ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์ กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ที่ระดับ “A+” สะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุ รกิจเกษตรอุ ตสาหกรรมและอาหารของไทย ตลอดจนมีฐานการผลิตในหลายประเทศ การมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย
ในขณะเดียวกันยังได้จัดอันดั บเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิ ทธิไม่มีหลักประกันชุดใหม่ ในวงเงินไม่เกิน 25,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ A+ โดยซีพีเอฟจะนำเงินไปใช้สำหรั บเป็นเงินทุนหมุนเวียน และ/หรือสำหรับการลงทุนของกิ จการ และ/หรือชำระคืนหนี้เดิมของบริ ษัท และ/หรือให้กู้ยืมแก่บริษัทย่ อยของบริษัท
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่ วนจากระดับหนี้สินที่สูงของบริ ษัท ตลอดจนความผันผวนของราคาผลิตภั ณฑ์ของบริษัทซึ่งเป็นสินค้ าโภคภัณฑ์ รวมทั้งความเสี่ยงจากโรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบี ยบของประเทศผู้นำเข้า ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็ นเวลานาน
ทริสเรทติ้งได้ออกประกาศเครดิ ตพินิจแนวโน้ม “ลบ” เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 เป็นผลสืบเนื่ องมาจากการประกาศการลงทุนของซี พีเอฟในกลุ่มเทสโก้เอเซีย โดยคาดว่ากระบวนการซื้อกิ จการจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2563 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ ต้องบรรลุก่อนที่ระบุในสัญญาซึ่ งรวมถึงการได้รับความเห็ นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ ยวข้อง
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ กล่าวไว้ว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้ น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย ผลกระทบจากภาวะวิกฤตไวรัสโควิด- 19 ที่อาจมีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานไม่ มากเนื่องจากบริษัทเป็นผู้ผลิ ตอาหารซึ่งเป็นสินค้าจำเป็น บริษัทในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตสิ นค้าเนื้อสัตว์และอาหารคุณภาพด้ วยมาตรฐานปลอดภัย ยืนยันว่าคนไทยจะมีอาหารมั่ นคงเพียงพอโดยไม่ขาดแคลน และให้คำมั่นว่าจะผลิ ตอาหารและดูแลการจัดจำหน่ายขนส่ งอาหารอย่างเต็มกำลังและเต็ มประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานการป้ องกันการแพร่ระบาดของเชื้ อโรคอย่างเคร่งครัด โดยยังคงเดินหน้า “โครงการส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการมอบให้ กับบุคลากรทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลกว่า 70 แห่ง และกลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวั งกว่า 10,000 คนแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น