นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่
ปัจจัยสนับสนุนจากภาครั ฐประกาศยกเลิกโรคโควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรง เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวั งภายหลังสถานการณ์ระบาดทั่ วโลกคลี่คลายลง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นเพิ่ มขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวอย่ างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของการบริ โภคในประเทศและภาคการท่องเที่ยว ด้านการส่งออกประเทศคู่ค้าเริ่ มสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อส่ งมอบในช่วงปลายปี สะท้อนจากดัชนีฯ คำสั่งซื้อและยอดขายโดยรวมที่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่ อนหน้า ขณะที่ดัชนีฯ ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนปรับตั วดีขึ้น จากมาตรการดูแลพลังงานของภาครัฐ รวมถึงปัญหาขาดแคลนชิปเริ่มคลี่ คลายลง อย่างไรก็ตามปัจจัยลบในเดือนนี้ ได้แก่ ปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัดได้ สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ เกษตรและกระทบต่อรายได้ ของเกษตรกร ตลอดจนเป็นอุปสรรคต่ อคมนาคมและขนส่งสินค้ารวมทั้งส่ งผลกระทบต่อภาคการก่อสร้าง นอกจากนี้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ยังมีความกังวลเกี่ยวกับอั ตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่มีแนวโน้ มปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงความเสี่ยงเกี่ยวกั บเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่ นอน
จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,310 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุ ตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในเดือนตุ ลาคม 2565 พบว่า ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกั งวลเพิ่มขึ้นได้แก่ ราคาน้ำมัน ร้อยละ 63.5 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 40.7 ตามลำดับ ปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก ร้อยละ 69.8 เศรษฐกิจในประเทศ ร้อยละ 41.0 สถานการณ์การเมือง ร้อยละ 38.0 อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่ าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ร้อยละ 33.4 และสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ร้อยละ 30.8 ตามลำดับ
สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 98.8 ปรับตัวลดลง จาก 101.8 ในเดือนกันยายน เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกั งวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้ มชะลอตัวลง ตลอดจนความเสี่ยงด้านภูมิรั ฐศาสตร์ (Geopolitics) โดยเฉพาะสงครามรัสเซีย – ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อเป็นปัจจัยเสี่ ยงต่อภาคการส่งออกของไทย
ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ
1) เสนอให้ภาครัฐเตรียมแผนรับมื อและป้องกันปัญหาอุทกภัยและน้ำ แล้ง รวมทั้งเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้ นฐานในการบริหารจัดการน้ำ การบูรณาการปรับปรุงผังเมือง ผังน้ำทั่วประเทศ และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้ างขวางทางน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว ตลอดจนออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจ ากอุทกภัยให้ผู้ ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ ายในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ และเครื่องจักรไปหักลดหย่อนภาษี เงินได้นิติบุคคลได้ 100%
2) เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิ จใหม่ๆ เพื่อเป็นของขวัญรับปีใหม่และช่ วยกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วง ท้ายปี 2565 อาทิ โครงการช้อปดีมีคืน ลดหย่อนภาษี 30,000 บาท โครงการคนละครึ่งเฟส 6 วงเงิน ขั้นต่ำ 3,000 บาท รวมทั้งเพิ่มจำนวนสิทธิ์ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็น 2 ล้านสิทธิ์ เป็นต้น
3) เสนอให้ภาครัฐพิจารณาปรับลดค่ าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดเดือนมกราคม - เมษายน 2566 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ ประกอบการในสภาวะที่เศรษฐกิจมี ความผันผวน รวมทั้งเพื่อรักษาขี ดความสามารถในการแข่งขั นของไทยเมื่อเทียบกับประเทศคู่ แข่ง
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้ทำการรวบรวมข้อมู ลผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่ นภาคอุตสาหกรรม และข้อมูลตัวชี้วัดทางเศรษฐกิ จและอุตสาหกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ย้อนหลัง 3 ปี จัดทำเป็น Dashboard เผยแพร่ในเว็บไซต์ศูนย์ข้อมู ลภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม Industry Data Space (iDS) ของ ส.อ.ท. เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ ประกอบการและบุคคลทั่วไปให้ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็ นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยสามารถเข้าไปใช้บริการข้อมู ลดังกล่าวได้ที่ www.fti.or.th/ids
ส.อ.ท. มุ่ง “เสริมสร้างความเข้มแข็งให้อุ ตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่ าเดิม (Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand)”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น