ชวนสร้างสรรค์แต่งบ้านสวย เพื่อสมาชิกสี่ขา สไตล์ยิปซัมตราช้าง

 ปัจจุบัน สัตว์เลี้ยง ได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของหลายๆ บ้านไปแล้ว โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยง   สี่ขาแสนรู้ ทั้งน้องสุนัขและน้องแมว ฉะนั้นการแต่งบ้าน หรือการจัดสรรพื้นที่แบบ Pet friendly จึงกลายเป็นที่สนใจมากขึ้น ยิปซัมตราช้างขอแนะนำไอเดีย การจัดที่อยู่อาศัยให้เป็นมิตรทั้งคนและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

 

1.      แบ่งพื้นที่ส่วนตัวของคนและสัตว์เลี้ยง

แม้เจ้าของอย่างเรา ๆ จะรักน้อง ๆ มากแค่ไหน แต่สำหรับบางคนอาจจะแพ้ขนน้องสุนัข หรือน้องแมว และไม่สามารถนอนร่วมกันในห้องเดียวกันได้ ทางแก้คือ การกั้นห้องจะต้องกั้นสัดส่วนแยกพื้นที่โดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกทั้งคนและสัตว์เลี้ยง และลดความเสี่ยงสำหรับผู้ที่แพ้ขนสัตว์ และหากใครต้องการกั้นห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบไว ๆ ก็สามารถเลือกใช้ ระบบผนังโซลิดวอลล์ วี 2 ตราช้าง  ที่ติดตั้งง่าย รวดเร็ว พื้นที่แห้งสะอาด แนะนำให้ทำประตูทางเข้าออกให้น้องแมว หรือน้องสุนัขตรงประตูเพื่อให้น้องเดินเข้าออกได้สบาย

 

2.      ผนังปีนป่าย

เรื่องปีนป่ายบนที่สูงต้องยกให้เจ้าแมวผู้รักอิสระซึ่งมักจะพบว่าน้อง ๆ แอบหนีออกนอกบ้านบ่อยครั้ง หากไม่อยากจะให้น้องแมวออกไปนอกบริเวณบ้าน สามารถออกแบบรั้ว ติดตั้งวัสดุผิวลื่น แล้วขึงลวด เพื่อป้องกันแมวหนี และจัดบ้านให้เป็นพื้นที่เพิ่มความสนุกสนาน ให้เจ้าแมวได้ปีนป่ายแบบเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นการติดขั้นบันไดที่ผนัง หรือทำเป็นทางเดินยาว ๆ ลัดเลาะไปตามผนังห้องก็ได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบความแข็งแรงของผนัง แนะนำใช้ระบบผนังโซลิดวอลล์ วี 2 ตราช้าง ที่สามารถยึดแขวนของหนักได้สูงสุด 20 กก. ต่อจุด โดยใช้พุกอิฐมวลเบา แข็งแรง ทนทาน เนื้อแผ่นแน่น

 

3.      กั้นเสียงสร้างความสงบ

สำหรับบางคนที่ไวต่อเสียงส่งผลให้นอนหลับยาก หรือต้องการสมาธิในการทำงานในห้องทำงาน  บ่อยครั้งที่น้องสุนัขมักมีการตอบสนองจากสิ่งเร้าได้ค่อนข้างไว อาจจะเกิดการส่งเสียงร้อง เห่า หรือหอน ซึ่งเป็นการรบกวนทั้งคนในบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว แนะนำให้เลือกใช้วัสดุในห้องนอน หรือห้องทำงานอย่าง แผ่นโซลิดวอลล์ วี 2 ตราช้าง รุ่นไฮ เอสทีซี ใช้คู่กับ ฉนวนนอยซ์บล็อค ตราช้าง ความหนา 50 มม. โดยสามารถป้องกันการส่งผ่านเสียงระหว่างห้องได้สูงสุด 52 dB เพิ่มความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ หมดปัญหาเรื่องการส่งเสียงให้กวนใจ

 

4.      ความลื่นของพื้นและบันได

นอกเหนือจากการเลือกวัสดุผนังเพื่อจัดการพื้นที่ต่าง ๆ ให้ลงตัวแล้ว อย่าลืมวัสดุพื้น
ที่ต้องไม่ลื่นเกินไป เพราะจะมีผลกับการเดินของสุนัข หรือแมวในระยะยาว อีกทั้งยังต้องทนทาน ไม่เป็นรอยง่าย และควรทำความสะอาดง่ายด้วย รวมถึงการปรับระดับขั้นบันไดให้เหมาะสม เพราะหากขั้นบันไดแคบและสูง เวลาขึ้น-ลงบันไดของสัตว์เลี้ยงจะทำให้ถ่ายน้ำหนักลงสะโพกและขามากเกินไปโดยเฉพาะสุนัขขนาดเล็ก ขาสั้น ส่งผลเกิดปัญหาสะโพกได้ในอนาคต แนะนำให้ทำทางลาดที่มีแถบกันลื่น หรือเสริมบันไดแบบโฟม กว้างสักประมาณ 20 – 25 เซนติเมตร และสูงประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร ก็ช่วยถนอมสะโพกและข้อขาหลังได้

  

5.      สุขอนามัยของคนและสัตว์เลี้ยง

แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงไม่สามารถสื่อสาร หรือควบคุมการขับถ่ายให้เป็นไปได้ตามใจคน ดังนั้น สิ่งที่ต้องใส่ใจไม่แพ้กันคือ ความสะอาดและสุขอนามัย จึงควรให้ความสำคัญในการแบ่งโซนสัตว์เลี้ยง หากเลี้ยงสัตว์ภายในบ้านควรแยกห้องน้ำสัตว์ให้เป็นสัดส่วน หรือมีห้องน้ำสำเร็จรูปสำหรับสุนัขและแมว โดยต้องมีช่องระบายอากาศสู่ภายนอกได้เพื่อลดความอับชื้น และมีประตูปิดมิดชิดป้องกันกลิ่นฟุ้งกระจาย ที่สำคัญอย่าลืมฝึกให้น้อง ๆ สี่ขามีวินัยในการขับถ่ายของเสีย และเราเองต้องขยันทำความสะอาดบ้านและอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงบ่อย ๆ  

เพราะสัตว์เลี้ยงต่างก็ต้องการพื้นที่ในการเติบโตไม่ต่างกับคน ฉะนั้น การเข้าใจธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง และใส่ใจในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ ก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้พวกเขาได้ อีกทั้งยังทำให้คนและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและสะดวกสบายภายใต้ชายคาเดียวกัน   

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ยิปซัมตราช้าง และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมhttps://www.siamgypsum.com

https://www.q-chang.com/ หรือ www.scghome.com