SISB โชว์ผลงานปี 64 ฟื้นตัว หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดปี 64 ในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 10 มีนาคม 2565 นี้ ฟากผู้บริหาร “ยิว ฮอค โคว” มั่นใจปี 65 เข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนโรงเรียนเพิ่มเติมตามแผน 5 ปี วางเป้ายอดนักเรียนแตะ 4 พันคน หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง เผยปัจจุบันกลับมาเปิดสอน on site เต็มรูปแบบ
นายยิว
ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) (SISB) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,071.24
ล้านบาทฯ เริ่มฟื้นตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้ง กลุ่มบริษัทฯ ยังมีการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ยังคงสามารถรักษาระดับผลการดำเนินงานไว้ได้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แม้ส่วนหนึ่งจะได้รับผลกระทบจากการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการศึกษา
และนักเรียนในระดับอนุบาลที่ขอหยุดพักการเรียนในช่วงคำสั่งให้ปิดโรงเรียน
ซึ่งโรงเรียนจำเป็นต้องจัดการเรียนการสอนทั้งหมดผ่านระบบออนไลน์
พร้อมกันนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา อนุมัติเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลงวดปี
2564 ในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 มีนาคม 2565 กำหนดจ่ายวันที่
22 เมษายน 2565
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี
2565 มั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตราว 15-20%
ถือเป็นการกลับเข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ของกลุ่มบริษัทฯ
ปัจจุบันโรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนแบบปกติ (On-site) โดยเฉพาะนักเรียนในระดับอนุบาลที่กลับมาเรียนเกือบครบแล้ว
และมีนักเรียนเข้าเรียนในรูปแบบปกติ ประมาณ 70%
ส่วนที่เหลือเรียนในรูปแบบออนไลน์ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯได้ติดต่อประสานงานฉีดวัคซีน
เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี
และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองและเด็กนักเรียน
ทั้งนี้
กลุ่มบริษัทฯได้วางแผนการลงทุนในช่วง 5 ปี
(ปี 2565-2569) เพื่อรองรับแผนการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว
ผ่านการขยายโรงเรียนสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการ Project H ซึ่งจะเป็นรูปแบบของโรงเรียนนานาชาติในย่านชานเมือง
และในหัวเมืองต่างจังหวัด ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการศึกษาในราคาที่เข้าถึงได้
วางเป้าหมายจำนวนนักเรียนภายในกลุ่ม 4,150 คน
โดยในปี
2566 เตรียมเปิดโรงเรียนนานาชาติแห่งที่ 5 โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ นนทบุรี
ตามแผน และเตรียมเปิดโรงเรียนนานาชาติภายใต้ Project
H เป็นลำดับถัดไป โดยล่าสุดช่วงปลายปี 2564
กลุ่มบริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อที่ดินกับ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) ขนาดพื้นที่ประมาณ 24.5 ไร่ใน จ.ระยอง
เพื่อพัฒนาโรงเรียนนานาชาติแห่งที่ 6
อยู่ภายใต้การพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติใน Project
H โดยจะมีหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษา
นอกจากนี้
กลุ่มบริษัทฯ ยังมีแผนและกลยุทธ์เพิ่มจำนวนนักเรียนในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ ปัจจุบันมีผู้ปกครองชาวต่างชาติติดต่อสอบถามแนวทางในการส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในโรงเรียนในเครือ
จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาด นอกจากนี้
บริษัทยังคงนโยบายในการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันได้ในทุกสถานการณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น