บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด
(มหาชน) หรือ ทีโอเอ ผู้นำนวัตกรรมสีที่ครองแชมป์แบรนด์สียอดนิยม อันดับ1 มาอย่างยาวนาน
โชว์ศักยภาพประกาศความสำเร็จ ยอดขาย Q4/64 เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ย้ำความมั่นใจพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง
เติบโตได้อย่างมั่นคง
นายจตุภัทร์
ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่ายอดขาย
Q4/64 เป็นเงิน 4,672 ล้านบาท โดยเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า
12% เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโรคโควิด-19 และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ในขณะที่ภาพรวมยอดขายปี 2564 เป็นเงิน 17,570 ล้านบาท
เติบโตขึ้น 8% แม้ว่าบริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงของโรคโควิด-19 ด้วยพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง
มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว
ผนวกกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ
เสริมด้วยกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างครอบคลุม
สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ TOA ยังมีรายได้จากการขายเคมีภัณฑ์ก่อสร้างและยิปซั่มบอร์ด
เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดขาย
ในขณะที่ราคาวัตถุดิบ ต้นทุนพลังงาน และต้นทุนโลจิสติกส์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ยังเป็นปัจจัยกดดันอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท ส่งผลให้กำไรสุทธิ Q4/64 เป็นเงิน 473 ล้านบาท ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
และกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 เป็นเงิน 1,955
ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 4% โดยบริษัทฯ ได้ปรับราคาสินค้าขึ้น 2 รอบเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยรอบแรกแล้วเสร็จในปลายไตรมาส
3 ปี 2564 และได้ทยอยปรับราคาสินค้า รอบที่สอง
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ถึงเดือนมกราคม 2565 คาดว่าจะช่วยการฟื้นตัวของกำไรขั้นต้นใน Q1/65
เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามต้นทุนการผลิตยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งบริษัทฯ จะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนดำเนินการได้ทันต่อสถานการณ์
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติเห็นชอบเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 เมษายน 2565 ในการพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี
2564 ในอัตราหุ้นละ 0.19 บาท
และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ได้จ่ายไปแล้วในอัตราหุ้นละ
0.31 บาท จะรวมเป็นเงินปันผลของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล
51% จากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ
ในปี 2565 บริษัทฯ
ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น 10% โดยมุ่งขยายธุรกิจเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง
และวัสดุก่อสร้าง ควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำตลาดสีทาอาคาร เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร
ผ่านเครือข่ายร้านค้าพันธมิตรที่แข็งแกร่งของ TOA ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
รวมถึงเร่งการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ นอกจากนี้ TOA ยังมุ่งสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ
โดยให้ความสำคัญต่อกระบวนการผลิตและการพัฒนาสินค้าและบริการด้วยนวัตกรรมสีที่มีความปลอดภัยต่อทุกชีวิต
และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (TOA Greenovation) เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
อันเป็นภารกิจสำคัญที่ TOA ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
นายจตุภัทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยกลยุทธ์การตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
ด้วยสินค้าและบริการอย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Total Solution” และการมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนดังกล่าว
จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ TOA อย่างมั่นคง
สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น