"บาส-ปอป้อ" ตบคว้าชัยรอบแรก ศึกโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2564

"บาส-ปอป้อ" ตบคว้าชัยรอบแรก ศึกโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น

 19 มกราคม 2564 – การแข่งขันแบดมินตันรอบแรกของศึก "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น" ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการในรูปแบบในรูปแบบนิวอร์มอลภายใต้มาตรการคุ้มเข้มเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตันและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด โดยเมื่อวันอังคารที่ 19 ม.ค. เป็นการประเดิมลงสนามแข่งขันในรอบเมนดรอว์รอบแรก

           


ประเภทคู่ผสมรอบเมนดรอว์รอบแรก 32 คู่ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก ยังคงเดินหน้าทำผลงานได้อย่างร้อนแรงไล่ตบทำคะแนนเอาชนะ โรบิน ทาเบลลิ่ง กับ เซเรน่า เพี๊ยค คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ ไปได้ขาดลอย 2-0 เกม 21-1421-19 ใช้เวลาแข่งขัน 36 นาที เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบสองไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง เกา ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซีย ที่จะพบกับ โรลันด์ ลาบาร์ กับ แอนนี่ ทราน คู่มืออันดับ 42 ของโลกจากฝรั่งเศส ในรอบแรก, "ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์  พวงพั่วเพชร กับ "นั่ง" ชาสิณี โกรีภาพ พ่ายให้กับ ถัง ชุนมาน กับ ซื่อ หยิงซวด คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 10  ของโลกจากฮ่องกง ไป 0-2 เกม 13-21,6-21 ใช้เวลาแข่งขัน 24 นาที, "โบ้ท" วงศธร ทองคำ กับ "ชิง"ธนพิม กวีนันทวงศ์ พ่ายให้กับ โค ซังฮุน กับ อึม แฮวอน คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากเกาหลีใต้ ไป 0-2 เกม 15-21,12-21ใช้เวลาแข่งขัน 26 นาที

 

                                                     


"บาส" เดชาพล และ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี พูดถึงผลงานในรอบแรกว่า “เกมโดยรวมถือว่าโอเค แต่วันนี้จะมีเรื่องของลมที่แตกต่างจากทุกแมตช์ที่ผ่านมา ลูกพุ่งมากกว่าเดิม ต้องมาปรับใหม่ หากเราควบคุมตัวเองได้ ก็สามารถตีได้ง่าย แต่ไม่ง่ายจนเกินไป เราพยายามคุมแผนการเล่นของตัวเองให้ได้ สำหรับคู่แข่งจากเนเธอร์แลนด์ เราเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้และชนะมาได้ ลงเล่นแมตช์นี้ทำให้ไม่กดดัน ตีตามแผน ตามเกมที่วางไว้ การลงแข่งรายการนี้ได้วอร์มอัพสนามจากรายการโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพน เป็นเรื่องดีไม่ต้องมาวอร์มสนามใหม่ เพราะแข่งสนามเดิม ถือว่าช่วยได้ส่วนหนึ่ง การได้แชมป์รายการที่แล้วทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น และพยายามจะรักษาฟอร์มการเล่นที่ดี เพื่อคว้าแชมป์มาครองให้ได้อีกรายการ สำหรับเป้าหมายในรายการ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น คือตำแหน่งแชมป์ เราจะพยายามทำเต็มที่ เพื่อคว้าแชมป์มาครองให้ได้”

 


ประเภทชายคู่รอบเมนดรอว์รอบแรก 32 คู่ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ กับ "สกาย" กิตตินุพงษ์ เกตุเรน  โชว์ฟอร์มเก่งช่วยกันพลิกสถานการณ์หลังจากที่พลาดท่าพ่ายไปก่อนในเกมแรกมาเร่งเครื่องทำคะแนนแซงชนะ เกา ซีเฟย กับ นอร์ อินซูดีน คู่มืออันดับ 28 ของโลกจากมาเลเซีย ไปได้หวุดหวิด 2-1 เกม13-2121-1321-17 ใช้เวลาแข่งขัน 45 นาที สุภัค กับ  กิตตินุพงษ์ ผ่านเข้าสู่รอบสองไปพบกับ  โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย ที่เอาชนะ ลี ยองแด กับ คิม คีจุง คู่มืออันดับ 31 ของโลกจากเกาหลีใต้ มาได้แบบไม่จบแมทช์ หลังจากทำคะแนนออกนำ 6-2 ลี ยองแด มีอาการบาดเจ็บที่น่องทำให้ต้องขอถอนตัวจากการแข่งขัน

