“ออสเตรีย” ความงามที่เอื้อมถึง เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยให้สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย

 กรุงเทพฯ 18 พฤษภาคม 2566 – นักท่องเที่ยวชาวไทยกำลังมองหาจุดหมายปลายทางในประเทศโซนยุโรปที่น่าไปเยี่ยมเยียน และความงดงามของออสเตรียก็ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ออสเตรียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูเขาแอลป์ทางตะวันออกและมีชายแดนร่วมกับประเทศอื่น ๆ อีก 8 ประเทศ และมีกิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมท่องเที่ยว การพักผ่อน ศิลปะและวัฒนธรรมมากมายที่มอบความสุขให้แก่นักเดินทางที่สนใจ

 

ในงานบรรยายสำหรับสื่อมวลชนที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ ตัวแทนจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Tourist Office: ANTO) ได้เสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวในประเทศออสเตรีย เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและผู้ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ให้เลือกออสเตรียเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทางช่วงวันหยุดครั้งต่อไป

 

ตั้งอยู่ใจกลางของยุโรปและสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

เอ็มมานูเอล เลห์เนอร์-เทลิช ผู้ช่วยทูตฝ่ายการท่องเที่ยวประจำสถานทูตออสเตรีย ประจำกรุงเทพฯ อธิบายว่า จำนวนเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศไทยและออสเตรียกำลังเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันเส้นทางกรุงเทพฯ-เวียนนา มีจำนวน 12 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยสายการบิน EVA Air และ Austrian Airlines ด้วยทำเลที่ยอดเยี่ยมของเวียนนาที่ตั้งอยู่ใจกลางยุโรป ทำให้กรุงเวียนนาเป็นจุดเชื่อมต่อที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในออสเตรีย พร้อมทั้งมีตัวเลือกมากมายสำหรับการเดินทางไป-กลับและขับรถท่องเที่ยวทั่วยุโรป นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่เติบโตและไม่หยุดนิ่ง ปัจจุบันมีผู้เดินทางจากประเทศไทยเข้ามาประมาณ 60,000 คนและเข้าพักแบบค้างคืนประมาณ 110,000 คืนต่อปี

 

สำหรับนักท่องเที่ยวรู้จักประเทศออสเตรียผ่านหนังสือ จากการอ่านรีวิว หรือสื่อต่าง ๆ อาจมองว่าออสเตรียเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับฤดูหนาวเท่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้วประเทศนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการเล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีลานสกีสำหรับผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ รวมถึงตลาดฤดูหนาวสุดโรแมนติกที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ ซึ่งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรียได้นำเสนอตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นว่าประเทศออสเตรียมีประเพณีการต้อนรับผู้มาเยือนที่ยาวนาน และมีสิ่งที่น่าสนใจนำเสนอมากมายสำหรับนักเดินทางทุกประเภทตลอดทั้งปี

 

แม่น้ำดานูบที่มีชื่อเสียงเป็นสถานที่ของการล่องเรืออันเงียบสงบท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น ในขณะที่ป่าเขียวชอุ่มและทะเลสาบในบริเวณใกล้เคียงที่น้ำมีความบริสุทธิ์สามารถดื่มได้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศที่ไม่เร่งรีบในช่วงวันหยุด นอกจากนี้ เมืองและหมู่บ้านเล็ก ๆ หลายแห่งในออสเตรียยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ซึ่งชาวบ้านยินดีที่จะเล่าสู่กันฟังกับผู้มาเยือน ออสเตรียเป็นประเทศที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินไปกับการต้อนรับที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงแรมหรือร้านอาหารที่ดูแลโดยครอบครัวของคนท้องถิ่น

 

มุ่งสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ออสเตรียเป็นประเทศที่มีภูเขาและทางน้ำที่สวยงามเป็นที่รู้จักทั่วโลก และสิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่ในสภาพเดิมตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของประเทศในด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในสภาวะที่ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญเมื่อนักท่องเที่ยวเลือกจุดหมายปลายทาง บริเวณท่องเที่ยวในออสเตรียรวมถึงจำนวนทะเลสาบที่น่าทึ่ง (มากกว่า 25,000 แห่ง) และภูเขาสูง 695 แห่ง (ภูเขาที่มีความสูงอย่างน้อย 3,000 เมตร) รวมถึงพื้นที่ป่าที่กว้างใหญ่ได้นำแนวความคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนมาใช้ และส่งเสริมผู้เข้าชมลดการสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

 

พลังงานและการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในออสเตรีย ทีมงาน ANTO ได้เสนอตัวอย่างดังนี้

·         พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานจากน้ำหรือพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นส่วนสำคัญในรีสอร์ทต่าง ๆ ซึ่งใช้ในการทำงานของทุกอย่างตั้งแต่โรงแรมจนถึงเคเบิลคาร์ ร้านอาหาร และสปา

·         ด้วยระบบรถไฟที่ครอบคลุมมากกว่า 5,000 กิโลเมตร และภูเขาสูงในหลายพื้นที่ เช่น อินส์บรุคและซาลซ์บวร์ก ซึ่งรวมการใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรีด้วยบัตรของผู้เข้าพัก นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวช่วงพักร้อนที่ปราศจากรถยนต์

·         จักรยานไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การเช่า สถานีชาร์จ ที่มีพอเพียงต่อความต้องการ

 

มีจุดหมายปลายทางมากมายในออสเตรียที่ได้รับการยอมรับในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยตัวแทนจาก ANTO อธิบายด้วยความภูมิใจเกี่ยวกับภูมิภาคสามแห่งต่อไปนี้ที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินการ:

