ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในรายงานเมื่อวันพุธว่า แนวโน้มทางเศรษฐกิจเริ่ม "มองโลกในแง่ร้ายมากขึ้น" มากขึ้นจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงการสำรวจ "หนังสือสีเบจ" ล่าสุดของเฟดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจเป็นผลมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวเพื่อทำให้ราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งหมดนี้ในขณะที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มซบเซาในหลายพื้นที่ในสหรัฐฯ โดยมี "อุปสงค์ที่ชะลอตัวหรือลดลง" เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และอุปทานที่หยุดชะงัก รายงานระบุ ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เกณฑ์มาตรฐานห้าครั้งในปีนี้ รวมเป็นสามเปอร์เซ็นต์ โดยกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นกำลังจะเกิดขึ้น
รายงานดังกล่าวระบุว่า "ความกลัวภาวะถดถอย" ได้แพร่กระจายในหลายเขตเช่นกัน ซึ่งสำรวจบริษัทต่างๆ และผู้ติดต่ออื่นๆ ทั่วทั้ง 12 เขตของเฟด
ครัวเรือนต่างเผชิญปัญหาต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นที่เลวร้ายลงจากเสียงคำรามของห่วงโซ่อุปทาน การล็อกดาวน์ในจีน และราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และราคาผู้บริโภคยังคงสูงขึ้น ทำให้เกิดความคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมนโยบายในเดือนหน้า รายงานเมื่อวันพุธ ระบุว่า สำหรับตอนนี้ การใช้จ่ายค้าปลีกค่อนข้างคงที่ เนื่องจากผู้บริโภคใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยังพบว่ายอดขายลดลงเนื่องจากสินค้าคงเหลือที่จำกัด ต้นทุนรถยนต์ที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ในขณะที่การผลิตโดยทั่วไปยังคงทรงตัวในขณะที่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานผ่อนคลายลง บางเขตรายงานว่า "ความต้องการแรงงานลดลง" โดยบริษัทต่างๆ ลังเลที่จะเพิ่มเงินเดือน เนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงขึ้น
กองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวในเดือนนี้ว่าเศรษฐกิจหลักรวมถึงสหรัฐฯ จะยังคงหยุดชะงัก โดยตรึงการเติบโตของสหรัฐฯ ในปีนี้ไว้ที่ 1.6% แม้ว่าการเติบโตของราคาจะยังสูงขึ้น แต่รายงานของเฟดกล่าวเมื่อวันพุธว่า "มีการผ่อนคลายบ้าง" โดยมีการลดลงในด้านสินค้าโภคภัณฑ์ เชื้อเพลิง และต้นทุนค่าขนส่ง “เมื่อมองไปข้างหน้า ความคาดหวังคือการเพิ่มขึ้นของราคาจนถึงระดับปานกลาง” รายงานกล่าว อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชะลอการก่อสร้างและการขายด้วย รายงานราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงกระจัดกระจาย (เอเอฟพี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น