สิงคโปร์ 7 พฤศจิกายน 2565 – ยูโอบีประกาศคำมั่นที่ท้าทายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 หรือปีพ.ศ. 2593 ซึ่งเน้นย้ำเป้าหมายของธนาคารในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมเพื่อผลักดันการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่อย่างยืนควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คำมั่นของยูโอบีครอบคลุม
6 ภาคอุตสาหกรรม
อันได้แก่ พลังงาน ยานยนต์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ด้านพลังงาน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง
และเหล็กกล้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง โดยทั้ง
6
ภาคอุตสาหกรรมนี้คิดเป็นร้อยละ 60 ของพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อลูกค้าธุรกิจของธนาคาร
ยูโอบีนำแบบจำลองวิทยาศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกมาใช้ในการกำหนดเป้าหมายสำหรับแต่ละภาคอุตสาหกรรม
เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ทั่วโลก แนวทางสู่ Net Zero
นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่แน่วแน่ของยูโอบีต่อความต้องการการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มอัตราการเข้าถึงพลังงานแก่บรรดาประเทศที่มีความหลากหลายทั่วภูมิภาค
มร วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความมุ่งมั่นเรื่อง Net Zero ของธนาคารต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบระเบียบและครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยต้องคำนึงถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ เมื่อเราปรับลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เราก็ต้องมั่นใจว่าชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนจะต้องพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“การหาจุดสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อหนทางสู่
Net Zero จึงเป็นเรื่องสำคัญ
เป้าหมายของยูโอบีนั้นแม้จะดูท้าทาย แต่ปฏิบัติได้จริง
อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero
ทั่วโลกสำหรับภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย”
คำมั่นของยูโอบีนี้รวมถึงเป้าหมายระหว่างทางสำหรับปี 2030 หรือปีพ.ศ. 2573
ที่สะท้อนถึงความคืบหน้าระยะใกล้ที่จำเป็นต่อหนทางสู่ Net Zero
เป้าหมายและคำมั่นเรื่อง Net Zero ของยูโอบีสำหรับทั้ง
6 ภาคอุตสาหกรรม
ภาคอุตสาหกรรม |
เป้าหมายภายในปี 2573 |
เป้าหมายภายในปี 2593 |
พลังงาน |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
61 |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
98 |
ยานยนต์ |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
58 |
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ |
น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ |
ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อใหม่ให้กับโครงการอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต้นน้ำที่ดำเนินการหลังปี
2565 |
|
อสังหาริมทรัพย์ |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
36 |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
97 |
อุตสาหกรรมก่อสร้าง |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
31 |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
85 |
เหล็กกล้า |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
20 |
ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ
92 |
นอกจากนี้
ยูโอบียังคงมุ่งมั่นยุติการให้สินเชื่อแก่อุตสาหกรรมถ่านหินชนิดเชื้อเพลิงให้ความร้อนภายในปี
2582
นอกเหนือจากการยกเลิกอนุมัติสินเชื่อใหม่ๆ
แก่โครงการก่อสร้างหรือขยายโรงงานผลิตไฟฟ้าถ่านหินและเหมืองถ่านหินชนิดเชื้อเพลิงให้ความร้อน
ยูโอบีมีแผนนำ
Net Zero
รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจ
เพิ่มความพยายามในการร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายอื่นมากยิ่งขึ้นเพื่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ตลอดจนจัดทำรายงานประจำปีเพื่อติดตามความคืบหน้าของคำมั่นเรื่อง Net Zero ของธนาคาร ในอนาคต
หากมีข้อมูลและภาพจำลองภูมิอากาศเพิ่มขึ้น
ธนาคารจะขยายขอบเขตของเป้าหมายนี้เพื่อให้ครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ
เพื่อตอกย้ำคำมั่นต่อความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วภูมิภาคและทั่วโลก
ยูโอบีจึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในกลุ่ม Net-Zero Banking
Alliance (NZBA)[1] ซึ่งประกอบด้วยธนาคารที่เป็นภาคีสมาชิกจำนวน
121 แห่งจาก
41 ประเทศทั่วโลก
โดยมีสินทรัพย์ธนาคารรวมทั่วโลกอยู่ที่ 70 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.UOBSustainability.com.
[1] NZBA
เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน
(United Nations Environmental Program Finance Initiative
หรือ UNEP FI) ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยภาคธนาคารของกลุ่ม Glasgow Financial Alliance for Net Zero หรือ GFANZ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น