·         เซลล์ อัม เซ เมืองคาพรุน (Zell am See – Kaprun) เป็นสวรรค์แห่งธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบ Zell am See ในเมือง Kaprun เรียกตัวเองว่าเป็น “ภูมิภาคแบบจำลองสภาพภูมิอากาศและพลังงาน” ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ ธุรกิจหลายแห่งใน Zell am See ยังได้รับการรับรองจาก Austrian Eco-Label ที่เป็นการรับรองคุณภาพสำหรับธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน

 

·         ซังคท์ อันทอน อัม อาร์ลแบร์ก (St. Anton am Arlberg) เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามและอากาศบนภูเขาที่บริสุทธิ์ ใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น โดย St. Anton เป็นผู้ริเริ่มโครงการด้านความยั่งยืนมากมายที่พึ่งพาตนเองได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549

 

·         อินส์บรุค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของทิโรลและเป็นที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ที่นี่ผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกในเมือง ด้วยขนาดของเมืองนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองได้โดยไม่ต้องใช้รถยนต์ และใช้จักรยานเช่า 350 คันที่มีอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมือง 44 จุด

 

การเดินทางสู่ประเทศออสเตรียตามรอยของซิซี

 

เมื่อพิจารณาจากสถานที่ท่องเที่ยวที่มีให้เลือกมากมาย การวางแผนการเดินทางเที่ยวประเทศออสเตรียอาจดูท้าทาย จะเพลิดเพลินกับไฮไลท์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงเวลาที่มีจำกัดได้อย่างไร? สำหรับคำถามนี้ เอ็มมานูเอล มีคำแนะนำว่าให้ท่องเที่ยวตามรอยของจักรพรรดินีเอลิซาเบธผู้มีชื่อเสียงแห่งออสเตรีย ความสนใจในตัวจักรพรรดินีหรือที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อ “ซิซี (Sisi)” ยังคงมีมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ (อันที่จริงเธอคือจุดสนใจของซีรีส์เรื่อง “The Empress” ในปัจจุบันของ Netflix เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับกลิ่นอายของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก เป็นผู้นำในการใช้ชีวิตที่หรูหราและยังเป็นนักผจญภัยและนักเดินทางที่รักธรรมชาติอีกด้วย

 

เอ็มมานูเอล แนะนำให้เดินตามรอยเท้าของซิซีเพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของออสเตรียพร้อมกับอาหารรสเลิศที่น่าจดจำ นักเดินทางที่ชอบการผจญภัยอาจต้องการวางแผนการเยี่ยมชมพระราชวังและวิลล่าที่ตั้งอยู่ในธรรมชาติเหล่านี้:

 

·         พระราชวังอิมพีเรียลในกรุงเวียนนา (หรือที่เรียกว่าพระราชวังฮอฟบวร์ก) – ศูนย์กลางแห่งอำนาจในกรุงเวียนนาตั้งแต่ปี ค.ศ.1279 เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากที่อื่น ในอดีตเคยเป็นที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำงานและบ้านของประธานาธิบดีออสเตรีย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจักรพรรดินีซิซี การเข้าชมห้องประทับและพิพิธภัณฑ์ซิซีในพระราชวังอิมพีเรียล เมื่อเดินผ่านห้องต่าง ๆ จะเห็นได้ชัดเจนว่าจักรพรรดินีเอลิซาเบธเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในช่วงชีวิตของเธอ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ sisimuseum-hofburg.at

 

·         พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) ที่ประทับฤดูร้อนของราชวงศ์ นี่คือสถานที่ที่ยังคงสัมผัสได้ถึงความงดงามของบุคลิกของซิซีได้จนถึงทุกวันนี้ ในความเป็นจริงแล้วห้องพักของซิซียังคงเป็นแบบเดียวกับเมื่อตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ทำให้สามารถจินตนาการภาพเธอนั่งอยู่ในห้องพักส่วนตัว ที่มีผ้าไหมที่ปักอย่างวิจิตรงดงาม และอย่าพลาดการเดินเล่นในสวนที่งดงามของพระราชวัง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ All Tickets & Tours | พระราชวังเชินบรุนน์ (schoenbrunn.at)

 

·         อิมพีเรียลวิลล่าในเมืองบาดท์อิชเชิล (The Imperial Villa at Bad Ischl) จุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักของซิซี เพียงนั่งรถไฟระยะเวลาสั้น ๆ จากซาลซ์บวร์ก คุณก็สามารถสำรวจเมืองบาดท์อิชเชิล เมืองเล็ก ๆ ที่งดงามราวภาพวาด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักของซิซีและจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ (Emperor Franz Josephs) ซึ่งจักรพรรดิได้เลือกซีซี่ที่ในขณะนั้นมีอายุ 15 ปี และอีกหนึ่งปีต่อมางานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นในกรุงเวียนนา หนึ่งในของขวัญแต่งงานคือวิลล่าแห่งนี้ในเมืองบาดท์อิชเชิล ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Welcome to the Kaiservilla

 

ตัวแทนจาก ANTO ระบุว่าการเดินทางตามรอยของซิซีเป็นแค่หนึ่งในหลายวิธีในการสัมผัสความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของออสเตรีย ผู้เดินทางสามารถวางแผนการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมฤดูหนาว การเดินเขาในฤดูใบไม้ผลิ หรือแม้แต่ทัวร์ที่เน้นด้านอาหารในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศสดชื่น สำหรับนักเดินทางที่เปิดกว้าง ออสเตรียมีความเป็นมิตรและมอบประสบการณ์ที่หลากหลายสำหรับนักเดินทางทุกประเภท