นักวิชาการโภชนาการ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิ
ดร.วนะพร ทองโฉม นักวิชาการโภชนาการ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิ บดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ไข่” ถือเป็นอาหารคู่ครัวของแทบทุกบ้ าน เป็นอาหารที่มีคุณค่ าทางโภชนาการอเนกอนันต์ และเป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุ ณภาพสูงกว่าแหล่งโปรตีนจากพืช หรือแม้แต่โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ด้วยกัน อีกทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงได้ ง่ายต่อการปรุงและทำได้หลายเมนู
ไข่แต่ละฟองอุดมด้วยคุณค่ าสารอาหาร มีสารอาหารมากมาย อาทิ มีกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับร่ างกาย เป็นแหล่งของโปรตีนชั้นดี ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและการเจริ ญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยสร้างฮอร์โมน เอนไซม์ และภูมิคุ้มกันโรค ไขมันส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่ มตัว เป็นแหล่งของโคลีนที่ดีโดยโคลี นเป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติคล้ ายวิตามินที่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยในการควบคุ มการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด ธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันโรคโลหิ ตจาง มีสารลูทีนและซีแซนทีนช่วยบำรุ งและดูแลสายตา ทำให้ชะลอความเสื่ อมของจอประสาทตา เป็นต้น จึงไม่แปลกที่จะเป็นอาหารยอดนิ ยมของทุกคนทุกวัย
การรับประทานไข่ให้ได้ประโยชน์ สูงสุด แนวทางหนึ่งคือ การรับประทานให้เหมาะสมกับแต่ ละช่วงวัย เริ่มจาก วัยทารก 6 เดือนสามารถรับประทานไข่แดงต้ มสุกได้ครึ่งฟอง ทารก 7-12 เดือน เพิ่มปริมาณเป็นวันละครึ่งฟองถึ ง 1 ฟองได้ ส่วนวัยเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปถึงวัยผู้สูงอายุที่มี สุขภาพดีสามารถบริโภคไข่ทั้ งฟองได้วันละ 1 ฟอง
ขณะเดียวกัน ยังมีคนที่กังวลคอเลสเตอรอลสู งจากการบริโภคไข่ ในข้อเท็จจริงต้องพิจารณาจากปั จจัยอื่นร่วมด้วย เช่น การปรุงอาหารด้วยการทอดซึ่งใช้ น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตั วในการทอดก็มีผลต่อระดั บคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้ แนะนำเปลี่ยนเป็นการรั บประทานไข่ต้มสุกแทน ควบคู่กับการรับประทานผัก 400 กรัมต่อวัน รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มี ไขมันอิ่มตัวสูง และออกกำลังกายสม่ำเสมอ สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะความดั นโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูงสามารถรั บประทานไข่ได้ เพียงแต่ควบคุมปริมาณการรั บประทานไข่แดงไม่เกิน 3 ฟองต่อสัปดาห์ควบคู่กับการจำกั ดอาหารที่มีไขมันสูง
ทั้งนี้ ผู้บริโภคบางกลุ่มที่นิยมรั บประทานไข่ดิบ ไข่ลวก ควรระมัดระวังเรื่องความสะอาด เพราะไข่อาจมีการปนเปื้อนเชื้ อจุลินทรีย์ก่อโรค เช่น แซลโมเนลล่า (Salmonella spp.) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิ ดโรคอาหารเป็นพิษ ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หากได้รับเชื้อรุนแรงอาจก่อให้ เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ดังนั้น ผู้บริโภคควรปรุงไข่ให้สุกทุ กครั้งก่อนรับประทาน นอกจากจะได้รับสารอาหารที่ดี ครบถ้วนแล้วยังปลอดภัยอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น