สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่
นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่ งประเทศไทยและประธานสถาบันน้ำ และสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ให้ข้อมูลว่า ตามการประเมินของ ENSO Model ซึ่งเป็ นโมเดลการทำนายปรากฏการณ์เอลนิ โญ่ (El Nino) กับความผันแปรของระบบอากาศในซี กโลกใต้ (Southern Oscillation) พบว่ าสภาพอากาศของประเทศไทยจะอยู่ ในรูปลานีญา (La Nina)* จนถึงสิ้นปี 2565 มีฝนสะสมทั่วประเทศมากกว่าค่ าปกติประมาณ 21% เนื่องจากอิทธิพลของพายุทั้ง 3 ลูก ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ได้แก่ “พายุมู่หลาน” ที่เคลื่อนที่เข้าปกคลุมจี นตอนใต้ เมียนมาตอนบน และลาวตอนบน “พายุหมาอ๊อน” ที่เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลั งแรงบริเวณประเทศลาวตอนบน และ “พายุโนรู” ที่มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวั ดยโสธร เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลั งแรง รวมถึงมรสุมและร่องมรสุมที่ สะสมตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา
ในปี 2565 นี้ สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ส่ งผลกระทบต่อภาพรวมในการผลิ ตของภาคอุตสาหกรรมเท่ากับช่วง “มหาอุกภัย” ในปี 2554 เนื่องจากภาครัฐได้เตรี ยมแผนการรับมือได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ เช่น การประชาสัมพันธ์พื้นที่เสี่ ยงภัย การจัดเตรียมเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ และการตรวจสอบสภาพคันกั้นน้ำให้ พร้อมใช้งาน และในส่วนของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงงานที่อยู่ในนิคมอุ ตสาหกรรม ที่มีการเตรียมความพร้อมในการรั บมือกับสถานการณ์ เพราะได้รับบทเรียนจากปี 2554 ซึ่งจะเน้นที่การติ ดตามสถานการณ์ รับข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ และเครือข่ายภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเตรียมแผนป้องกั นและลดผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโรงงานบางส่วนที่ได้รั บผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในครั้ งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานที่อยู่ นอกนิคมอุตสาหกรรม และตั้งอยู่บริเวณริมน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำป่าสั กด้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ถึงเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำ เจ้าพระยา เนื่องจากมีปริมาณมวลน้ำ จากทางภาคเหนือที่ไหลเข้ามาเพิ่ มขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้กรมชลประทานต้องปรับเพิ่ มการระบายน้ำเพื่อรักษาเสถี ยรภาพของเขื่อน
เมื่อย้อนกลับไปพิจารณาในช่ วงเดือนตุลาคม 2565 จะพบว่ามีพื้นที่ที่เกิดน้ำท่ วมสะสมมากถึง 44 จังหวัด มากกว่า 260 อำเภอ โดยมีโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ ประสบภัย 16,472 แห่ง ประมาณการว่าเป็นโรงงานที่ได้รั บผลกระทบ 14,995 แห่ง คิดเป็น22% ของโรงงานทั่วประเทศ และหากพิจารณาในส่วนของพื้นที่ ที่น้ำท่วมบริเวณภาคกลางในลุ่ มน้ำเจ้าพระยา จะพบว่ามีโรงงานตั้งอยู่ 14,055 แห่ง ประมาณการว่ามีโรงงานที่ได้รั บผลกระทบ 7,287 แห่ง โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมสำคั ญในภาคกลาง ประเมินว่ามีโรงงานที่ได้รั บผลกระทบประมาณ 1,560 แห่ง ซึ่งทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิ จของมหาวิทยาลัยหอการค้า ได้ประเมินความเสียหายในปีนี้ รวมทั้งสิ้น 1.2–2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายของภาคเกษตร 6,000-8,000 ล้านบาท และภาคอุตสาหกรรม 6,000-12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินไว้ ที่ 5,000-10,000 ล้านบาท เนื่องจากช่วงต้นเดือนตุลาคม มีพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมขั งเพิ่มขึ้น
จากบทเรียนที่ผ่านมา พบว่า การป้องกันปัญหาด้านน้ำของภาคอุ ตสาหกรรมควรพิจารณาให้ครอบคลุ มทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง และคุณภาพน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงได้เตรียมแผนบริหารความต่ อเนื่อง หรือ Business Continuity Plan (BCP) ในการป้องกันและรับมือกั บสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก คือ (1) ส่วนของการป้องกัน จะประกอบด้วยมาตรการในการเตรี ยมความพร้อม เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม น้ำแล้ง เน้นที่การติดตามสถานการณ์น้ำ ในปัจจุบัน เพื่อแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงประเมินสถานการณ์ และวิเคราะห์แนวทางการรับมือกั บปัญหา เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกั บผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด (2) ส่วนของการฟื้นฟู เป็นส่วนที่ กำหนดมาตรการในการให้ความช่ วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รั บผลกระทบ ให้กลับมามีศักยภาพในการดำเนิ นกิจการต่อได้ และ (3) ส่วนของการเยียวยา เป็นส่วนที่เน้นกิ จกรรมในการบรรเทาปัญหาภัยน้ำท่ วม น้ำแล้ง ที่เกิดขึ้นกับผู้ ประกอบการและชุมชนในบริ เวณโดยรอบ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ ดีและส่งเสริมการทำ CSR ในการอยู่ร่วมกับชุมชน
นอกจากนี้ ทางสถาบันฯ จึงขอใช้โอกาสนี้แจ้งเตื อนการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภั ยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากวันที่ 9 – 14 พฤศจิกายน 2565 ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ ปริมาณฝนตกหนักเพิ่มขึ้ นทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เนื่องจากร่องมรสุมยังพาดผ่ านภาคใต้ และมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพั ดปกคลุม ขอให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ ภาคใต้ รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ติดตามสถานการณ์จากหน่ วยงานภาครัฐ ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา และกรมชลประทาน เพื่อวางแผนรับมือสำหรับป้องกั นและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้ น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น