           


ประเภทหญิงเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบแรก 32 คน  "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 12 ของโลก พ่ายให้กับ พูสซาลา วี สินธุ มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลกจากอินเดีย ไป 0-2 เกม17-21,13-21ใช้เวลาแข่งขัน 43 นาที,  "เมย์" ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 46 ของโลก  พ่ายให้กับ  ไถ้ ซื่อหยิง มือวาง 1 ของรายการ มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน ไป 0-2 เกม16-21,11-21ใช้เวลาแข่งขัน 29 นาที, "อะตอม"ศิรดา รุ่งพิบูลโสภิษฐ์  พ่ายให้กับ เกรกลอเลีย มาริสก้า ทุนจุง มืออันดับ 21 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไป 0-2 เกม 9-21,8-21ใช้เวลาแข่งขัน 20 นาที

 

                                                    


"ครีม" บุศนันทน์ เผยหลังเกมว่า “เนื่องจากหยุดแข่งไปนาน นักกีฬาทุกคนก็ต้องเตรียมตัว แก้ไขจุดอ่อน เพิ่มจุดแข็งตัวเอง แมตช์ที่แล้วสินธุแพ้ไปเร็ว จึงเพิ่มความกระตือรือร้นความเฉียบขาดมากขึ้น รู้อยู่แล้วว่าการแข่งขันแมตช์ใหญ่ระดับนี้จะคาดหวังเจอคู่แข่งเบาแทบเป็นไปไม่ได้ จึงไม่รู้สึกกดดันอะไร เพราะไม่ว่าจะเจอใครต้องเล่นเต็มที่ในแบบที่เราทำได้ เพื่อเอาชนะคู่แข่งให้ได้อยู่แล้ว แต่พอมาลงสนามสถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เกมแรกแต้มค่อนข้างสูสี แต่มีปัญหาช่วงปลายเกมๆ หลุดไป 2-3 แต้มง่ายๆ ทำให้ความได้เปรียบไปอยู่ที่คู่แข่ง เกมที่สอง ย้ายไปฝั่งตามลม พยายามบุกมากขึ้นเพื่อทำแต้ม แต่ปรับตัวได้ไม่ดี ตบได้ไม่เต็มที่ ทำให้คู่แข่งรับลูกตบเราได้ง่าย ฝากแฟนๆ ช่วยส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาไทยทุกๆ คนด้วย”

           


ขณะที่ประเภทชายเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบแรก 32 คน "โอ๊ต" สิทธิคมน์  ธรรมศิลป์ มืออันดับ 25 ของโลก  พ่ายให้กับ คีดัมบี้  สีกาน มืออันดับ 14 ของโลกจากอินเดีย ไป 0-2 เกม 11-21, 11-21ใช้เวลาแข่งขัน 38 นาที, "เพชร" โฆษิต เพชรประดับ มืออันดับ 33 ของโลก  พ่ายให้กับ  ชีซาร์ ไฮเรน ฮูสตารวีโต้ มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไป 0-2 เกม 13-21,13-21ใช้เวลาแข่งขัน 36 นาที

           

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่น่าสนใจมีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว คีโซน่า เซลวาดูเร มืออันดับ 92 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ โดล่า ฮานี่ มืออันดับ 111 ของโลกจากอียิปต์ 21-1021-7

 

ประเภทหญิงคู่ วิเวียน โฮ กับ ยัป เฉินเหวิน คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ โชล์ว เบิร์ช กับ รอเรน สมิธ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอังกฤษ 21-14, 21-14,ประเภทคู่ผสม ซาวีไซราท รานกิเรดดี้ กับ อาชวีนี่ พอนนัพพา คู่มืออันดับ 36 ของโลกจากอินเดีย ชนะ นิโคลัส นอร์ กับ อเมลี่ เมเกลลุนด์ จากเดนมาร์ก 23-21, 21-18

 

ประเภทชายคู่  โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย  ชนะ  ลี ยองแด กับ คิม คีจุง คู่มืออันดับ 31 ของโลกจากเกาหลีใต้ 6-2 (ลี ยองแด บาดเจ็บขอถอนตัว)

           

สำหรับศึก "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่นเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 19 - 24 มกราคมนี้  จะมีการถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยสามารถชมการถ่ายทอดสดได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง ทรูวิชั่นส์ทรูโฟร์ยูทรู ยูทูปทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668, Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน

           

ข้อมูลเพิ่มเติมของการแข่งขันได้ที่เว็บไซต์ www.bwfbadminton.com หรือ www.badmintonthai.or.th

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad