วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดงานวันป่าชายเลนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมกันนี้ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายนิเวศน์ หาญสมุทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นางภรณี กองอมรภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย และนางสาวบุษบรรณ จีนเจริญ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) ตลอดจนคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และชุมชนชายฝั่ง เข้าร่วมกิจกรรม ณ สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 บ้านเสม็ดงาม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ในโอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ได้มอบโล่เกียรติคุณแก่เครือข่ายชุมชนดีเด่นด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลน 10 ชุมชน พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและกิจกรรมปลูกป่าชายเลนนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงวันป่าชายเลนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 ว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ 2 นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 เห็นชอบกำหนดให้วันที่ 10 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น “วันป่าชายเลนแห่งชาติ” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับป่าชายเลนเป็นครั้งแรกในวันนี้ เมื่อปี 2534 หรือ 31 ปีล่วงมาแล้ว นับตั้งแต่นั้นมาประเทศไทยได้พยายามเดินหน้าอนุรักษ์ ฟื้นฟู และให้ความสำคัญกับผืนป่าชายเลนมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน และผลการสำรวจเมื่อปี 2563 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนไร่ เมื่อเทียบกับปี 2557 แต่ความสำเร็จคงไม่หยุดแค่นั้น รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนสมบูรณ์เป็น 3 แสนไร่ ภายใน 5 – 10 ปี ซึ่งตนคาดว่าไม่ยากเกินไป เนื่องจาก กระแสสังคมต่างให้ความสำคัญกับผืนป่าชายเลน พี่น้องประชาชนแสดงเจตนารมณ์ที่จะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟู และดูแลทรัพยากรป่าชายเลนอย่างจริงจังในทุกจังหวัดชายฝั่งทะเล “วันป่าชายเลนแห่งชาติ” เป็นวันที่ทุกคนต่างร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของการมีส่วนร่วมในการรักษาป่าชายเลนในปีที่ผ่านมา และร่วมกันแสดงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปฏิบัติการในปี ต่อไป ตนขอชื่นชมในความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง จนผืนป่าชายเลนประเทศไทยมีความสมบูรณ์และยั่งยืนอย่างทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาลและเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเป็น 3 แสนไร่ ตนได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้หาแนวทางสร้างความท้าทายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้ได้เร็วและมากกว่าเป้าหมายที่กำหนดอีกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติ กล่าวภายหลังการเปิดงานและมอบโล่เกียรติคุณ ว่าในเชิงวิชาการแล้วป่าชายเลนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศสูงมาก อีกทั้ง ยังสร้างประโยชน์ให้กับมวลมนุษยชาติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ตั้งแต่ในระดับนโยบายหลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่างให้ความสำคัญและยกเป็นนโยบายสำคัญ รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ถ่ายนโยบายลงสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญสามารถดึงพี่น้องประชาชนและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างเข้มแข็งและจริงจัง และวันนี้ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับเครือข่ายชุมชนดีเด่นด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลนกว่า 10 ชุมชน ได้เห็นถึงหัวใจที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์ป่าชายเลน ตนรู้สึกภูมิใจและดีใจที่ทุกคนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ป่าชายเลน และตนเชื่อมั่นว่าเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทยคงไม่ยากอย่างแน่นอน และเราคงจะได้ฉลองพื้นที่ป่าที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ทุกปี ใน “วันป่าชายเลนแห่งชาติ” 10 พฤษภาคม ของทุกปี

ด้าน
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมวันป่
าชายเลนแห่งชาติในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกี
ยรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุ
ณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์
ไทยกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่
าชายเลน รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้
ทุกภาคส่วนได้ทราบถึงความสำคั
ญและคุณค่าของทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูทรั
พยากรป่าชายเลน รวมถึงตอกย้ำความสำเร็
จจากความร่วมมือของพี่น้
องประชาชนทุกคน อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตั้งเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่
าชายเลน 153
,400 ไร่ ภายในปี 10 ปี และตั้งเป้าหมายในการดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต บนเนื้อที่ อีกกว่า 3 แสนไร่ โดยในปี 2565 ได้เตรียมพื้นที่เพื่อดำเนินการโครงการ ทั้งสิ้น 34,284.13 ไร่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายที่กรมฯ ได้ตั้งไว้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนในการมีส่วนร่วมและดำเนินงานเฉกเช่นที่ผ่านมา กรม ทช. จะมุ่งมั่นและตั้งใจอนุรักษ์ผืนป่าชายเลนร่วมกับพี่น้องประชาชนเช่นนี้ตลอดไป
นางภรณี กองอมรภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญ DOW จึงมุ่งมั่นส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าชายเลนอย่างครบวงจรและมีส่วนร่วม เพราะป่าชายเลนเป็นป่าที่สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ดีที่สุดซึ่งจะช่วยลดปัญหาโลกร้อน และยังเป็นปราการที่สามารถดักกรองขยะไม่ให้ลงสู่ทะเล โดยได้ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการปลูกป่าชายเลนที่ DOW ดำเนินการต่อเนื่องมากกว่า 13 ปี ในประเทศไทยโดยร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และพันธมิตรด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน ริเริ่มและดำเนินโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ซึ่งไม่ใช่การปลูกป่าเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ทั้งด้านความหลากหลายทางชีวภาพ การท่องเที่ยว การจัดการขยะ และผลักดันให้เกิดคาร์บอนเครดิตจากการดูแลป่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้นยังสนับสนุนให้ชุมชน เยาวชน และประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วม ความร่วมมือนี้ไม่เพียงมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นโครงการที่ช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างครบวงจร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น