสูงขึ้นมาก แสดงถึงความสนใจในการตกแต่งบ้านที่เพิ่มขึ้น
·
ยอดใช้จ่ายในหมวดบริการสั่งอาหาร
(Food Delivery) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เติบโตขึ้นกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3 เท่าตัว
·
หมวดบริการสตรีมมิ่งและความบันเทิงออนไลน์
เติบโตสูง แม้หลังช่วงคลายล็อคดาวน์
โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ขณะที่หมวดความบันเทิง เช่น โรงหนัง ยังคงซบเซา
แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งและความบันเทิงออนไลน์มากขึ้น
หมวดโรงแรมในประเทศ,
ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, แฟชั่น,
ความงามและเครื่องสำอาง มีสัญญาณที่ดีขึ้นหลังคลายล็อคดาวน์
·
การท่องเที่ยวในประเทศ ยอดจองโรงแรมในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน มีแนวโน้มสูงขึ้น
คาดว่า เป็นผลจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รวมถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐ
อย่างไรก็ดี ยอดจองตั๋วเครื่องบินและยอดใช้จ่ายในหมวดตัวแทนท่องเที่ยว
โดยรวมส่วนใหญ่ยังซบเซา
ยกเว้นตัวแทนท่องเที่ยวที่เป็นพันธมิตรหลักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐ
และยอดจองตรงกับโรงแรม ซึ่งมียอดสูงขึ้น นอกจากนี้
ยอดใช้จ่ายในหมวดบริการเช่ารถยังเติบโตขึ้น แสดงถึงความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวแบบส่วนตัวมากขึ้น
· คนเริ่มกลับมารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น
แม้ว่ายอดใช้จ่ายในหมวดร้านอาหารจะยังไม่กลับมาในระดับที่เทียบเท่ากับปีที่แล้ว แต่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ยอด ใช้จ่ายในแต่ละครั้ง สูงขึ้นกว่าช่วงล็อคดาวน์ถึง
64% นอกจากนี้ ยอดใช้จ่ายในหมวดนี้ในช่วงหลัง
2 ทุ่มก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่า
คนเริ่มกลับมารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น
· หลังคลายล็อคดาวน์ คนเริ่มกลับเข้าห้าง ในเดือนสิงหาคม 2563 ยอดใช้จ่ายในหมวดห้างสรรพสินค้าสูงกว่ายอดในเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา 3% ก่อนจะลดลงในช่วงเดือนกันยายน
· ยอดใช้จ่ายสินค้าแฟชั่น เริ่มกลับมากระเตื้องขึ้น ที่น่าสนใจคือ
ยอดใช้จ่ายในการซื้อสินค้าแบรนด์หรูเติบโตสูงกว่าแบรนด์ระดับกลาง
แสดงว่าผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังคงมีกำลังซื้อ
และใช้จ่ายต่อเนื่อง
· หมวดความงามและเครื่องสำอาง กลับมากระเตื้องขึ้นหลังคลายล็อคดาวน์ โดยยอดใช้จ่ายในหมวดสินค้าประเภทสกินแคร์
เติบโตสูงกว่าสินค้าประเภทเครื่องสำอาง
หมวดประกันภัย
และหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ตยังคงเป็นหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่สูงที่สุด
·
หมวดประกันภัย และหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นหมวดใช้จ่ายพื้นฐาน เป็นหมวดที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยยังคงมียอดใช้จ่ายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
และยังคงเป็นหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่ง
และสอง ตามลำดับ
“ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
รวมถึงบรรยากาศการจับจ่ายที่เริ่มฟื้นตัว สอดคล้องกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของกรุงศรี
คอนซูมเมอร์ ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นเทียบกับช่วงล็อคดาวน์ โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 196,000
ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 58,000
ล้านบาท
ยอดสินเชื่อคงค้าง 133,000
ล้านบาท อย่างไรก็ดี สภาวะการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันค่อนข้างผันผวน บริษัทจึงเตรียมปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจ
ด้วยการเน้นการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
โดยนำเอาดิจิทัล และนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
และยกระดับคุณภาพการบริการ เช่น บริการส่งใบเรียกเก็บเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
(e-billing), การใช้ระบบดิจิทัล เวิร์คโฟลว์ และการนำหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการทำงานที่มีการทำซ้ำ (Robotic Process Automation-RPA) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ, รวมถึง บริการใหม่ๆ
ในแอปพลิเคชั่นยูชูส (UCHOOSE) เช่น U Manage
บริการที่เปิดให้สมาชิกบัตรสามารถดำเนินการผ่านแอปด้วยตนเอง เช่น ตรวจสอบยอดชำระของบัตรเครดิตและสินเชื่อ, ขอ e-statement, บริการจ่ายบิลผ่านแอป
KMA และ SCB, U Product บริการแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกันภัย,
UMall บริการนำเสนอดีลพิเศษสำหรับสินค้าหรือบริการจากพันธมิตรของบริษัท,
และ UCard บริการรับสมัครบัตรใหม่ผ่านทางแอปแบบ
Digital Lending ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4
นี้ โดยบริษัทคาดว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาสที่ 4 จะเติบโตกว่า 20% เทียบกับในไตรมาสที่ 3 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2563 จะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 280,000
ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 83,000 ล้านบาท
และยอดสินเชื่อคงค้าง 144,000 ล้านบาท” นางสาวณญาณีกล่าวสรุป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น