วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่
ผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอขอให้ภาครัฐมีการแก้ไขปั ญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยื น โดยขอให้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้ นฐานและเครื่องมือในการบริหารจั ดการน้ำ เช่น ฟลัดเวย์ โครงการแก้มลิง อ่างเก็บน้ำ เขื่อน เป็นต้น รวมทั้งมีการบูรณาการปรับปรุงผั งเมือง ผังน้ำทั่วประเทศ และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้ างขวางทางน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภั ยในอนาคตและเพิ่มประสิทธิ ภาพในการบริหารจัดการน้ำอย่ างเป็นระบบ ในส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุ ทกภัยปี 2565 ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ อยากให้ภาครัฐออกมาตรการให้ผู้ ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุ ทกภัยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่ อมแซมอสังหาริมทรัพย์และเครื่ องจักรไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ นิติบุคคลได้ 100% รวมทั้งออกมาตรการสินเชื่อฟื้ นฟูผู้ประกอบการจากอุทกภัย โดยอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และมีการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้ นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาภาคธุรกิ จที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทั้งนี้ในปี 2566 ผู้บริหาร ส.อ.ท. มีความกังวลต่อความเสี่ ยงในการเกิดปัญหาอุทกภัยมากกว่ าปัญหาน้ำแล้ง ซึ่งทั้ง 2 ปัญหา เป็นการบ้านที่สำคัญของรัฐบาลที่ จะต้องเร่งเตรียมความพร้ อมในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ทั้งอุ ทกภัยและน้ำแล้งที่อาจเกิดขึ้ นในอนาคต
จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 176 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก
45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 22 จำนวน 5 คำถาม ดังนี้
1. ความกังวลต่อสถานการณ์น้ำ และอุทกภัยในปี 2565 (Single choice)
อันดับที่ 1 : ปานกลาง 53.4%
อันดับที่ 2 : มาก 28.4%
อันดับที่ 3 : น้อย 18.2%
2. ปัญหาอุทกภัยและน้ำท่วมซ้ำ ซากในประเทศไทยเกิดจากสาเหตุใด (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : โครงสร้างพื้นฐานในการจัดการน้ำ เชิงพื้นที่ไม่เพียงพอ 73.9%
เช่น อ่างเก็บน้ำ ฟลัดเวย์ ประตูระบายน้ำ เป็นต้น
อันดับที่ 2 : การบริหารจัดการน้ำ และการระบายน้ำยังไม่มีประสิทธิ ภาพ 72.7%
อันดับที่ 3 : ขาดการขุดลอกคูคลอง ขยะอุดตันท่อระบายน้ำ และสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ 59.7%
อันดับที่ 4 : การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิ อากาศและภาวะโลกร้อน 53.4%
ทำให้เกิดภัยธรรมชาติมีความถี่ และมีความรุนแรงมากขึ้น
3. ภาครัฐควรบริหารจัดการเพื่อแก้ ไขปัญหาอุทกภัยและการบริหารจั ดการน้ำให้มีประสิทธิ ภาพในระยะยาวอย่างไร (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครื่ องมือในการบริหารจัดการน้ำ 81.3%
เช่น ฟลัดเวย์ โครงการแก้มลิง อ่างเก็บน้ำ เขื่อน เป็นต้น
อันดับที่ 2 : บูรณาการปรับปรุงผังเมือง ผังน้ำทั่วประเทศ 76.1%
และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้ างขวางทางน้ำอย่างเป็นระบบ
อันดับที่ 3 : ฟื้นฟูป่าต้นน้ำและส่งเสริ มการปลูกป่า เพื่อเป็นแหล่งในการดูดซั บและชะลอน้ำ 51.7%
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิ ตไฟฟ้าใช้เอง
อันดับที่ 4 : จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำและขั บเคลื่อนแผนงาน/แผนปฏิบัติ การในระดับลุ่มน้ำ 42.6%
ผ่านกลไกของคณะกรรมการลุ่มน้ำ
4. มาตรการที่มีความจำเป็นในการช่ วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รั บผลกระทบจากอุทกภัย (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่ อมแซมอสังหาริมทรัพย์และเครื่ องจักร 67.6%
ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุ คคลได้ 100%
อันดับที่ 2 : มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และการพักชำระหนี้ 65.9%
ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน
อันดับที่ 3 : รัฐตั้งกองทุนรับประกันความเสี่ ยงจากภัยธรรมชาติ เพื่อให้ครอบคลุมกับ 48.3%
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกั บภาคธุรกิจ
อันดับที่ 4 : สำนักงานประกันสังคมช่วยชดเชยค่ าจ้างแรงงาน 50% ให้แก่ธุรกิจ 43.8%
ที่ได้รับผลกระทบ
5. ความกังวลต่อสถานการณ์อุทกภั ยและภาวะน้ำแล้งในปี 2566 (Single choice)
อันดับที่ 1 : มีความกังวลต่อความเสี่ ยงในการเกิดปัญหาอุทกภัย 47.7%
อันดับที่ 2 : มีความกังวลต่อความเสี่ ยงในการเกิดปัญหาน้ำแล้ง 39.2%
อันดับที่ 3 : ไม่กังวล 13.1%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น