TK คาดปี 64 กลับมาขยายตัวอีกครั้งตามกำลังซื้อที่ฟื้นตัว และวัคซีน COVID-19 ที่จะเริ่มฉีด เดินหน้าเข้าซื้อกิจการในเมียนมา คาดสำเร็จในปี 64 นี้ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

TK คาดปี 64 กลับมาขยายตัวอีกครั้งตามกำลังซื้อที่ฟื้นตัว และวัคซีน COVID-19 ที่จะเริ่มฉีด เดินหน้าเข้าซื้อกิจการในเมียนมา คาดสำเร็จในปี 64 นี้

 


บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย คาดการณ์ปี 2564 ผลประกอบการจะปรับตัวดีกว่าปี 2563 ที่ผ่านมา จากปัจจัยสนับสนุน ทั้งกำลังซื้อที่ฟื้นตัว และเริ่มเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมเผยความคืบหน้าการเข้าซื้อกิจการ Myanmar Finance International Limited หรือ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมา เดินหน้าทุ่มงบ 400 ล้านบาท ขยายธุรกิจ Micro Finance ในประเทศดังกล่าว คาดกระบวนการต่าง ๆ จะแล้วเสร็จภายในปี 2564 นี้ และจะส่งผลให้ TK มีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 40ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด ด้านการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 TK ได้เตรียมพร้อมระบบออนไลน์ผ่านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นภายในองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจจะสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการลูกค้าได้ โดยไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก

 

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เผยว่า จากสถานการณ์ปีที่ผ่านมา ทั้งองค์กรและกลุ่มผู้บริโภคต่างได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โควิด-19 และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้การดำเนินงานต่าง ๆ ไม่เป็นไปคาดหมายไว้ อย่างไรก็ตาม เปิดต้นปี 2564 ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศกลับมาเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับวิถีชีวิตเข้าสู่ New Normal ได้เร็วขึ้น รวมถึงเริ่มเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าปี 2564 ตลาดรถจักรยานยนต์ และรถยนต์จะฟื้นตัวได้ดี หากวัคซีนเริ่มได้รับการฉีดอย่างกว้างขวาง จะส่งผลให้กำลังซื้อฟื้นตัวทั้งในประเทศไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

 

ด้านการขยายสัดส่วนสินเชื่อในตลาดต่างประเทศ TK ยังคงมองหาโอกาสและเดินหน้าขยายตลาดตามกลยุทธ์ทางธุรกิจที่กำหนดไว้ โดยจากมติการประชุมสามัญประจำปี 2563 ที่ผ่านมา ได้อนุมัติการเข้าซื้อกิจการของ เอ็มเอฟไอเอล (Myanmar Finance International Limited) หรือ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมา ล่าสุด TK ยังคงดำเนินการตามกระบวนการเข้าซื้อกิจการ โดยจะใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในเมียนมาด้วยการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว

 

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายกิจการสินเชื่อในตลาดเมียนมาครั้งนี้ TK  มองเห็นโอกาสการเติบโตที่น่าสนใจและผลประกอบการของธุรกิจสินเชื่อรายย่อย หรือ ไมโครไฟแนนซ์ ในเมียนมา ประกอบกับพิจารณาเห็นว่า MFIL จะสามารถเป็นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและช่วยเสริมเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของ TK ในภูมิภาคแถบอาเซียน ด้วยช่องทางการให้บริการที่อยู่ในเมืองสำคัญหลัก ๆ ในเมียนมา จะทำให้สามารถเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 15 สาขา พร้อมฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 70,000 ราย โดยจะสามารถให้บริการครอบคลุมรัฐที่สำคัญได้แก่ Yangon, Ayeyarwady, Bago และ Mon รวมถึง MFIL มีแผนงานที่จะเปิดสาขาเพิ่มใน Mandalay โดยคาดว่า หากสถานการณ์รัฐประหารคลี่คลายลง TK จะเร่งดำเนินการเข้าซื้อกิจการจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่งการเดินหน้ารุกตลาดในพื้นที่ดังกล่าว ยังมาพร้อมด้วยทีมผู้บริหาร และพนักงานที่มากประสบการณ์ ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ TK มั่นใจว่าจะทำให้บริษัทสร้างโอกาสใหม่ ๆ และพื้นฐานที่แข็งแกร่งในตลาดที่มีความน่าสนใจและเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หลังการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวสำเร็จจะทำให้ TK มีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 40ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนที่ 24 : 76 ณ สิ้นไตรมาส 3

 

ด้านการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 TK ได้เตรียมพร้อมระบบออนไลน์ผ่านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นภายในองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาระบบงานบริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ใหม่ มาทำงานบนโมบายแอพพลิเคชั่น โดยได้พัฒนาระบบดังกล่าวต่อเนื่องมาร่วม ปี ทำให้ปัจจุบัน “TK Plus” และ “TK Line” โมบายแอพพลิเคชั่นและระบบ IT ของ TK มีความพร้อมที่สามารถรองรับการใช้งานผ่านออนไลน์เต็มรูปแบบ มั่นใจจะสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการลูกค้าได้ โดยปัจจุบันมีลูกค้าของบริษัท Download มากกว่า 200,000 รายในประเทศ โดยไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการขานรับมาตรการทางสาธารณสุข การปฏิบัติตนเว้นระยะห่างจากสังคม (Social distancing) และเพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างเจ้าหน้าที่และลูกค้าผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ ยังสามารถบริหารเวลาการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย” นายประพล กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad