วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566 นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่มีความผั นผวนและชะลอตัว ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่ งผลกระทบต่อทิศทางการจ้ างงานของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมจะต้ องมีการปรับตัวในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านการบริหารจั ดการแรงงานและการจ้างงาน ที่ได้ให้ความสำคัญกับการ Upskill/Reskill และสร้าง New Skill เพื่อพัฒนาทักษะฝีมื อแรงงานรองรับการดำเนินธุรกิ จในยุคใหม่ รวมถึงมีการเริ่มใช้เครื่องจั กรและเทคโนโลยีมาช่ วยในกระบวนการผลิตทดแทนการใช้ แรงงานมากขึ้น เพื่อแก้ไขปั ญหาขาดแคลนแรงงานและปัญหาประสิ ทธิภาพแรงงาน
ทั้งนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ได้เสนอให้ภาครัฐเร่งสนับสนุ นและส่งเสริมให้เกิดการพั ฒนาประสิทธิภาพแรงงาน (Labor Productivity) โดยเฉพาะการสนับสนุนระบบการจ่ ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือ (Pay by Skill) และการยกระดับมาตรฐานฝีมื อแรงงานให้ได้มาตรฐานสากล รวมทั้งการขยายสิทธิประโยชน์ การลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ ายในการฝึกอบรมแรงงานเพื่อ Upskill/Reskill เป็นลดหย่อนภาษีได้ 250% เท่ากับการอบรมทักษะขั้นสูงที่ ได้รับการรับรองจาก สอวช. เพื่อจูงใจภาคเอกชนให้มีการส่ งบุคลากรเข้ารับการฝึกอบรมให้ มากขึ้นเพื่อพัฒนาฝีมื อแรงงานในทุกด้าน
นอกจากนี้ หากพิจารณาจากทักษะที่เป็นที่ต้ องการของภาคอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 เป็น ทักษะทางวิศวกรรม (Engineering Skills) อันดับ 2 เป็น ทักษะทางดิจิทัล (Digital Skills) และอันดับ 3 เป็น ทักษะทางการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics)
จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 218 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก
45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 28 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้
1. ภาคอุตสาหกรรมมีอัตราการจ้ างงานในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 อยู่ในระดับใด (Single choice)
อันดับที่ 1 : เท่าเดิม 48.6%
อันดับที่ 2 : เพิ่มขึ้น 10-20% 24.8%
อันดับที่ 3 : ลดลง 10-20% 19.3%
อันดับที่ 4 : ลดลงมากกว่า 20% 5.0%
อันดับที่ 5 : เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% 2.3%
2. ปัจจัยใดส่งผลกระทบต่อการจ้ างงานของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและชะลอตั ว 59.6%
อันดับที่ 2 : ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี การผลิต เช่น ระบบ Automation, 48.2% การใช้ Robotics และ AI
อันดับที่ 3 : การเกิด Digital Disruption ที่มีผลกระทบต่อรูปแบบการดำเนิ นธุรกิจ 45.4%
อันดับที่ 4 : นโยบายรัฐ กฎหมายกฎระเบียบ และมาตรการจากต่างประเทศที่เกี่ ยวข้อง 39.4% ด้านแรงงาน
3. ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับตัวในเรื่ องการจ้างแรงงานในปัจจุบันอย่ างไร (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ให้ความสำคัญกับการ Upskill/Reskill และสร้าง New Skill 67.0% เพื่อพัฒนาทักษะฝีมื อแรงงานรองรับธุรกิจใหม่
อันดับที่ 2 : เริ่มมีการใช้เครื่องจั กรและเทคโนโลยีมาช่ วยในกระบวนการผลิตทดแทน 65.6% การใช้แรงงาน
อันดับที่ 3 : รูปแบบการจ้างงานและการบริหารจั ดการแรงงานมีความยึดหยุ่นมากขึ้ น 55.5% เช่น การใช้ Outsource เป็นต้น
อันดับที่ 4 : ปรับลดขนาดองค์กรและยุ บรวมตำแหน่งงานให้เกิดความคล่ องตัว 45.4% และลดค่าใช้จ่ายด้านการบริ หารงาน
4. ภาครัฐควรสนับสนุนและส่งเสริ มให้เกิดการพัฒนาประสิทธิ ภาพแรงงาน (Labor Productivity) ในเรื่องใด (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : สนับสนุนระบบการจ่ายค่าจ้ างแรงงานตามทักษะฝีมือ (Pay by Skill) 69.3% และการยกระดับมาตรฐานฝีมื อแรงงานให้ได้มาตรฐานสากล
อันดับที่ 2 : ขยายสิทธิประโยชน์การลดหย่ อนภาษีค่าใช้จ่ายในการฝึ กอบรมแรงงาน 65.6% เพื่อ Upskill/Reskill เป็นลดหย่อนภาษีได้ 250% (เท่ากับการอบรมทักษะสูงของ สอวช.)
อันดับที่ 3 : พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน 60.1% และแก้ไขปัญหา Skill Mismatch
อันดับที่ 4 : จัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการฝึ กอบรม Upskill/Reskill/Multi skill/ 54.6% Future skill รวมทั้งเพิ่มงบประมาณสนับสนุ นกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน
5. บริษัทท่านมีความต้องการบุ คลากรที่มีทักษะในด้านใด (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ทักษะทางวิศวกรรม (Engineering Skills) 68.8%
อันดับที่ 2 : ทักษะทางดิจิทัล (Digital Skills) 63.3%
อันดับที่ 3 : ทักษะทางการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics) 53.7%
อันดับที่ 4 : ทักษะทางการตลาด (Marketing Skills) 46.8%
6. ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มการจ้ างแรงงานในปี 2566 อย่างไร (Single choice)
อันดับที่ 1 : คงที่ 50.0%
อันดับที่ 2 : เพิ่มขึ้น 35.3%
อันดับที่ 3 : ลดลง 14.7%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น